แรงงานเมียนมานับร้อยลอบเข้าไทย ถูกนายหน้าปล่อยทิ้งกลางป่า

ขณะนี้พบการทะลักของแรงงานชาวเมียนมาเข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวนมาก แต่ด้วยสภาพอากาศร้อน และนั่งแออัดมาเต็มคันรถ ทำให้รถรับจ้างมีปัญหาในการขนคน เมื่อตำรวจทางหลวงสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงนำคนไปทิ้ง และหลบหนีไป พบแรงงานหนีความร้อนเกือบเสียชีวิตในรถเกือบ 100 คน



รถหกล้อคลุมด้วยผ้าใบคันนี้ จอดอยู่ที่ลับตาคน ในอ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อสังเกตภายนอกอาจคิดว่าบรรทุกสิ่งของ แต่ความจริง กลับเป็นมนุษย์ที่แออัดกันมาเกือบ 100 คนภายในผ้าใบที่ร้อนระอุจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และไม่มีอากาศหายใจ ทำให้คนที่อัดกันมาข้างในพยายามดึงผ้าใบออก คนขับจึงกลัวความผิด นำคนไปทิ้งข้างทาง และขับรถหลบหนีไป ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานี จึงสะกดรอยติดตามไป



พบแรงงานเมียนมา กระจัดกระจายอยู่ในป่า จำนวนมาก นับได้ถึง 95 ราย เป็นชาย 64 ราย และหญิง 31 ราย จึงถูกนำตัวมาสอบถาม ให้การว่าเดินทางมาจากรัฐคะฉิ่น ของเมียนมา โดยผ่านทางด้านด่านเจดีย์สามองค์ โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 45,000 บาท บางคนลักลอบเข้ามา เส้นทางธรรมชาติ บ้านสิงขร จังหวัดประจวบ ชุดวิเคราะห์อาชญากรรมบนท้องถนนของตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งมี พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. เป็นหัวหน้าชุด ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการ2 ตำรวจทางหลวง ติดตามผู้ขับรถ นำแรงงานเมียนมานับร้อยไปทิ้ง กระทั่งพบว่าเป็นรถของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่คนขับนำรถบริษัทไปใช้ ผู้ประกอบการจึงติดต่อคนขับรถหกล้อให้มามอบตัว



จากการสอบสวนพบว่าผู้ขับรถบรรทุกมาจาก จ.ปัตตานี โดยผู้จ้างติดต่อกันผ่านไลน์ ให้ไปรอรับคน 95 คน ที่ประจวบฯ เมื่อมาถึง จ.สุราษฎร์ธานี แรงงานจะฉีกผ้าใบคลุมรถออก จึงจอดรถ และเห็นมีคนมาถ่ายรูป จึงกลัวถูกตำรวจจับ จึงปล่อยแรงงงานทิ้งในป่า จากการซักถามแรงงานชาวเมียนมา บอกว่า ยืนมาในรถตลอดทาง อากาศร้อนและเริ่มจะหมดสติ จึงเคาะรถและฉีกผ้าใบ โดยมีรถกระบะอีกคันขับมาด้วยกัน



จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ทำให้แรงงานชาวเมียนมาทะลักเข้าไทยไม่หยุด และขบวนการขนแรงงานข้ามชาติก็ฉวยโอกาสรับจ้างขนกันรายวัน เพราะได้ค่านายหน้า ค่าหัวคิว และได้ค่าจ้างขน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เนื่องจากโทษไม่หนัก จึงมีชบวนการขนแรงงานกันหลายกลุ่ม



โดยล่าสุด ชุดวิเคราะห์อาชญากรรมบนท้องถนน ของตำรวจสอบสวนกลาง พบรถต้องสงสัย ที่ชายแดนด้านจ.กาญจนบุรี เข้ามายังพื้นที่ชั้นใน จึงได้แจ้งไปยัง ผู้กำกับการ 2 ตำรวจทางหลวง และตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี สกัดจับรถกระบะบรรทุกหนัก แต่คนขับได้เร่งเครื่องหลบหนี จึงประสานไปยัง สภ.ลาดหญ้า แต่คนขับจอดรถทิ้งไว้ในป่าละเมาะ และแรงงานชาวเมียนมาวิ่งหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่ติดตามกลับมาได้ 7 คน โดยไม่มีเอกสารใดๆ จากการสอบถามเบื้องต้นคาดว่า มีแรงงานอัดกันมาในรถถึง 21 คน แต่วิ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้



จากการทะลักเข้าไทยจำนวนมาก ซึ่งตำรวจทางหลวง พบเห็นรถต้องสงสัยทุกวัน ในหลายพื้นที่ เมื่อเรียกตรวจก็จะเร่ง เครื่องหลบหนี และเมื่อถูกจับได้ ก็จะอ้างว่าไม่ทราบว่าใครจ้าง และยังไม่ได้ค่าจ้าง แต่ภาระการดำเนินการหลังจากนี้ ก็จะเป็นภาระของเจ้าหน้าาที่ไทย ที่จะต้องพยายามหาทางผลักดันให้กลับพื้นที่ต้นทาง แต่ด้วยความที่แรงงานเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ต้องการกลับ ก็หาทางเข้ามาใหม่ คนนำพาท้ั้งนายหน้า คนนำพา จึงต้องสำนึกว่าเป็นการนำคนเข้ามา