สุดรันทด 3 แม่ลูก ป่วยหนัก​ไม่มีเงินรักษา​ตัว ขอข้าววัดประทังชีวิต มีรายได้แค่เบี้ยคนชรา-บัตรคนจน

สุดรันทด แม่ชราป่วยไตระยะสุดท้าย อยู่กับ ​2 ลูกชายป่วยหนัก​ ขอข้าววัดประทังชีวิต ซ้ำร้ายไม่มีเงินรักษา​ตัว ทั้งครอบครัวมีรายได้เบี้ยคนชรา-บัตรคนจน เพียง 1,300 บาท

จากกรณีมี​ชาวบ้านร้องเรียนเข้ามายัง​เพจเฟชบุ๊ก​ “ดร.แก้วช่วยได้” ว่ามีครอบครัวหนึ่ง​ใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก​ 3 คน แม่-ลูก​ ซึ่งป่วยหนักกันทั้งบ้าน​ โดยแม่เป็นผู้สูงอายุ ป่วยเป็นโรคไต​ พี่ชายคน​โต​เป็นถุงลมโป่งพอง​ และน้องชายคนเล็ก​ กลายเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง​ อยู่กันลำพังภายใน​บ้านเก่าๆ สภาพทรุดโทรม ภายในซอยสามัคคี​ 3​4 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี​​ จ.​นนทบุรี​

วันที่ 31 ส.ค. 67 ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือดร.แก้ว ประธานกต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ และผู้ก่อตั้งเพจ​ “ดร.แก้ว​ช่วยได้” พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ไปยังบ้าน​หลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านปูนหลังเก่า​ ภายในบ้านเริ่มผุพัง แต่มีรั้วรอบขอบชิด เข้าไปภายในบ้านพบนางมนัสนันท์​ เทศทัน​ อายุ​ 78 ปี​ พักอาศัยอยู่ภายในห้องพักเล็กๆ ซึ่งมีลักษณะซูบผอม ขาทั้งสองข้างบวม

โดย นางมนัสนันท์ เล่าว่า ตนเองนั้นล้มป่วย เป็นเบาหวานความดัน โรคหัวใจ และที่หนักกว่านั้นเป็นโรคไตระยะสุดท้าย แพทย์ได้นัดผ่าตัดแล้วแต่ตนไม่สามารถที่จะผ่าตัดได้ เพราะทราบจากทางโรงพยาบาลว่าในการผ่าตัดนั้นจะต้องใช้เงินส่วนต่างถึง 30,000 บาท และเมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว ต้องมีการดูแลรักษาตัวเองอีกหลายอย่าง รวมถึงต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลด้วย จึงยอมที่จะไม่เข้ารับการรักษา และคิดว่าถ้าจะต้องตาย เพราะไตวาย​ ก็คงต้องยอม

ชีวิตลำบากมาก ตั้งแต่ลูกชายทั้ง 2 คน เริ่มล้มป่วย ลูกชายคนเล็ก อายุ 45 ปี เส้นเลือดในสมองตีบ กลายเป็นคนพิการ ส่วนลูกชายคนโต อายุ 46 ปี เป็นโรคถุงลมโป่งพอง ทำงานหนักไม่ค่อยได้ ตอนนี้รับซ่อมรองเท้ามีรายได้ เพียงวันละ 150 บาท ทุกวันนี้ตนได้รับเงินเบี้ยคนชรา 700 บาทต่อเดือน พร้อมกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 600 บาท​ รวมแล้วมีรายได้ 1,300 บาทต่อเดือน ก็เอาไว้กินไว้ใช้ และจ่ายค่าไฟ ซึ่งก็แทบจะไม่พอเลี้ยงปากท้องกัน 3 คน แม่-ลูก

ถึงขนาดที่ว่าชาวบ้านที่คอยรับ-ส่งพระบิณฑบาต นำข้าววัดมาให้ตนกินทุกวัน​ และบางเดือนต้องลุ้นหาเงินมาจ่ายค่าไฟ โดยลูกชายคนโต เพิ่งมีคนมาจ้างให้ซ่อมรองเท้า ได้ค่าจ้างวันละ 150 บาท แต่ไม่ใช่ว่าได้แบบนี้ทุกวัน ต้องใช้เงินส่วนนี้เก็บไว้เป็นค่าไฟเพราะค่าไฟที่บ้านแพงมาก เดือนหนึ่งเกือบ 2,000 บาท​

นางมนัสนันท์ ยังบอกอีกว่า ตนรู้สึกดีใจมาก ที่วันนี้มี ดร.แก้ว และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลงพื้นที่มา ตนอยากจะให้ทางหน่วยงานช่วยดูแลลูกชายที่ป่วยทั้ง 2 คน เพราะทั้ง 2 คน ยังไม่ได้รับเงินเบี้ยคนพิการเลย ทั้งที่ลูกชายมีลักษณะที่ไม่ปกติดูแล้วยังไงก็พิการอย่างแน่นอน

ทางด้าน  น.ส.มาเรียม​ ฉิมพัด​ ชาวบ้านในพื้นที่ บอกกับทีมข่าวว่า ครอบครัวนี้ค่อนข้างน่าสงสารมาก​ ป่วยกันทั้งบ้าน ต่างคนต่างช่วยดูแลกัน ทั้งที่เป็นคนป่วย ที่น่าสงสารเลยคุณยายมนัสนันท์ แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าต้องผ่าตัดรักษาโรคไต​ระยะสุดท้าย แต่คุณยายเลือกที่จะไม่ผ่าตัดและใช้ชีวิตต่อไป เพราะว่ารู้ว่าถ้าผ่าตัดมาต้องมีคนดูแลช่วยเหลือ แต่ลูกทั้ง 2 คนก็ป่วย แกก็ไม่อยากเป็นภาระให้ใคร

ที่สำคัญสังเกตดูที่บ้านของคุณยายผุพังไปหมด แม้แต่ประตูห้องน้ำบ้านคุณยายก็ไม่มี ส้วมที่บ้านคุณยายก็เต็ม จะขับถ่ายทีก็ลำบากไปหมด ตนรู้สึกดีใจมากที่วันนี้มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ที่ผ่านมาตนทำได้แค่นำข้าวนำปลามาให้กิน และบางครั้งก็ต้องเรี่ยไรเงินกันช่วยค่าไฟบ้านคุณยาย

ด้านนายพงษภัทร แสงพิทูร นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ จังหวัดนนทบุรี เผยว่า​ หลังจากนี้ก็จะดำเนินการช่วยเหลือให้คุณยายเข้าถึงสวัสดิการ การปรับปรุง สภาพบ้านของผู้สูงอายุ ที่มีงบให้ไม่เกิน 40,000 บาท และจะประสานทางกระทรวงสาธารณสุข ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไต​ระยะสุดท้าย และเรื่องการให้สิทธิ์ผู้พิการกับบุตรชายของคุณยาย เพื่อที่จะได้เข้าสู่สวัสดิการแห่งรัฐต่อไป


โดย nicharee_m

31 ส.ค. 2567

232 views

EP อื่นๆ