‘เอ็ม อภิดิศร์’ โอดอยู่ในคุกลำบาก หลังศาลค้านประกันหน 3 เหตุคลิปแอบถ่ายมัดตัว หวั่นยุ่งเหยิงพยาน

ศาลไม่ให้ประกัน “เอ็ม  อภิดิศร์” เป็นครั้งที่ 3 เหตุคลิปแอบถ่ายมัดตัว หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หากสุจริตควรมอบตั้งแต่ต้น เจ้าตัวโอดอยู่ในคุกลำบาก - ด้านดาราสาว เผยละเอียดหลังเห็นคลิป ลั่น ผู้ต้องหาพยายามชี้นำให้ตอบสมยอม ยันขณะนั้นไม่มีสติ คล้ายเมายา ลั่น กรรมตาสนอง หลังศาลไม่ให้ประกัน “เอ็ม”


วานนี้ (6 ก.ย.65)  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือ เอ็ม อายุ 33 ปี หลานชายอดีตรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีวางยาข่มขืน ดาราสาววัย 22 ปี ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ย่านนาคนิวาส 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวครั้งที่ 3  ในชั้นฝากขังต่อศาลอาญา และยื่นขอประกันหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท เป็นหลักประกัน


โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า เดิมศาลนี้เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เพราะเหตุว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งไม่ยินยอมให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ต้องหา  ต่อมาในวันเดียวกัน ผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเป็นครั้งที่ 2 โดยอ้างว่ายินดีที่จะมอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง  ซึ่งศาลนี้ยังคงมีคำสั่งว่า การที่ผู้ต้องหามอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ ภายหลังจากที่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ก็ไม่เป็นเหตุให้การยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานตั้งแต่ต้นและภายหลังการขอปล่อยชั่วคราวจะสิ้นสุดลง จึงให้ยกคำร้อง

และในวันที่ 1 ก.ย.65 มีการไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาได้แสดงหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอภายหลังจากมีเหตุกระทำชำเราแล้ว แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหายังคงมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานเพราะหากผู้ต้องหามีความสุจริตก็สามารถแสดงพยานหลักฐานต่าง ๆ ต่อพนักงานสอบสวนได้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่การที่ผู้ต้องหาสร้างพยานหลักฐานขึ้นมาในขณะที่ผู้เสียหายไม่ได้ล่วงรู้หรือยินยอม จึงยังถือว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอันเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งยกคำร้องมาแล้วถึง 2 ครั้ง กรณีนี้ จึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมให้ยกคำร้อง


ขณะที่บรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี ทันทีที่ศาลมีคำสั่งเอ็มไม่ให้ประกันเอ็มได้หันไปคุยกับแม่และมีการกอดกันก่อนเดินออกจากห้องพิจารณาคดี โดยนายเอ็มได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า อยู่ข้างในก็ลำบากมากครับ ก็จะขอสู้คดีให้ถึงที่สุด ปฏิเสธไม่ตอบคำถามเรื่องแอบถ่ายคลิปที่ใช้เป็นหลักฐาน  ด้านทนายความของผู้ต้องหา เตรียมยื่นคำสั่งขออุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวต่อไป


ขณะเดียวกันดาราสาว ได้กล่าวถึงเรื่องคลิป 3 คลิปที่นายเอ็ม นำมาเปิดโต้ข้อกล่าวหากลางศาล ว่า ตอนเห็นคลิปสังเกตตัวเองแล้ววันนั้นใส่ชุดปกติ เรียบร้อย ไม่ได้แก้ผ้า มีอาการดูเชื่องช้า นิ่งๆ พูดจาลอยๆ ซึ่งนายเอ็มพยายามถามชักจูง และชี้นำ ในลักษณะที่ว่าสมยอมกัน เพื่อมาเป็นหลักฐานให้พ้นผิด

ทั้งนี้ นายเอ็ม ยังชี้นำในลักษณะที่ว่า “เรามาที่นี่กันเพราะอะไร มาด้วยเต็มใจที่จะทำแบบนี้กันใช่หรือไม่” ซึ่งได้ตอบกลับไปแบบเสียงงัวเงียว่า “ไม่ได้ยอมให้ทำพี่อะไร” พร้อมย้ำว่าสังเกตพฤติกรรมตัวเอง แล้วผิดปกติทุกอย่าง

ดาราสาวกับพี่สาว ยังเล่าว่า จากคลิปตอนที่อีกฝั่งชี้นำ ดาราสาวได้ตอบกลับไปว่า “หนูไม่ได้ยอม” พร้อมยืนยันว่าในคลิปที่นายเอ็มเปิดต่อศาลวันที่ 5 ก.ย. นั้น หากใครมีคลิปให้ฟังดีๆในคลิปที่ 2 ว่า “หนูไม่ได้ยินยอมให้พี่ทำอะไรกับหนูนะคะ”

ส่วนคลิปที่ 3 นายเอ็ม มีการพูดถึงพี่สาวตนว่า เรามาเพราะสมยอมกันใช่ไหม แล้วพี่สาวเอาตำรวจมาได้ยังไง “เวอร์มาก” แล้วดาราสาวผู้เสียหายก็ได้ตอบกลับไปว่า “เวอร์มาก” โดยลากเสียงคำว่า “มาก” ยาวๆ ตามที่นายเอ็มพูด เลยทำให้เรารู้ว่าเราโดนหลอกให้กินยากล่อมประสาทหรือเปล่า สรุปแล้วเราเมาเหล้าหรือเราเมายา  ยืนยันในคลิปพฤติกรรมขณะนั้นไม่ใช่พฤติกรรมปกติของตนอย่างแน่นอน 

ซึ่งทนายตั้ม ได้เสริมประเด็นนี้ด้วยว่า ในคลิปเห็นอยู่ช็อตนึงที่น้องนั่งอยู่ แล้วก็กินน้ำ กินบ่อยมาก ถ้าคนปกติกินครั้งหรือสองครั้งก็คงจะพอแล้ว แต่นี่เดี๋ยวกินๆ 6-7 ครั้งได้ เหมือนกับว่าร่างกายขาดน้ำ หรือโดนสารพิษไปทำให้กระหายน้ำต้องกินน้ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดาราสาวยังย้ำอีกว่า “ถ้าคนมันสมยอมกันจะมาแจ้งความทำไม

ด้านพี่สาว เสริมว่าถ้าคนเรามันไม่ทำผิด จะเตรียมหลักฐานชิ้นนี้ไว้ทำไม มองว่านายเอ็มเตรียมการไว้เป็นอย่างดี แบบมืออาชีพเลย ซึ่งทั้ง 2 คน บอกว่าเมื่อเห็นคลิปแล้วคิดเป็นประโยชน์ต่อฝั่งตน


ดาราสาว ยังบอกว่า ตอนนี้เป็นกังวและกลัวในเรื่องอิทธิพลของนายเอ็ม เขาเป็นคนมีเงินทอง มีลูกน้องรายล้อมเขาจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้  ซึ่งช่วงหนึ่งในรายการโหนกระแสวานนี้ (6 ก.ย.)  ทนายตั้ม และผู้เสียหาย ยังได้กล่าวถึงคลิปที่ผู้ต้องหาแสดงตัวว่าเป็นคนใหญ่คนโต มีชายหัวเกรียนคอยเดินคุ้มกันตลอดเวลา ไปไหนมาไหนก็ต้องมีรถนำขบวน อยากให้หน่วยงานต้นสังกัดมาตรวจสอบหน่อยว่า ทำไมนักธุรกิจถึงต้องมีรถนำขบวน ทำไมต้องมีชายหัวเกรียนซึ่งอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่มาคอยคุ้มกันด้วย ซึ่งฝั่งทนายตั้มและผู้เสียหายบอกว่า นายเอ็มรับในศาลแล้วว่าเป็นรถของนายเอ็ม วันนั้นไปทำธุรกิจจึงต้องใช้ตำรวจด้วย


ดาราสาว ยังบอกว่า นายเอ็ม เคยพูดกับตนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองด้วยว่าอยากจะลงการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าหากลงจริงอย่าลืมเลือกเขาด้วยนะ

ภายหลังศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนายเอ็ม ทีมข่าวได้พูดคุยกับดาราสาว บอกว่า ดีใจมาก ทุกคนดีใจหมด แต่ว่าตอนนี้ยังไม่คลายกังวล เพราะว่าต้องดำเนินคดีต่อไปให้ถึงที่สุด แต่ว่าหลักฐานต้องแน่น เราอยู่ในช่วงที่รวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด

ทั้งนี้ ยังมองว่าเหตุผลที่ศาลชี้แจงสอดคล้องมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่ผู้ต้องหาเอาคลิปมาขณะที่ไม่รู้สึกตัว ไม่มีสติ และไม่รู้ด้วยที่เขานำมาเป็นหลักฐานเจตนาเพื่ออะไร แต่ก็ขอบคุณที่เอาทำให้มัดตัวเขาเอง

เมื่อถามว่า มองว่านายเอ็ม พลาดหรือไม่ที่นำคลิปมาเปิด ดาราสาวมองว่า “กรรมตามสนองค่ะ”


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/L_y_qlb1M8w