ศาลค้านประกันรอบ 2 'เอ็ม หลานอดีต รมต.' หวั่นยุ่งพยานหลักฐาน แม้ยอมให้ตรวจมือถือ คดีขืนใจดาราสาว

ดาราสาวแจ้งความเพิ่ม 4 ข้อหา เอาผิด ‘หลานอดีตรัฐมนตรี’ ทำลายทำพยานหลักฐานเท็จปลอมเอกสาร-หมิ่นประมาท ยันดำเนินคดีถึงที่สุดไม่ขอไกล่เกลี่ย เผยได้รับความเป็นธรรมหลัง ผู้ต้องหาวืดประกันตัว ลั่นถ้าบริสุทธิ์ใจเป็นสุภาพบุรุษต้องเอาโทรศัพท์ให้ ตร.ตรวจสอบ 

จากกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พานักแสดงสาววัย เข้าพบ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีถูกนักธุรกิจเจ้าของบริษัทใหญ่ และเป็นหลานชายอดีตรัฐมนตรี ก่อเหตุวางยาข่มขืนในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ย่านนาคนิวาส 2 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วานนี้ 30 ส.ค.65 เวลา 09.00 น. ที่ศาลาอาญา ถ.รัชดาภิเษก ทีมงานทนายตั้ม พร้อมด้วย น.ส.เอ ดาราสาว  และผู้จัดการ เดินทางมายื่นหนังสือต่อศาลอาญา เพื่อคัดค้านการประกันตัว หลังจากพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหานายอภิดิศร์ หรือเอ็ม หลานชายอดีตรัฐมนตรี ในข้อหาข่มขืนผู้อื่นโดยไม่ยินยอม เเละมีรายงานว่าจะถูกนำมายื่นคำร้องฝากขังในวันนี้

ทีมงานของนายษิทรา กล่าวว่า สาเหตุที่เดินทางมายื่นหนังสือ เพื่อคัดค้านการประกันตัว เพราะมองว่าผู้ต้องหาจะเข้ามายุ่งเหยิงหรือทำลายพยานหลักฐาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ลบแชต ซึ่งถ้าหากได้รับการประกันตัวเกรงว่าจะมาทำลายพยานหลักฐานที่เป็นอุปสรรคต่อการนำผู้ต้องหามาดำเนินคดี

ด้าน น.ส.เอ กล่าวว่า มีคลิปและหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายข่มขู่ว่าจะทำให้เสียชื่อเสียง พฤติกรรมจะเป็นเหมือนตอนที่ให้สัมภาษณ์หน้ากล้อง เหมือนเป็นการข่มขู่ทางอ้อม แสดงออกทางภาษากายโดยไม่เกรงกลัวการกระทำผิดของเขาเลย และทางทนายตั้มได้แสดงหลักฐานที่มีอยู่ออกมาให้เห็นแล้ว ก็กลัวว่าเขาจะสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาอีก จึงอยากจะให้ศาลได้พิจารณา ทั้งนี้หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ตนก็กังวลเรื่องความปลอดภัยทั้งของตนเองและพยานอีกหลายปากในคดี กลัวว่าเขาจะได้รับอันตราย

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว ผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ขอปล่อยตัวชั่วคราวชั้นฝากขังนี้ โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้ว ผู้ร้องคัดค้านการปล่อยชั่วคราว รวมทั้งมีผู้เสียหายคัดค้านด้วยว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาแล้วอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้พนักงานสอบสวนตรวจโทรศัพท์ของผู้ต้องหา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในแชทไลน์ กรณีมีเหตุให้เชื่อว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวแล้วผู้ต้องหาอาจทำลายหลักฐานและยุ่งเหยิงกับพยาน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้อง

ในช่วงบ่าย ปรากฏว่านายอภิดิศร์ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวครั้งที่ 2 ในวันเดียวกัน โดยยื่นเสนอหลักทรัพย์ใหม่เป็นเงิน 400,000 บาทและยินยอมให้โทรศัพท์มือถือแก่พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดีโดยศาลใช้เวลาพิเคราะห์นานกว่า 3 ชั่วโมงแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องเนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วว่า ศาลนี้เคยมีคำสั่งว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้ง ในตอนแรกไม่ยินยอมให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ต้องหา การที่ผู้ต้องหายินดีที่จะมอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้พนักงานสอบสวนภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งเหตุไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาแล้วก็ ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะไม่ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

-----------------------

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ที่ สน.โชคชัย  ทีมงานขอทนายตั้ม ได้พานักแสดงสาวผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมกับนายอภิดิศร์ หรือเอ็มด้วย 

กรณีที่ผู้ต้องหามีการลบข้อความจากโทรศัพท์ของผู้เสียหาย และมีการยกเลิกข้อความจากโทรศัพท์ของผู้ต้องหาเองด้วย และผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าผู้เสียหายกระทำการแบล็คเมล์ ผู้เสียหายเห็นว่าผู้ต้องหาเข้าข่ายกระทำความผิดทางอาญา จึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย แจ้งความเพิ่มอีก 4 ข้อหา 1.ทำพยานหลักฐานเท็จเพื่อให้เกิดคดีอาญา 2.ทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสาร 3.ปลอมเอกสาร 4.หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา


สรุปตอนนี้ผู้เสียหาย ดำเนินคดีกับนายเอ็ม รวม 13 ข้อหา โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งความไป 9 ข้อหา

1.ปลอมปนอาหารให้ผู้เสียหายดื่ม (ใส่ยานอนหลับในเครื่องดื่ม)

2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย

3.กระทำอนาจารผู้เสียหาย

4.ข่มขืนกระทำชำเรา และอนาจารกับผู้ซึ่งอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบ

5.ทำร้ายร่างกาย (การข่มขืนกับการมอมยาถือเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจ)

6. กรณีทำร้ายร่างกายกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

7. หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสียเสรีภาพ (การมอมยา ทำให้เสียเสรีภาพ)

8.ข่มเหง รังแก ผู้เสียหาย ในลักษณะการล่วงเกินทางเพศ

9.การกระทำความเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เข้าถึงและเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยมิชอบ

นักแสดงสาวผู้เสียหาย เผยรู้สึกอุ่นใจได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น หลังทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้รับการประกันตัว ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กล่าวหาว่าตนพยายามแบล็คเมล์ ถือว่าเป็นการใส่ร้ายโดยไม่มีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง จึงปรึกษากับทนายความ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท แยกเพิ่มจากสำนวนในคดีข่มขืน โดยสิ่งที่ผู้ต้องหาพูดบิดเบือนจากความเป็นจริงที่ตนโดนกระทำ

“ตอนนี้ตนโดนด่าเยอะมากจากคนในโซเชียลว่าตนต้องการแบล็คเมล์ อยากได้เงิน ตนอยากให้ทุกคนได้เห็นว่าคนที่พูดความจริงต้องมีหลักฐานไม่ใช่พูดลอย ๆ เรื่องนี้ตนไม่ยอมอย่างแน่นอนเพราะทำให้ตนเองและครอบครัวเสื่อมเสีย ทางครอบครัวเสียใจกับเรื่องนี้มากอยู่แล้ว ยังต้องมาทนเห็นคอมเม้นต์ต่าง ๆ อีก โดยผู้ต้องหาบอกมีหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ใจก็แล้วแต่เขา ทางเราก็มีหลักฐานเยอะเหมือนกัน”

ผู้เสียหาย ยังระบุอีกว่า  ที่ต้องไปศาลเพื่อคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัวและพยาน อีกทั้งกลัวผู้ต้องหามายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานทำให้คดีไม่โปร่งใส ส่วนที่ผู้ต้องหาไม่ยอมให้ตรวจโทรศัพท์มือถือก็เป็นสิทธิ์ของเขา หากนายเอ็ม พูดเรื่องจริงก็นำหลัฐานมาแสดง ทั้งนี้ตนไม่มีอะไรจะพูดถึงนายเอ็ม และไม่อยากพูดคุยหรือเจอหน้า

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/L4jUMVRYgbo