อาชญากรรม

ตร.เเถลงขออภัย ใช้ภาพกูเกิล เทียบเเผลเเตงโม ยันไม่กระทบต่อรูปคดี ปัดตอบนำเข้าข้อมูลเท็จ

โดย thichaphat_d

29 เม.ย. 2565

221 views

ประเด็นร้อนต่อเนื่องกับคดีการเสียชีวิตของ แตงโม-ภัทรธิดา พัชระวีระพงษ์ หลังจากที่ตำรวจสรุปสำนวนคดี ต่อมา มีประเด็น เรื่องบาดแผล ซึ่งในการแถลงข่าว มีการฉายวีดีทัศน์ ระบุเรื่องบาดแผลที่ต้นขาขวาของแตงโม ว่าเกิดจากใบพัดเรือ และมีการนำภาพบาดแผลของต่างประเทศมานำเสนอ

โดยมีการบรรยายว่า ภาพนี้ถูกใบพัดเรือลักษณะเดียวกับของแตงโม แต่ต่อมาชาวโซเชียลมีการตรวจสอบ และพบว่าภาพที่ตำรวจนำมาประกอบ เป็นภาพของเหตุการณ์หญิงชาวต่างชาติ คนหนึ่งเต้นรำในโรงแรมแห่งหนึ่งและไม่สามารถระบุว่าเกิดอะไรขึ้นแต่มีบาดแผลที่ต้นขาขวา ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับบาดแผลของแตงโม เหตุเกิดปี2019 แต่ตรวจสอบแล้วพบว่า ภาพบาดแผลของต่างประเทศที่ตำรวจนำมานั้น ไม่ใช่แผลทึ่เกิดตากใบพัดเรือ




ต่อมาทีมข่าวพยายามติดต่อ ทั้งตำรวจระดับสูง ทั้งในสตช.และตำรวจภูธรภาค1 แต่ไม่มีใครให้คำตอบได้ จนกระทั่งช่วงบ่าย ทีมโฆษก สตช แจ้งว่า ตำรวจภูธรภาค1 จะแถลงชี้แจงรายละเอียด

กองทัพนักข่าวทุกสื่อ ไปที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ที่ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

พล.ต.ท.จิรพัฒน์  ภูมิจิตร  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 / พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 / พ.ต.อ.วรชาติ เเสนคำ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 / พล.ต.ต ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ร่วมเเถลงชี้แจง




พ.ต.อ.วรชาติ เเสนคำ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดในคณะทำงาน ทำหน้าที่รวบรวมหลักฐานคดีการเสียชีวิตของเเตงโม นิดา ชี้เเจงว่า ภาพที่เกิดปัญหานั้น เราหยิบยกมาอธิบายลักษณะของบาดแผลที่มีลักษณะการโค้งเว้า

ซึ่งในวีดิทัศน์ ที่แถลงข่าว เราใช้คำว่า “บาดแผลที่มีการโค้งเว้า ลักษณะเช่นเดียวกัน” ในกรณีนี้ เราไม่สามารถแสดงภาพบาดแผลจากศพมานำเสนอได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดทางกฎหมาย ซึ่งบาดเเผลจากศพหลังจากการเย็บเเล้ว มีลักษณะโค้งเว้าเป็นตัว S จึงได้นำภาพดังกล่าวหยิบยกลักษณะที่คล้ายกันมาให้ดูเป็นตัวอย่าง และนำรูปบาดแผลดังกล่าวที่มีลักษณะความโค้งเว้ามาเปรียบเทียบกับรอยใบพัดบนดินน้ำมันให้เห็น

ซึ่งลักษณะบาดเเผลจากใบพัดเรือ มีสื่อมวลชนได้นำเสนอบาดเเผลของผู้ที่ถูกใบพัดเรือไปก่อนหน้านี้ พร้อมเปิดคลิปข่าวรายการไทยรัฐนิวโชว์ ที่มีการนำเสนอภาพบาดเเผลคนที่โดนใบพัดเรือ จากนั้นก็เปิดคลิป ของสื่อที่ไปสัมภาษณ์ บุคคลที่ถูกใบพัดเรือสปีดโบ๊ท



ทางด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็ได้สั่งให้ทีมงานเปิดภาพลักษณะบาดเเผลที่โดนใบพัดเรือ ทั้งคนเเละสัตว์ ให้สื่อมวลชนได้ดูว่ามีลักษณะบาดเเผลหลากหลาย โดยส่วนให้เป็นข้อมูลจากการค้นหาทาง Google พร้อมนำข้อมูลวิจัยบาดเเผลที่เกิดจากใบพัดเรือในต่างประเทศ มานำเสนอให้ความรู้กับสื่อมวลชน โดยมีลักษณะบาดเเผล 3 ระดับ

-ระดับเเรก (ภาพบนสุด) ถูกเฉือนไม่มาก จะเป็นก้างปลา

-ระดับต่อมา (ภาพกลาง) ถูกเฉือนลึกขึ้น จะเป็นรูปตัว S

-(ภาพล่างสุด) ถูกเฉือนลึกถึงกระดูก จะเป็นลักษณะตามภาพ


หลังจากเปิดภาพเสร็จสิ้น ยังกล่าวต่อ ว่า ปัจจุบันโลกพัฒนาไปมาก ภาพบาดแผล ที่เกิดจากใบพัดเรือ สามารถค้นหาได้จากภาพข่าวทั่วไป หรือ เรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัว เราอาจใช้การค้นหาจาก GOOGLE โดยใช้ KEY WORD “BOAT PROPELLER WOUND ” ซึ่งบาดแผลจากใบพัดเรือ มีลักษณะโค้งเว้าคล้ายบาดแผลในคดีนี้  ซึ่งลักษณะบาดแผลจากใบพัดเรือ สามารถค้นหาภาพตัวอย่างบาดแผลลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะเกิดกับคนหรือสัตว์น้ำ

โดยทั่วไปปัจจุบันเป็นโลกที่เปิดกว้างรับฟังข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถปิดบัง บิดเบือนข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานต่างๆ ได้ และทราบดีว่า ปัจจุบันในโลกโซเชียลมีการตรวจสอบการทำงานของตำรวจอย่างเข้มข้น

ต่อมา พ.ต.อ.วรชาติ เเสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 ในวีดีทัศน์ที่มีคำบรรยายว่า มีผู้เคราะห์ร้ายถูกใบพัดเรือ มีบาดแผลลักษณะเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจนและที่มาของภาพ

“จึงต้องขออภัยทำให้การบรรยายภาพ สื่อสารให้ผู้รับชมเกิดความกำกวม ซึ่งเจตนาการนำภาพดังกล่าว มาเปรียบเทียบ เราต้องการนำเสนอ ลักษณะบาดแผลที่เป็น ลักษณะโค้งเว้าคล้ายตัว S”

ในภาพข่าวต่างประเทศ ภาพบาดแผลตัวอย่างที่มาเปรียบเทียบให้ดู ก็ไม่ได้มีการสรุปว่าบาดแผลเกิดจากอะไร      

“อย่างไรก็ตามการนำเสนอภาพดังกล่าวที่ถูกวิพากวิจารณ์นั้น ไม่ได้มีผลทำให้สาระสำคัญของคดีนี้เปลี่ยนไป” อีกทั้งลักษณะบาดแผล หากมีการเย็บบาดแผลต้องเย็บตามลักษณะบาดแผลที่เกิดตามรอย ไม่ว่าจะเป็นแนวตรง แนวเฉียงหรือแนวโค้ง

หลังจากเสร็จสิ้นการนำเสนอ ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ตั้งข้อสังเกตว่าบาดแผลบนศพมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 11 รอย เป็น 26 รอย โดยไม่มีการระบุที่มาของแผลเพิ่มเติมนั้น



พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า จำนวนบาดแผลอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้ว ตอนนี้ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะสำนวนอยู่ที่อัยการแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากสาระสำคัญในคดีไม่ได้เปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่า ภาพดังกล่าวเป็นข้อมูลจากต่างประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใบพัดเรือ กังวลใจหรือไม่ ว่าจะถูกดำเนินคดีในเรื่องการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ

เรื่องนี้ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตอบสั้น ๆ ว่า ขออภัยในความผิดพลาด กรณีที่เรานำภาพดังกล่าวขึ้นมา จุดประสงค์เพื่อให้สื่อเห็นว่าลักษณะของบาดเเผลเป็นอย่างไร ไม่มีเจตนาอื่น เนื่องจากไม่สามารถนำภาพศพจริงมานำเสนอได้ ขออภัยในความไม่รอบคอบ

สื่อมวลชนถามต่อว่า ในวีดีทัศน์ที่นำเสนอมีการบรรยาย ระบุชัดว่า ภาพที่นำมาเป็นบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือลักษณะเดียวกับบาดแผลคุณแตงโม พล.ต.ต.วสันต์ บอกสื่อมวลชนให้ย้อนกลับไปดูวีดีโอนั้นอีกครั้ง

ซึ่งทางสื่อมวลชนได้ขอให้ตำรวจเปิดวีดีทัศน์เฉพาะช่วงบาดเเผล เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในการนำเสนอ เเต่ตำรวจไม่สามารถเปิดวีดีทัศน์อีกครั้งหนึ่งได้ โดยระบุว่าไม่ได้เตรียมมา



หลังจากนั้นสื่อมวลชนก็ถามว่า คณะทำงานวีดีทัศน์ประกอบสำนวน กับคนบรรยาย วีดีทัศน์ เป็นทีมงานของตำรวจ หรือเป็นทีมงานจากส่วนอื่น เพราะไม่มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ จนทำให้เกิดข้อบกพร่องในการนำภาพผิดมาเผยเเพร่

พ.ต.อ.วสันต์ ตอบว่า ทีมงานของเราเป็นทีมงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถนำข้อมูลที่อ้างอิงได้มานำเสนอ

จากนั้นสื่อก็ยังถามอีกว่า ถ้ารู้ว่าผิดพลาด เเล้วทำไมจึงไม่นำภาพจริงที่นำเสนอวันนี้มาเปิดเผยตั้งเเต่เเรก / พ.ต.อ.วสันต์ ตอบว่า ให้สื่อมวลชนกลับไปย้อนดู ว่าวันนั้นเเถลงอะไรไป

หลังจากนั้นสื่อมวลชนถามว่า การนำข้อมูลที่ผิดพลาดมานำเสนอ ถือว่าตำรวจไม่รอบคอบ จะส่งผลกระทบต่อรูปคดีเเละภาพลักษณ์ของตำรวจหรือไม่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่า ไม่กระทบทั้งภาพลักษณ์เเละรูปคดี ก็ไม่ได้เปลี่ยนเเปลงไป

จากนั้น พล.ต.ต.วสันต์ กล่าวเสริมว่า การนำภาพมานำเสนอ เพื่อให้เห็นลักษณะของบาดเเผล เเต่เเท้จริงเเล้วเรามีภาพของจริงที่เก็บไว้ เเต่ภาพดังกล่าวที่นำมาใช้ ยืนยันว่าไม่ได้อ้างอิงข้อมูลที่มา

ผู้สื่อข่าวของเรา ถามย้ำสรุปอีกครั้งว่า สรุปเเล้วการที่ตำรวจมาเเถลงในวันนี้ เพื่อขออภัย เเละบอกว่าไม่มีเจตนาที่จะนำภาพที่ไม่ได้เกี่ยวข้องมาทำให้ประชาชนสับสน ใช่หรือไม่ / พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ตอบสั้น ๆ ว่า "ก็ใช่"



หลังจากนั้น พล.ต.ต.วสันต์ ก็ชี้เเจงอีกครั้งหนึ่ง ว่าเจตนาจะให้เห็นลักษณะบาดเเผลเป็นรูปตัว S จึงมีภาพนั้นปรากฎขึ้นมา ขออภัยกับประชาชน พร้อมเหน็บสื่อมวลชนที่ถามย้ำคำถามนี้ ว่า "ถามหลายรอบเเล้ว"

สื่อมวลชนได้ถามว่า ในกรณีนี้จะเป็นบทเรียนให้ตำรวจระมัดระวังเเละรอบคอบในการทำวีดีทัศน์มากขึ้นหรือไม่ / พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ก็พูดตัดบท พร้อมบอกให้เปิดคลิปข่าวของไทยรัฐภาพเดิมที่นำเสนอไปช่วงเเรก กลับมาอีกครั้ง พร้อมบอกว่าให้นำไปใช้ได้ ก่อนปิดการเเถลงเเละลุกจากโต๊ะทันที

โดยระหว่างที่กำลังลุกออกจากโต๊ะเเถลง ผู้สื่อข่าวพยายามตะโกนถามว่าภาพที่นำเสนอเป็นข้อมูลเท็จ กังวลจะถูกดำเนินคดีหรือไม่

ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้หันมามองผู้สื่อข่าวด้วยท่าทางคล้ายไม่พอใจ เเละไม่ตอบคำถาม ก่อนจะเดินทางจากไปทั้งคณะ โดยที่ไม่หันมามองผู้สื่อข่าวที่พยายามวิ่งตาม


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Wf5zckKtI_E

คุณอาจสนใจ

Related News