ผัวสุดช้ำ เมียนอกใจ มีชู้ 5 คน แถมพาลูกไปอยู่บ้านชู้ กีดกันไม่ให้เจอ พยายามเจรจา กลับถูกคุกคาม ข่มขู่

นายเอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมพ่อและแม่ภรรยาเดินทางมาร้อง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังภรรยา อายุ 29 ปี นอกใจมีชู้ จนท้องแต่เอาลูกไปอยู่ด้วย ซึ่งตนเองอยากฟ้องชู้ ขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียว


โดยนายเอ บอกว่า ตนเองคบกับภรรยามาตั้งแต่ปี 2560 และ จดทะเบียนสมรสกันปี 2562 ก่อนจะแต่งงานกันในปี 2563 ซึ่งตนเองเริ่มเห็นภรรยามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ช่วงหลังจดทะเบียนสมรส ประมาณปลายปี 2562 ซึ่งชายคนนี้เป็นคนที่รู้จักกันกับภรรยาและตนเอง ซึ่งพอตนรู้ก็ไปเคลียล์ จนภรรยาบอกว่าจะเลิกยุ่งกันไป


จนกระทั่งช่วงปี 2563 ภรรยาท้องและคลอดลูกออกช่วงเดือนสิงหาคม 2563 จากนั้นภรรยาก็ขอกลับไปทำงาน ซึ่งตนเองก็ออกจากงานมาเลี้ยงลูก และภรรยาก็ไปทำงานและมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จนตนเองมารู้ว่า ภรรยาเริ่มมีอีกคน จึงเค้นถามแต่ก็บอกว่าไม่มีอะไรและจบกันไปในช่วงปี 63 ซึ่งตนเองยอมรับว่าเสียใจ แต่ก็อยู่เพราะลูก จนตนเองและภรรยาออกไปอยู่คอนโดด้วยกัน ซึ่งตนเองยังเป็นคนเลี้ยงลูก


วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ตนเองมาทราบว่าภรรยาไปเป็นชู้ของครอบครัวหนึ่ง เนื่องจากแฟนของชู้คนที่ 3 ส่งรูปและคลิป ลักษณะกอด จูบ และนอนด้วยกัน ระหว่างภรรยาตัวเองและชู้ และภาพถุงยางอนามัย ตอนนั้นตนเองช็อกมาก และมาทราบภายหลังว่า แฟนของชู้พยายามไปเคลียร์กันหลายรอบแต่ไม่จบ จึงส่งรูปมาให้ตนเอง ซึ่งตนเองพยายามขอเคลียร์ แต่ก็ไม่ได้เคลียร์สักที จนเรื่องไปถึง ผอ.โรงพยาบาล ก็ไล่ออกชู้คนนั้น ส่วนตนเองและภรรยาก็ไปเคลียร์ที่บ้าน ยอมรับว่า ตนเองเครียดมาก ถึงขั้นไปร่ำลาลูกสาว พ่อตาแม่ยายและแม่ของตัวเอง หวังจะไปจบชีวิตที่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เคราะห์ดีพ่อตาแม่ยายและแม่มาห้ามทัน จึงกลับมาคุยกับภรรยาว่าจะขอดูลูกและอยู่กันเพื่อลูก โดยที่จะยังไม่หย่า เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกมีปัญหาครอบครัว


กระทั่งช่วงธันวาคม 2565 ภรรยาก็กลับมามีพฤติกรรมแบบเดิมอีก แต่ครั้งนี้ภรรยาได้ให้ทนายความ นัดมาคุย ซึ่งตนเองก็เอะใจ เพราะเสียงของทนายความคุ้นเหมือนเคยได้ยินภรรยาคุยในห้องน้ำที่คอนโด และตอนนัดคุยกัน ตนก็ถามจะฟ้องหย่าตนในประเด็นอะไร ภรรยาก็บอกว่า ตนเองคุกคามทางเพศลูกสาว ซึ่งตนเองก็แย้งไปว่าเป็นพ่อ เลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งอาบน้ำและลูกเพิ่งอายุไม่กี่ขวบ ตนก็ต้องสอนวิธีการทำความสะอาดร่างกายในฐานะคนเป็นพ่อและทำงานด้านการแพทย์ ซึ่งตนก็แย้งไป แค่ภรรยาไม่ยอม เขาเอาลูกไปอยู่บ้านพ่อตาแม่ยาว และตนก็ถามว่าผู้ชายที่มาช่วยเป็นทนายจริงหรือไม่ ทางภรรยาและผู้ชายคนนั้นก็ยืนยันว่าเป็นทนาย แต่ตนไปหาประวัติกลับไม่พบ


ช่วงกุมภาพันธ์ 67 พ่อกับแม่ของภรรยาก็เห็นว่าภรรยาพาทนายคนนี้มานอนที่บ้าน ซึ่งตนก็ตกใจ และช่วงมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงวันเกิดของตนเอง ก็เห็นว่าภรรยาไปเที่ยวเมืองจีนกับชู้คนที่ 5 มีการถ่ายรูปลงโซเชียลกันอย่างเปิดเผย ทั้งที่ยังไม่ได้หย่ากับตนเอง ปละภรรยาก็เอาลูกไปอยู่ที่บ้านของชู้ ซึ่งตนพยายามขอพบลูก แต่ก็ถูกกีดกัน รวมถึงพ่อตาแม่ยายก็ถูกกีดกันไม่ให้พบหลาน จนวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ภรรยาตนโทรมาหาพ่อแม่ของเขา บอกถูกชู้คนที่ 5 ทำร้าย เนื่องจากชู้คนที่ 5 จับได้ว่า ภรรยาตนไปมีชู้อีกคน ซึ่งเป็นชู้คนที่ 4 ที่เป็นอาจารย์หมอ ทำให้ชู้คนที่ 5 ระแวงและทำร้ายซึ่งตอนนี้ ภรรยาตนท้องกับชู้คนที่ 5 ได้ 2 เดือนแล้ว


ที่ผ่านมา ตนเองได้ผลกระทบเรื่องการจ่ายค่าบ้าน โดยที่ภรรยาคนนี้ไปกู้ธนาคารมา 2,500,000 บาท ช่วงแรกยังส่งค่าบ้านปกติ หลังจากนั้นขาดส่งมา 4-5 งวด หลังจากนั้นตนเองต้องวางเงินส่วนตัว 80,000 บาท เพื่อจ่ายค่างวดบ้าน เพราะกลัวถูกยึด จนตอนนี้ตนเองไม่จ่ายค่างวดบ้านแล้ว จะปล่อยให้ทางกฎหมายดำเนินการ ศาลเรียกคุยกัน 30 กันยายนนี้ เพราะภรรยาเอาเงินที่กู้ และที่เหลืออยู่ ไปใช้ส่วนตัวแล้ว


ซึ่งตนเดินทางมาวันนี้ เพราะต้องการให้นายเอกภพช่วยเหลือเรื่องของการฟ้องชู้ เพราะตนต้องการดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งชูคนที่ 5 มีพฤติกรรมข่มขู่ อ้างว่ารู้จักกับคนใหญ่คนโต ซึ่งตนเองก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย


ด้านพ่อตา เผยว่า ตนเองไม่ทราบว่าลูกสาวไปรู้จักยังไงกับชู้คนที่ 5 แต่เท่าที่รู้คือตอนนั้นลูกสาวอยากฟ้องหย่ากับลูกเขย จึงไปปรึกษาทนาย และหลังจากนั้นก็อะไรยังไงตนก็ไม่ทราบ และมารู้ทีหลังว่า ลูกสาวไปเที่ยวและคบหาคนคนที่เป็นทนายความ และออกไปอยู่ด้วยกันและกีดกันทุกคนไม่ให้ไปยุ่ง บอกอย่ายุ่งกับครอบครัวใหม่ของเธอ และไม่ให้เจอกับหลาน


ตนในฐานะคนที่เลี้ยงหลานมาตั้งแต่เกิด เลี้ยงมาร่วมกับพ่อของหลานก็รู้สึกสงสารไปช่วยกันตามหา จนกระทั่ง 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ลูกสาวโทรมาบอกว่าถูกทำร้าย และอยากให้พ่อไปช่วย ตนและลูกเขยจึงรีบพยายามติดต่อกับตำรวจ สภ.บางไทร ให้เข้าไปช่วยคุย สุดท้ายชายชู้ก็ปล่อยลูกสาวและหลานออกมา จึงไปลงบันทึกประวำวันไว้ และหลังจากที่ลูกสาวกลับมาอยู่บ้าน ชายชู้ก็พยายามมาดักรอ


ด้านนายเอกภพ บอกว่าหลังจากนี้ จะประสานไปยัง สน.และ สภ.ที่มีการฟ้องดำเนินคดีต่างๆ ไว้ และจะประสานทนายความเรื่องฟ้องชู้ให้กับผู้ร้องด้วยและจะไปคุยกับพรรคการเมืองที่ชู้คนที่ 5 ทำงานเป็นอนุกรรมาธิการ ว่ารับคนแบบนี้อยู่ในพรรคได้อย่างไร มีพฤติกรรมข่มขู่แบบนี้ รวมถึงจะพาผู้เสียหายเข้ากระบวนการคุ้มครองพยานที่กระทรวงยุติธรรม

โดย panisa_p

2 ก.ย. 2567

189 views

EP อื่นๆ