สังคม

สึกแล้ว ออกศึกได้! 'ทิดสมปอง' พร้อมโอน 2 แสน ขอ 'พี่ศรี' อย่าเบี้ยวต่อยมวย

โดย thichaphat_d

2 ม.ค. 2565

1.9K views

หลังสึกออกมาเรียกได้ว่าเป็นคู่ลิ้นกับฟันคู่ใหม่เลยก็ว่าได้ สำหรับ นายสมปอง นครไธสง หรืออดีตพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต กับพี่ศรี หรือนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ก่อนหน้านี้เคยปะทะคารมจนถึงขั้นประกาศพร้อมเตะปากกันมาแล้ว


โดยเมื่อคืนสิ้นปีที่ผ่านมา ในงานบรรยายสาธยายธรรม สวดมนต์ข้ามปี ณ หลวงพ่อทวด เขาใหญ่ ทิดสมปอง หรืออดีตพระมหาสมปอง กล่าวผ่านไลฟ์สดประกาศขอท้าต่อยมวยกับนายศรีสุวรรณ เป็นมวยไทยคาดเชือก ในวันวาเลนไทน์ที่ 14 ก.พ.2565 เป็นการต่อยมวยกันด้วยความรัก และเป็นการสะสางสิ่งที่ท้าทายกันผ่านเฟซบุ๊กจะได้จบลง หรือหากนายศรีสุวรรณไม่พร้อมในวันที่ 14 ก.พ.2565 ก็สามารถไปต่อยกันได้อีกครั้งในวันที่ 13 เม.ย.2565


โดยนายสมปองระบุว่า ผมพูดด้วยความมีสติ เร็วสุดวันที่ 14 ก.พ.นี้ ถ้าพี่ศรีพี่ไม่ซีเรียสเรื่องอายุและน้ำหนักก็ไม่ต้องต่ออะไร แต่ก็พร้อมต่อให้ ผมจะฟิตร่างกายสักเดือนครึ่ง ผมจะออกกำลังกายพอดี อยากมีซิกซ์แพค เพราะผมบวชมา ผมมีวันแพคมาตลอด


“ถ้าเร็วก็ 14 ก.พ. มาแสดงความรักด้วยหมัดเท้าเข่าศอก มวยไทยเต็มรูปแบบ เอาจริงครับ แต่คงไม่เตะถึงตายหรอก ดีไม่ดีแกอาจแอบแข็งแรงกว่าผมก็ได้ (พระถาม : โกรธแค้นกันเรื่องอะไร?) ไม่ได้โกรธแค้น พูดด้วยสติ ผมนึกถึงลูก 5 ขวบเขา ผมก็ไม่กล้าทำอะไรมาก ผมไม่เคยต่อยใคร ตีใคร รู้สึกว่าการทำให้คนอื่นเจ็บผมรับไม่ได้ คนอื่นทำผมเจ็บก็ได้ แต่ผมไม่อยากทำคนอื่น” นายสมปองกล่าว


นายสมปองกล่าวด้วยว่า ขออนุญาตพูดถึงรายการเท็นไฟท์เท็น (10Fight10) ถ้าทันซีซั่นหน้า ขอคู่พิเศษก็ได้ ขอเป็น 1 ใน 10 คู่ก็ได้ แม่ปอง VS น้องศรี หรือถ้าอยากซ้อมนานสัก 3 เดือนก็ได้ 13 เม.ย. วันสงกรานต์ แทนที่จะสาดน้ำกัน สาดเลือดเลยดีกว่า (หัวเราะ) สาดหมัดเท้าเข่าศอก ต่อให้เป็นเลือดก็เป็นเลือดด้วยความรัก


“ตั้งแต่ผมบอกว่าจะเตะปากพี่ศรี มีคนฝากผมเตะปากเยอะมาก แต่ผมสมมุตินะ สมมุติว่าผมเตะปากพี่ ผมพูดเล่นๆ เป็นจังหวะหยอก


“ผมเหมือนพูดเล่น แต่ถ้าพี่ต้องการจริงๆ ด้วยรักนะพี่ ขออนุญาตเตะปากด้วยความรัก 14 ก.พ.นี้ ซ้อมดีๆ แล้วเจอกันบนเวที กติกามวยไทยครบทุกอย่าง อย่าห้ามนั่นห้ามนี่ ผมไม่ชอบเวลาไปต่อยแล้วห้ามตีเข่า ขอแบบกติกามวยไทยเต็มๆ แบบนายขนมต้มเลย ผมอาจโดนพี่เตะก็ได้


“ถ้าวันนั้นคนดูเยอะ ยอดวิวเยอะ ผมมีผลิตภัณฑ์แม่ปองเยอะ เชื่อว่าคนดูเป็นล้าน ผมขายของไปด้วย 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายจะถวายวัดศิมาลัยทรงธรรม ให้หลวงปู่ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเกม” นายสมปองระบุ


ต่อมานายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาตอบเรื่องนี้กับทางข่าวสดออนไลน์ ว่าหากตนรับคำท้านายสมปองไป ก็คงเป็นดราม่ากันบนโลกโซเชียลไปจนถึงวันขึ้นชก แต่นายสมปองบวชมา 30 พรรษา ร่ำเรียนเปรียญธรรม 7 ประโยค มีความรู้ทางธรรมค่อนข้างเยอะ ส่วนตนร่ำเรียนศึกษาทางธรรมมาไม่เกินพรรษา หากเทียบกันก็ห่างกันลิบลับ แต่การมาท้าชกกับตนนั้นถือเป็นบุญวาสนา แต่เกรงจะเป็นบาปหนักที่ไปชกกับพระที่มีพรรษาสูง จึงไม่อยากรับคำท้า กลัวจะเป็นบาปกรรม


“คิดว่าการชกกันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร หากแต่อาจเป็นประโยชน์กับนายสมปอง เพราะอาจนำไปโปรโมตในเชิงธุรกิจการค้าของตัวเองได้ หากใครจะเยาะเย้ยถากถางผมที่ไม่รับคำท้าก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล ผมไม่อยากเอาเกลือไปแลกพิมเสน จะตำหนิจะว่าอะไรก็น้อมรับ”


นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า การแซวกันผ่านโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องปกติธรรมดา บางครั้งตักเตือนกันธรรมดาเล็กน้อย เป็นสีสัน ไม่ได้เป็นข้อขัดแย้งบาดหมางอะไร เพราะตนกับนายสมปองก็รู้จักกัน เคยพบปะพูดคุยกันฉันมิตรด้วยดีมาตลอด การโพสต์อะไรถือเป็นการตักเตือนเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทำร้ายให้เสียหาย


ส่วนเรื่องที่ตนโพสต์ถึงนายสมปองกรณีสึกออกมาทำธุรกิจแล้วรวยนั้น ก็เป็นเรื่องที่หลายคนสงสัย เพราะพระที่บวชก็จะละกิเลสทั้งปวงเพื่อมุ่งสู่ทางธรรม แต่ตอนนั้นนายสมปองยังไม่ทันจะสึกก็พูดถึงเรื่องทำธุรกิจ จึงสงสัยว่านายสมปองมีทรัพย์สินมากมายขนาดนั้นหรือ ขณะที่พระอื่นๆ ก็สึกไปตัวเปล่า ตนเลยโพสต์ตั้งข้อสงสัยไปก่อน จึงทำให้นายสมปองได้มาตอบกับสาธารณชนว่าตัวเองมีหนี้สินเยอะ แต่ที่มีทรัพย์สินได้เพราะไปช่วยเหลือคนอื่น และมีนายทุนมาช่วยเรื่องธุรกิจ ตอนนี้นายสมปองเป็นฆราวาสธรรมดาตนก็ไม่อาจไปตรวจสอบอะไรได้ เพราะคนที่ตนจะทำนั้นเป็นนักการเมือง ข้าราชการ ที่ใช้งบประมาณแผ่นดินและภาษีประชาชน นายสมปองเป็นประชาชนจะมีหรือไม่มีเงินก็เป็นเรื่องของเขา ตนไม่อาจเอื้อมไปตรวจสอบอะไรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้


ล่าสุด นายสมปอง ได้โพสต์ผ่านทางเพจ แม่ปอง ระบุว่า “พี่ศรี! ผมให้พี่ 2 แสนบาทเลย ส่งหน้าบัญชีมา พรุ่งนี้โอนให้ ขอข้อแม้เดียว “อย่าเบี้ยวขึ้นเวทีต่อยมวยคาดเชือกกับผมละกัน (เอาแบบรักษาวัฒนธรรมไทย มวยไทย มรดกไทย มรดกโลก) “ร่างกายอยากปะทะ แต่ใจมีธรรมมะตลอด”

คุณอาจสนใจ

Related News