อาชญากรรม

เปิดไทม์ไลน์อดีตทหารคลั่งยิง 2 ศพ ดื่มย้อมใจ หนีลงใต้ซุกบ้านญาติ จี้เด็กปั๊ม-ร้านขายของชำ ก่อนยอมจำนน

โดย thichaphat_d

25 มิ.ย. 2564

73 views

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุบุกยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปากซอยลาดพร้าว 25 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร จนเสียชีวิต ก่อนจะไปก่อเหตุยิงภายในโรงพยาบาลสนาม สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ช่วงกลางดึก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ก่อนขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หลบหนีมาบ้านญาติที่ จ.ระนอง ก่อนจะยอมมอบตัวในภายหลัง


โดยไทม์ไลน์ของเหตุการณดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 23 มิ.ย.64 ผู้ก่อเหตุ ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี เข้าไปซื้อเบียร์ที่ร้าน 7-11 ในซอยลาดพร้าว 25 ก่อนทำขวดเบียร์ตกแตก และไปจ่ายเงินที่ที่เคาน์เตอร์แต่จะจ่ายเงินเฉพาะขวดที่ซื้อ


แต่พนักงานยืนยันว่าต้องรับผิดชอบขวดที่แตกด้วย ทำให้มีปากเสียงกัน ก่อนที่จะมีพนักงานคนอื่นที่อยู่ภายในร้านออกมาช่วยพูดจาตกลงกัน โดยให้คนร้ายชำระเฉพาะค่าสินค้าที่ตนซื้อ ไม่ต้องชำระค่าเบียร์ที่แตก


หลังจากนั้นประมาณตี 2 ครึ่งทางคนร้ายได้กลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมกับอาวุธปืน เมื่อเข้ามาถึงก็ถามหาผู้เสียชีวิต คือนายรัฐวิทย์ สันติคุปตพงษ์ อายุ 32 ปี ก่อนจะกระหน่ำยิงใส่ หลังผู้เสียชีวิตล้มลง คนร้ายได้เดินเข้ามาเหยียบที่บริเวณหน้าอก เพื่อดูให้แน่ใจว่าผู้เสียชีวิตตายจริง ก่อนจะเดินออกจากร้านไป


จากนั้นเวลาประมาณ 03.00 น. คนร้ายบุกยิงผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต ภายในโรงพยาบาลสนาม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ถนนพหลโยธินขาเข้า ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยผู้เสียชีวิตคือนายสุขสันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งภายในเตียงนอนของ รพ.สนาม ยังมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิด-19 อยู่ในอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าออกสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้เป็นชายอายุประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อลายพรางทหาร กางเกงสีดำสวมหมวกเบเรต์สีแดง มือขวาถือปืน ไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงอย่างอุกอาจ


เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐาน คาดว่าคนร้ายน่าจะไม่รู้จักกับคนตายมาก่อน เพราะผู้ก่อเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงหลายจุด โดยผู้ตายนั้นคาดว่าเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมา และเจอกับคนร้ายจึงถูกยิงเสียชีวิต ประตูทางเข้าของอาคารและทางเข้าห้องผู้ป่วยคนร้ายก็ยิงจนได้รับความเสียหาย หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป -ต่อมาเวลา 6.05 น. คนร้ายแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วใช้ปืนจี้พนักงานเพื่อจะไม่จ่ายเงิน ก่อนจะขับหนีออกมา


โดยนายภานุชาติ ปานอินทร์ อายุ 27 ปี พนักงานเติมน้ำมันหน้าลาน เล่าว่า คนร้ายขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาเติมน้ำมันเต็มถัง ขณะกำลังจะเก็บเงิน ได้สังเกตุคนร้ายก้มค้นหาสิ่งของภายในรถ จากนั้นได้หยิบอาวุธปืนพกสั้นขึ้นมาขู่ พร้อมแจ้งว่าเพิ่งก่อเหตุยิงคนตาย 2 ศพ ที่กรุงเทพฯมา ไม่มีเงินจ่าย และได้ท้าทายเด็กปั้มให้แจ้งตำรวจได้ทันที ทำให้พนักงานปั๊มน้ำมันทั้งหมดที่เห็นเหตุการณ์หลายคนวิ่งหนีแตกกระเจิงด้วยความตกใจ


จากนั้นเวลาประมาณ 9.30 น. คนร้ายแวะจี้ร้านขยาของชำ ที่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง บังคับเอาบุหรี่และเบียร์ ก่อนจะเข้าไปที่บ้านญาติ ที่อยู่ไม่ห่างกัน


ซึ่งคุณมณีรัตน์ เจ้าของร้านขายของชำที่ถูกคนร้ายจี้ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า คนร้ายเดินเข้ามาในร้าน ตนเองคิดว่าเป็นลูกค้า ก่อนที่คนร้ายบอกว่าเอาบุหรี่ซองนึง ตนคิดเงิน 65 บาท คนร้ายบอก ขอนะ ไม่มีเงินจ่าย ตอนแรกตนไม่ยอม แต่คนร้ายบอกว่า ตัวเองก่อคดีมา ถ้าตนไม่ให้ก็อยากทำอะไร พร้อมกับควักปืนขึ้นมา ตนเห็นปืนก็ตกใจ หัวใจจะวาย จึงบอกว่าอยากเอาอะไรก็เอาไป จนคนร้ายหยิบเบียร์ไปด้วย 2 ขวด


ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. พร้อมกำลังหน่วยหนุมานของกองปราบปราม ชุดสยบไพรี บช.ปส. และชุดสืบสวน กก.5.บก.ป. ที่มีความชำนาญและอีกหลายหน่วย ช่วยกันติดตามนำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านหลังหนึ่งใน จ.ระนอง ที่คนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่


โดยเวลา 10.00 น. ตำรวจเข้าปิดล้อมกดดัน โดยใช้เวลาปิดล้อมแล้วกว่า 2 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุซึ่งหลบซ่อนอยู่ในบ้านของย่ามีความเคลื่อนไหว โดยบางจังหวะจะใช้อาวุธปืนยิงออกมาเพื่อข่มขู่เจ้าหน้าที่ไม่ให้บุกเข้าไปในตัวบ้าน


สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุทราบว่ามีผู้อาศัยอยู่ในบ้านเป็นผู้ป่วยติดเตียงชื่อนางไม้ แสงนิลกุล อายุ 80 ปี -ด้านญาติของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังอยู่ภายในบ้านดูแลย่าที่นอนป่วยติดเตียง ผู้ก่อเหตุซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ได้เข้ารับกระบะเข้ามาจอดบริเวณข้างบ้าน ก่อนจะยิงปืนขึ้นฟ้าระบายอารมณ์ 2-3 นัด ตนเองจึงตกใจกลัวจึงวิ่งหนีออกมา ไม่ทันได้พูดคุยอะไรกับคนร้าย โดยคนร้ายเข้าไปอยู่ในบ้าน แต่ไม่ได้ทำร้ายย่า


ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เริ่มเคลื่อนไหวจัดกำลังเข้าปิดล้อมในระยะประชิดตัวบ้านมากขึ้นเพื่อดำเนินแผนการในขั้นต่อไป จนในที่สุดคนร้ายที่ถูกกดดันตัดสินใจเดินออกจากบ้านชูมือขอมอบตัวกับเจ้าหน้า เจ้าหน้าที่จึงกรูเข้าไปจับกุมได้ในที่สุด ในเวลา 12.20 น.โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ คนร้ายได้เปิดปากกับตำรวจ ระบุว่า "ขอโทษ ที่ทำไปอย่างนั้น"


ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ระนอง ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวเพื่อเก็บหลักฐานต่างๆ โดยยึดอาวุธปืนพกได้ 2 กระบอก เป็นปืนขนาด 9 มม. กับปืนลูกโม่ .38 ก่อนที่จะคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ปากน้ำระนอง และนำตัวมายังกรุงเทพฯ



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/oMh0XA8p2CM

คุณอาจสนใจ

Related News