ส่อวุ่น! มือปืนโต้กลับหลังมอบตัว ปมถล่มยิงบ้าน ชี้ไม่ใช่เรื่องแชร์ แต่ถูกเบี้ยวเงินยาเสพติด

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ เรื่องเด่นเย็นนี้นำเสนอเหตุคนร้ายรัวกระสุนยิงใส่รถ ที่จอดหน้าบ้านหญิงสาวรายหนึ่ง ย่านดอนเมือง โดยมีปมเหตุมาจากการทวงเงินค่าแชร์ ล่าสุด ส่อแววคดีพลิก มือปืนแฉกลับ ยิงถล่มบ้าน ปมเบี้ยวเงินยาเสพติด ไม่ใช่แชร์


จากเหตุการณ์คนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์ไปรัวยิงกระสุน 11 นัด หน้าบ้านของหญิงสาวรายหนึ่ง เมื่อช่วงตี 5 กว่าๆ เมื่อวานนี้ ที่บ้านแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง ซึ่งกระสุน 1 นัดทะลุเข้าไปในห้องนอนของหญิงผู้เสียหาย และลูกสาววัย 4ขวบ


ซึ่งหลังจากเมื่อวานที่เรื่องเด่นเย็นนี้ นำเสนอไป ปรากฎว่า นาย ค. คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนกราด ก็ติดต่อผ่านเพจสายไหมต้องรอด มาเมื่อช่วงค่ำ พร้อมแคปหน้ากราฟิกของรายการฯ มา และระบุข้อความว่า "ผมอยากไปมอบตัวครับ"


คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จึงประสาน และ พูดคุยกับนาย ค. ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก็คือ นายคิง จึงพามามอบตัวกับ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง เมื่อตอน 5 ทุ่มกว่า ๆ


บางช่วงของการพูดคุย นายคิง ให้ข้อมูลว่า หลังก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ส่วนอาวุธปืนก็เอาไปขว้างทิ้งไว้ข้างทาง ซึ่งอ้างว่าไม่รู้ว่าขว้างไปที่ไหน เนื่องจากตอนนั้น ดมยาเค และ มีอาการเมายาด้วย จึง แต่รู้ว่าอยู่ในเขตดอนเมือง โดยเป็นปืนกล็อก 17 หาซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตในราคา 9,000 บาท ซึ่งได้ซื้อมาพกติดตัวไว้นานแล้วแต่เมื่อมีการขยายผลจึงไปเจออาวุธปืน แถวบ้านย่านคู้บอน


นอกจากนี้ นายคิง ยังให้การว่า สาเหตุที่ก่อเหตุยิงถล่มบ้านโรส เป็นเรื่องซื้อยาเสพติด ซึ่งอ้างว่ามีบุคคลในแก๊งตน ชื่อว่า นารากะ มาจ้างวานให้ตนเองติดต่อซื้อยาเสพติดกับ นางโรส ผู้เสียหาย


โดยซื้อมาสามครั้ง ครั้งละ 20,000 เม็ด โดยตนได้เงินส่วนแบ่งครั้งละ 2 หมื่นบาท ครั้งล่าสุดได้เงิน 1 แสนกว่าบาท ครั้งล่าสุดถูกนาย ต. โกง รวมถึง หญิงผู้เสียหายที่ถูกยิงรถเมื่อวานด้วย โดยอ้างว่ามีการสั่งยาผ่านนาย ต. และ นาย ต.ไปสั่งกับหญิงรายนี้อีกที


สาเหตุที่ก่อเหตุ เพราะโมโห และพยายามขอคุยดีๆ แต่ฝ่ายหญิงบอกว่า ตนพูดไม่สวย เงินแค่นี้เอง ซึ่งนายคิงอ้างว่า ตนเองกลับต้องมารับผิดชอบ ต้องมารับสภาพ ทำให้รู้สึกโมโห แต่ไม่ได้ตั้งใจ ตนเองรู้ว่าผู้เสียหายเป็นสุภาพสตรี แต่ก็อยากให้เขาเสียหายบ้าง จะได้รับผิดชอบ ได้รับรู้ว่าตนเองก็เดือดร้อนและจากเหตฺการณ์นี้ ทำให้เจ้าของเงิน 1 แสนกว่าบาทในแก๊ง ส่งลูกน้องมากระทืบตน จนใบหน้ามีรอยช้ำ และยังข่มขู่ว่า ถ้าตนเอายาเสพติดมาให้ไม่ได้ จะเอาชีวิตตนและครอบครัว


วันนี้ทีมข่าวเดินทางกลับไปที่บ้านหลังเกิดเหตุย่านดอนเมืองอีกครั้ง และพยายามติดต่อคุณโรส หญิงผู้เสียหาย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฎว่าบ้านถูกปิดไว้ มีเพียงคุณยายของหญิงรายนี้ ที่ออกมาบอกกับทีมข่าวว่า ไม่มีใครอยู่บ้าน ทั้งหลานสาว และลูกสาวออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ไม่ทราบว่าไปไหน ทีมข่าวก็พยามติดต่อทางโทรศัพท์ของหญิงรายนี้ตั้งแต่เช้า โทรติด แต่ไม่มีคนรับสาย


ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวานนี้ จากข้อมูลของผู้เสียหาย และเพื่อนบ้าน ระบุว่า มีรถจักรยานยนต์มา 3 คัน ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ตอนช่วงประมาณตี 5.36 น. ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมากกว่า 10 นัดและ ประมาณ 05.40 น. จะเห็นภาพรถจักรยนต์ยนต์ 3 คันขับกลับไป


ซึ่งตลอดทั้งวัน ที่ สน.ดอยเมือง นายคิงยังถูกคุมตัว เพื่อสอบปากคำอย่างอย่างละเอียดอยู่ที่ชั้น 2 โดยยังไม่มีการคุมตัวลงมาที่ชั้นล่าง ขณะเดียวกันก็มีพ่อของนายคิง เดินทางมารอเยี่ยมลูกชาย ซึ่งให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า ไม่ได้อยู่กับลูก เลยไม่ทราบรายละเอียด แต่เมื่อทราบว่าลูกมามอบตัวจึงมาเยี่ยม


ส่วนเมื่อคืนมีนาย ต. และแม่ ที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่เกิดเหตุเข้ามาให้การในฐานะพยาน ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัวกลับไป ขณะนี้ยังเหลือชายที่แต่งชุดไรเดอร์อีก 1 คน ที่ยังไม่เข้ามาให้การ ซึ่งระหว่างการติดตามตัว ขณะเดียวกันวันนี้ ทีมข่าว ได้เดินทางไปตามหา นาย ต. ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในคืนวันเกิดเหตุ โดยไปหาที่บ้านพัก ซึ่งเจ้าตัวก็เล่าให้ฟังว่า เคยมีการนัดคุยกับแล้วรอบหนึ่ง โดยครั้งนั้น นาย ต. ไปกับนาย คิง เพื่อไปคุยกับหญิงรายนี้ ซึ่งก็คุยกันดี

แต่พอเมื่อวาน มีการนัดอีกครั้ง ซึ่งตนก็นัดเจอกับนายคิง แต่ปรากฎว่านายคิง พาเพื่อนมาด้วย ทำให้ตนตกใจ ซึ่งนายคิงบอกให้ตนพาไปบ้านผู้หญิงผู้เสียหาย ตนเองจึงเอะใจ ว่าทำไมถึงเอาเพื่อนไปด้วย ด้วยความเอะใจ จึงรีบขี่มาที่บ้าน เพื่อรับแม่ของตน เพื่อให้แม่ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ มาเป็นพยาน หากตนเองมีเจตนาที่จะไปยิงจริง ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอาแม่ไป ขณะเกิดเหตุแม่ของตน ยังยกมือไหว้นายคิงเพื่อขอร้องไม่ให้ยิง ส่วนตัวเองก็ใช้มือกัน และห้ามไม่ให้นายคิงก่อเหตุ

ปมสาเหตุ ยืนยันเป็นเรื่องแชร์ ไม่ใช่เรื่องยาเสพติด ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนายคิงถึงไปพูดว่าเป็นเรื่องยาเสพติด แต่ตนคิดว่า ที่พูดไป อาจจะเป็นเพราะโมโห หรืออาจจะหมั่นไส้ จึงพูดไปแบบนี้ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่เกี่ยวกับยาเสพติด

พร้อมกันนี้ ยืนยันว่ารู้สึกตกใจมาก หลังเป็นข่าว และที่นายคิงให้การว่า มีเจ้าของเงินในแก๊งนะระกะ นั้น ยืนยันว่าตนไม่รู้จัก ส่วนตนรู้จักกับนายคิงจากวงการพระเครื่อง มีการซื้อขายพระเครื่องกัน คุยกันต่อมาเรื่อยๆ

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/w6t5xMzqS7o