สังคม

ผลสอบสวน กรณีตร.สน.ทองหล่อ นำขบวนวีไอพี เสร็จสิ้น จ่อพิจารณาโทษทางวินัยพรุ่งนี้

โดย sujira_s

7 พ.ย. 2564

123 views

ผลสอบสวนข้อเท็จจริง ตำรวจจราจรสน.ทองหล่อนำขบวนหมอบุญเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมส่งให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลพิจารณาลงโทษทางวินัยพรุ่งนี้



จากกรณีมีคลิปภาพตำรวจจราจรขี่รถจักรยานยนต์ตราโล่ของสนทองหล่อในลักษณะสวนเลนมาบนถนนกำแพงเพชร 7 จนเกิดปากเสียงกับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ขับมาอีกช่องทางหนึ่งในสื่อออนไลน์จนทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับบุคคลที่ไม่มีสิทธิใช้รถนำขบวนที่ขับรถยนต์ตามหลังมา จนกระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้น


ล่าสุดทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พันตำรวจเอก ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยเพียงสั้นๆถึงผลการสอบสวนพันตำรวจโทสังเวียนคำรังษี อดีตสารวัตรจราจร สน.ทองหล่อ ที่ถูกกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มีคำสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 โดยขาดจากต้นสังกัด ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยต้องกรอบเวลาการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน


ล่าสุดผลการสอบสวนจากรองผู้กำกับการสน.ทองหล่อเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และส่งผลให้ตนเองพิจารณารับทราบในข้อเท็จจริงและผลการสอบสวนแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งไปให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พิจารณาส่งเรื่องต่อไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล คาดว่าภายในวันจันทร์นี้


โดยคนดังกล่าวน่าจะไปถึงผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนต่อไป ส่วนรายละเอียดว่าผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ ต้องรอให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้แถลงเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว แต่ยืนยันว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่ได้มีการให้การช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาแต่อย่างใด


ด้านพลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันว่าขณะนี้พอทราบข้อมูลแล้วว่าการสอบสวนดังกล่าวเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว แต่รอให้มีการรายงานอย่างเป็นทางการจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มาให้ตนเองได้ทราบในวันพรุ่งนี้ ซึ่งโทษดังกล่าวไม่น่าจะเป็นโทษร้ายแรง และไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 อย่างที่บางคนตั้งข้อสังเกตไว้


นอกจากนี้ ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก เพราะจะทำให้เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และภาพลักษณ์ของตำรวจโดยรวม

คุณอาจสนใจ