รวบคนขับแท็กซี่ แอบซุกแรงงานเมียนมาท้ายกระโปรงหลัง หวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 พันเอก ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งจากหน่วยทหาร กองร้อย ร.2521 ประจำจุดตรวจศิลาสลัก บนถนนเพชรเกษม รอยต่อระหว่างจังหวัดระนองและจังหวัดชุมพร ได้ทำการเรียกตรวจค้น รถแท็กซี่สาธารณะ สีชมพูป้ายเหลือง หมายเลขทะเบียน ทส 8526 กรุงเทพมหานคร ที่กำลังมุ่งหน้าไป กทม.

พบคนขับรถแท็กซี่ ชื่อ นาย วิทวัช หรือ บอย อายุ 29 ปี ชาวอำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ขับรถแท็กซี่มาคนเดียว เพื่อที่จะกลับเข้า กทม. โดยมีพิรุธในระหว่างการพูดคุย จึงขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ พอเปิดท้ายกระโปรงหลังถึงตรวจพบแรงงานชายชาวเมียนมา จำนวน 1 คน นอนคุดคู้อยู่ในช่องเก็บสัมภาระหลัง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวิทวัช คนขับรถแท็กซี่ ให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางมาจาก กทม.มาส่งผู้โดยสาร จำนวน 1 คน โดยขากลับ มีคนติดต่อผ่านแอปพลิเคชัน เซโล่ ให้รับชาวเมียนมา 1 คน ที่หน้าห้างโลตัสระนอง เพื่อเดินทางไปส่งที่บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยได้ค่าจ้างเป็นเงิน 7,000 บาท

จนกระทั่งก่อนถึงจุดตรวจทหาร ประมาณ 2 กม. ได้ให้ชาวเมียนมาเข้าไปหลบซ่อนใต้ฝากระโปรงหลัง เพื่อเลี่ยงการตรวจค้นพบของเจ้าหน้าที่ประจำด่านทหาร จากนั้นเมื่อผ่านจุดตรวจไปได้ จะให้ ออกมานั่งที่โดยสารหลังตามปกติ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ส่วนการซักถามแรงงานชาวเมียนมา เป็นคนภูมิลำเนา เมืองทวาย และได้เข้ามาเป็นลูกจ้างที่โรงงานในพื้นที่ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง มาเป็นเวลา 5 ปี ต้องการเดินทางไปหาพ่อ ที่ จ.นนทบุรี และได้ขึ้นรถแท็กซี่มาจากหน้าห้างโลตัสระนอง โดยแสดงเอกสารหนังสือเดินทางผ่านแดนชั่วคราว หรือบอร์เดอร์พาส ซึ่งอนุญาตให้อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองระนองเท่านั้น ไม่สามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ได้

จากนั้นได้ดำเนินการตามมาตรการตามมาตรการสาธารณสุข ป้องกันโรคโควิด-19 โดยการตรวจวัดอุณหภูมิ พ่นแอลกอฮอล์ล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัย ก่อนควบคุมตัว พงส.สภ.ปากจั่น เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป