สังคม

ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ยันผู้อพยพสมัครใจกลับรัฐกะเหรี่ยง ไทยรับ 7 ผู้บาดเจ็บ เข้ารักษาพยาบาล

โดย passamon_a

31 มี.ค. 2564

21 views

วันที่ 30 มีนาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันผู้อพยพสมัครใจกลับรัฐกะเหรี่ยง แต่บางส่วนยังรอให้สถานการณ์คลี่คลายอีก 1-2 วัน ขณะที่วันนี้ไทยรับผู้บาดเจ็บจากการสู้รบ 7 คน เข้ามารักษาพยาบาล ขณะที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า ส่งผลให้ประชาชนกว่า 1 หมื่นคน หลบหนีความตายในป่า เรียกร้องประชาคมโลกกดดันพม่ายุติการใช้อาวุธต่อพลเรือน และขอไทยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อผู้อพยพ


เรือติดธงพยาบาลนำผู้บาดเจ็บ 7 ราย จากหมู่บ้านเดปุนุ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา มาส่งที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีทีมแพทย์และพยาบาล จากโรงพยาบาลสบเมย มารับที่ท่าเรือ นำผู้บาดเจ็บขึ้นเปลสนาม และรถพยาบาลนำมาตรวจอาการ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลบ้านแม่สามแลบ ในช่วงเที่ยงวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเรือพยาบาลได้มาที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบแล้วครั้งหนึ่ง แต่ต้องถอยออกไปเพื่อรอรถพยาบาลเดินทางมาถึง


โดยทีมแพทย์โรงพยาบาลสบเมย ในชุดพีพีอี ป้องกันโรคโควิด-19 ได้ตรวจสอบอาการบาดเจ็บ มีทั้งหมด 7 ราย เป็น ชาย 3 ราย หญิง 4 ราย ทุกคนบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า เมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม ที่หมู่บ้านเดปุนุ ส่วนใหญ่มีแผลไหม้จากสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย มีอาการหนักสามคน เช่นขาหัก ผู้บาดเจ็บบอกว่า พวกเขาใช้เวลา 3 วันในการเดินทางมายังริมน้ำสาละวิน เพื่อขอมารักษาพยาบาลในไทย ขณะเกิดเหตุอาศัยอยู่ในบ้าน ก่อนมีเสียงระเบิดลงมาในหมู่บ้าน จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นครอบครัวหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียพ่อ และ 2 คนบาดเจ็บ


ผู้บาดเจ็บชาวกะเหรี่ยง เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ประชาชนในหมู่บ้านยังคงหลบหนีอยู่ตามป่า เพราะยังมีการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า ซึ่งยังไม่รู้ว่ายุติเมื่อใด และต้องขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ช่วยเหลือให้มารักษาอาการบาดเจ็บ เพราะหวาดกลัวที่จะตายเสียก่อน และเมื่อรักษาหายแล้วก็จะกลับไปรัฐกะเหรี่ยง


สำหรับผู้อพยพที่เข้ามายังประเทศไทย ตามริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ล่าสุดได้อพยพกลับไปกว่า 2,500 คนแล้ว ยังคงเหลือบางส่วน ประมาณ 800 คน ตามจุดต่าง ๆ


นายสิทธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แถลงยืนยันว่า กองกำลังนเรศวรได้ดำเนินการดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งเจรจาสร้างความเข้าใจให้ผู้หนีภัย ยินยอมเดินทางกลับโดยสมัครใจ ซึ่งส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์และคลายความกังวล เหลือเพียงบางส่วนที่คาดว่าจะกลับภายใน 1-2 วัน และหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ทางจังหวัดจะจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบ ตามหลักมนุษยธรรมและกฏหมายระหว่างประเทศ


โดยผู้อพยพจำนวนหนึ่งที่ยังอยู่ฝั่งไทย มีกลุ่มหนึ่ง 76 คน อยู่ก่อนถึงบ้านท่าตาฝั่ง ได้รับการช่วยเหลือให้อยู่ในพื้นที่ริมน้ำ รอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายก็จะเดินทางกลับไปยังรัฐกะเหรี่ยง


ขณะที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นยู ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า ที่หมู่บ้านเดปุนุ เมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัส 8 คน และส่งผลให้ประชาชนกว่า 1 หมื่นคนหลบหนีหาที่พักพิงในป่า บางส่วนหนีภัยมายังประเทศไทย จึงไม่มีเหตุผลที่ทหารพม่าจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์ แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ หรือ เอ็นซีเอ แต่กองทัพพม่าได้ขยายกำลังทหารในดินแดนกะเหรี่ยงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งการสร้างถนน และการสังหารสตรีรายหนึ่ง


ทำให้กองกำลังทหาร KNU ต้องออกประกาศหากมีการกระทำที่ขัดข้อตกลงหยุดยิง ย่อมมีความชอบธรรมในการปกป้องประชาชน เช่น การตัดเส้นทางส่งเสบียงของทหารพม่า และเรียกร้องให้ทหารพม่าถอนกำลัง รวมทั้งความลึกลับของการส่งข้าวให้ทหารพม่าผ่านประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งในแผนที่เจตนาที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกะเหรี่ยงกับไทย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และเคเอ็นยูมองเห็นการรุกรานของทหารพม่าที่มีขึ้นในวันที่ 27 มีนาคม จึงได้แจ้งเตือนประชาชน จนเกิดปฏิบัติการที่ร้ายแรง


จึงเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศรวมทั้งรัฐบาลไทย ให้ความช่วยเหลือและความคุ้มครองด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นแก่ประชาชนที่หลบหนี และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศตัดความสัมพันธ์และกดดันให้ทหารพม่ายุติการใช้อาวุธต่อพลเรือน ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงต่อมนุษยชาติ

คุณอาจสนใจ

Related News