เปิดคำสารภาพ อดีตทหารคลั่งยิง 2 ศพ อ้างไม่รู้เป็น รพ.สนาม พาดพิงรุ่นพี่ เคยทำร้ายในค่าย

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุบุกยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปากซอยลาดพร้าว 25 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร จนเสียชีวิต ก่อนจะไปก่อเหตุยิงภายในโรงพยาบาลสนาม สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ช่วงกลางดึก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ก่อนขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หลบหนีมาบ้านญาติที่ จ.ระนอง ก่อนจะยอมมอบตัวในภายหลัง

ต่อมาในเวลา 18.50 น. คนร้ายถูกนำตัวมาสอบปากคำจากระนอง มายัง สน.พหลโยธิน กรุงเทพฯ โดยสวมชุด PPE โดยมีชุดหนุมาน ควบคุมตัว ทันทีที่ลงมาจากรถ นายกวิน มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่ต้องตัดสถานที่ให้นักข่าวยืนห่างๆ กันพื้นที่ห้ามเข้า เพราะนายกวินถือเป็นผู้เสี่ยงสูงกรณีที่เจ้าไปรพ. สนามมีผู้ป่วยโควิดอยู่ จากนั้นก็นำตัวเข้าห้องสอบปากคำทันที

พล.ต.ต จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อหา โดยตร.แจ้ง ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ

ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ มีปากเสียงกับแคชเชียร์ร้านสะดวกซื้อ เพราะทำขวดเบียร์ตกแตก จึงมีปากเสียงกัน และ กลับมาใส่ชุดลายพรางทหาร ที่พกไว้ในรถเป็นประจำ และอาวุธปืนลูกโม่ ที่ซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่งและโอนลอยจากนั้น ก็ลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ กระหน่ำยิงแคชเชียร์ร ที่มีปากเสียงกัน จำนวน 6 นัด

จากนั้นจึงขับรถกลับบ้าน ใน จ.ปทุมธานี ตอนนั้นเขายอมรับว่าควบคุมสติไม่ค่อยได้ และทางกลับบ้านต้องขับผ่าน สถานบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ซึ่งตอนนี้มีการปรับเป็นรพ.สนาม รักษาผู้ป่วยโควิด จึงขับรถเข้าไปภายในรพ.สนาม และก็กราดยิงผู้ป่วยเสียชีวิต และกราดยิงบริเวณอาคารผู้ป่วยทั่วไป ได้รับความเสียหายและขับรถหลบหนีไปจังหวัดระนอง

มูลเหตุแรงจูงใจ ในการก่อเหตุในรพ.สนาม ผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่รู้ว่าข้างในเป็นรพ.สนาม แต่เข้าใจว่า เป็นสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหา เคยมีเรื่องคับแค้นใจ กับกลุ่มที่เคยรักษาบำบัดในสถานที่แห่งนี้ จึงเข้าไปก่อเหตุโดยไม่รู้ว่าเป็นโรงพยาบาลสนาม

หลังก่อเหตุก็หลบหนีไป โดยมารู้ว่าที่ก่อเหตุนั้น ยิงผู้ป่วยโควิด ไม่ใช่กลุ่มที่เคยมีป้ญหาในอดีต ผู้ต้องหาบอกว่า เสียใจและอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่ก่อเหตุ มีอาการมึนเมา แต่ไม่มีสารเสพติด

ส่วนกรณีที่พบประวัติว่า เคยรักษาอาการป่วยทางจิต ต้องรอผลทางแพทย์ตรวจอย่างเป็นทางการ แต่ในทางคดี ดูจากการกระทำ

นอกจากนี้ประเด็น ที่ผู้ต้องหา อ้างว่ารุ่นพี่ ในอดีตที่เป็นทหารเกณฑ์ ที่เป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ถือว่าเป็นคำกล่าวอ้าง ซึ่งจะมีสอบถามกับรุ่นพี่ที่ถูกพาดพิง

ส่วนพฤติกรรมที่ใส่ชุดทหารไปก่อเหตุ รองผบชน.ระบุว่า ผู้ต้องหา เคยอบรมหลักสูตรพิเศษมาก่อน และชื่นชอบ ในเครื่องแบบทหารมีความภูมิใจในการเป็นทหารที่ผ่สนการฝึกอบรม แม้ว่าจะปลดประจำการแล้ว หลังปลดประจำการณ์เมื่อปี 2562 ก็มาทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งของ บริษัทเครือญาติตนเอง และจะเก็บชุดทหารไว้ในรถตลอดจนกระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้

สำหรับเช้าวันนี้ ตร.จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ ร้านสะดวกซื้อ และจะนำมาสอบปากคำที่สน.พหลโยธิน โดยตร.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พื้นที่ก่อคดีในรพ.สนาม ก็ประสานขออายัดตัว และจะมาสอบปากคำที่สน.พหลโยธิน และรับตัวไปทำแผนต่อไป

ส่วนที่ผู้ต้องหาเข้าไปที่รพ.สนามพื้นที่ผู้ป่วยโควิด จะติดเชื้อหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจเชื้อโควิดแล้ว ผลเป็นลบแต่ก็ต้องตรวจซ้ำ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Qe387wHQnsE