แม่ 'น้องสายฟ้า' ร่วมงานศพลูก หวิดโดนรุมประชาทัณฑ์ ชาวบ้านเผยเด็กถูกทำร้ายมานานแล้ว

เวลา 19.30 น.วานนี้(4 ม.ค.65) ที่มัสยิดบ้านน้ำเชี่ยว ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด ได้จัดพิธีรดน้ำศพ และละหมาดตามหลักศาสนาอิลลาม ให้กับ ด.ช.สายฟ้า อายุ 6 ขวบ ซึ่งถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายและนำตัวไปขังไว้ในรถเก๋งจนเสียชีวิต หลังญาติรับศพมา จาก รพ.พระปกเกล้าจ.จันทบุรี นำกลับมาทำพิธีตามหลักศาสนา

เมื่อศพ ด.ช.สายฟ้า มาถึงมัสยิด ญาติได้นำศพเข้าทำพิธี และ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่อนุญาตให้เข้าไปด้าน

หลังจากนั้น ตำรวจสืบสวน สภ.แหลมงอบ ได้คุมตัว นางนรินทร์รัตน์ แม่ของ น้องสายฟ้า พามาเข้าร่วมพิธีรดน้ำศพ

ซึ่ง นางนรินทร์รัตน์ ได้ก้มลงจูบแก้มลูกชาย ก่อนญาตินำร่างไปฝังในกุโบ ที่ ฝังศพของมัสยิด ระหว่างนั้น นางนรินทร์รัตน์ พยายามเดินตามออกจากมัสยิดไปร่วมพิธี แต่ถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกสงสารและเห็นใจน้องสายฟ้า ตลอดจนไม่พอใจการกระทำของ นางนรินทร์และสามีใหม่ เข้าปิดล้อมเพื่อจะประชาทัณฑ์

ตำรวจจึงรีบพาออกจากพื้นที่อย่างทุกลักทุเล ขณะเดียวกันสื่อมวลชนพยายามวิ่งตามเพื่อสัมภาษณ์ แต่นางนรินทร์รัตน์ ไม่ตอบคำถามเพราะต้องวิ่งหนีกลุ่มชาวบ้านซึ่งไล่ตามมาติดๆ ก่อนรีบขึ้นรถตำรวจที่รออยู่ จากเหตุการณ์นี้ นางนรินทร์รัตน์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอสาปแช่งของชาวบ้าน ซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

สำหรับ นางนรินทร์รัตน์ ตำรวจยังคงคุมตัวสอบสวนเพิ่มเติม หลังเจ้าตัวยอมรับว่า ก่อนน้องสายฟ้าจะถูก นายปัญญา ชัยเชียงเอม สามีทำร้าย ตนได้ใช้ไม้แขวนเสื้อตีลูกจนหัก และ น้องได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

โดยตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่า บาดแผลในร่างกายของน้องสายฟ้า และ อาการบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย มีผลประกอบจากการตีด้วยไม้แขวนเสื้อของแม่ด้วยหรือไม่ ตลอดจนคำให้การของ นางนรินทร์รัตน์ ยังมีบางส่วนที่ให้การไม่หมดอีกหรือไม่ จึงต้องสอบปากคำโดยละเอียด

โดยก่อนหน้านี้ ช่วงคืนวันที่ 3 ม.ค. ต่อเนื่อง วันที่ 4 ม.ค. ตำรวจ ได้คุมตัว นางนรินทร์รัตน์ ไปตรวจค้นหาของกลาง ไม้แขวนเสื้อแบบไม้ ที่ระบุว่า ใช้ตีน้องสายฟ้าจนหักและนำไปทิ้งถังขยะ เพื่อนำของกลางดังกล่าวมาประกอบหลักฐานทางคดี

ขณะเดียวกัน ชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า น้องสายฟ้า ถูกทำร้ายมานานแล้ว สังเกตจาก รอยฟกช้ำตามร่างกาย และ ใบหน้าเพราะเคยตาปูดบวมจนเกือบปิด คล้ายถูกชก ส่วนตามเนื้อตัวมีรอยการถูกทุบตีด้วยของแข็ง จนกระทั่งมาสังเกตว่า น้องสายฟ้าไม่สามารถเดินเหินอย่างปกติอย่างที่เด็กควรจะเป็น แขนผิดรูป ขาหัก

ชาวบ้าน ยังเชื่อว่า น้องจะถูกทำร้ายในช่วงกลางคืน และ ถูกจับขังไว้ในรถ จนกระทั่ง มีอาการซึมเศร้าแต่ไม่สามารถออกมาเล่นกับเพื่อนได้ เพราะไม่สามารถเดินได้ตามปกติ

ชาวบ้านบางส่วน ขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แต่ให้เป็นรายละเอียดเบื้องลึก กรณี ชาวบ้านบางรายไม่กล้าที่จะช่วยเหลือน้องสายฟ้าและเข้าไปวุ่นวายกับ นายปัญญา เนื่องจาก นายปัญญา เป็นญาติของ อดีต นายตำรวจระดับผู้กำกับการ ซึ่งต่อมา ลงเล่นการเมืองท้องถิ่น จนได้ตำแหน่ง นายกเทศมนตรี ซึ่งเกรงกลัวอิทธิพลของญาติคนดังกล่าว ขณะที่บางส่วนมีการตั้งคำถามว่า แม้นายปัญญา จะเป็นญาติกับนายตำรวจใหญ่ แต่ทำไมถึงบุคคลผู้นั้น ถึงละเลยให้นายปัญญา ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนนำไปสู่การทำร้ายร่างกายน้องสายฟ้า ซึ่งเป็นเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ส่วนบรรยากาศที่ สภ.แหลมงอบ ช่วงวานนี้(4 ม.ค.) กองทัพสื่อมวลชน ทั้งส่วนกลาง และ ท้องถิ่น ยังคงปักหลักติดตามความคืบหน้า หลังทราบว่า ตำรวจนำตัว นางนรินทร์รัตน์ ไปตรวจค้นของกลางเพิ่มเติม แต่ต้องการความชัดเจนว่า จะมีการดำเนินคดีผู้เป็นแม่เพิ่มอีกหรือไม่

กระทั่ง พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จ.ตราด มอบหมายให้ ผกก.สภ.แหลมงอบ และ ฝ่ายสืบสวน นำตัว นายปัญญา ขึ้นรถไปขออำนาจฝากขังศาล เมื่อเวลา 14.30 น.

ขณะที่ ตำรวจ สภ.แหลมงอบ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ให้สอบถาม หรือบันทึกภาพ ก่อนรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผบก.ภ.จ.ตราด กล่าวว่า คดีนี้ยังต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกหลายมิติ โดยเฉพาะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด รวมไปถึงการใช้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบกัน เพื่อให้ผู้กระทำความผิดถูกมัดตัวดิ้นไม่หลุด  จึงอาจต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย แต่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและทำคดีอย่างรัดกุม

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/XPNblrZ9330