พ่อร้องลูกชายวัย 15 ถูกโจ๋รุมยำดับแลกแหวนรุ่น ตร.จับคนทำได้ 1 ราย ที่เหลือไล่ไปหาหลักฐานเอง

พ่อร้องลูกชาย 15 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น รุมทำร้ายร่างกาย แลกแหวนรุ่นจนเสียชีวิต ก่อนพาไปส่งโรงพยาบาลแล้วเผ่นหนี แจ้งตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้แค่คนเดียว ส่วนคนที่เหลือ ไล่ให้ไปหากล้องวงจรปิดและหลักฐานเอง

นายอิทธิศักดิ์ อายุ 40 ปี พ่อของนายดุ๊ก อายุ 15 ปี ผู้เสียชีวิต นำคลิปที่ลูกชายถูกทำร้ายมาร้องสื่อ โดยเล่าว่า เหตุเกิดช่วงตี 4 ครึ่ง ของวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ลูกชายถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุ มีนายโอม อายุ 15 ปี พร้อมพวก นัดให้ออกมาเจอ ที่โป๊ะเรือหลังวัดละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

ในคลิปลูกชายสวมเสื้อสีดำกางเกงยีนส์ นั่งคุกเข่าอยู่ และมีกลุ่มวัยรุ่นอีก 5 คน ยืนล้อม มีคนบอกว่า ลูกชายต้องการแหวนรุ่น ซึ่งเป็นแหวนรุ่นที่ 66 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่ลูกชายไม่ได้เรียนที่นี่ ถ้าอยากได้จะต้องถูกรับน้อง โดยการให้เพื่อนเตะหน้าอกคนครบทุกคน ในคลิปนายโอม ซึ่งสวมเสื้อสีดำกางเกงขาสั้นแตะเป็นคนแรก หลังโดนเตะครั้งแรก ลูกชายก็เจ็บจนตัวงอ แต่กลุ่มคนก่อเหตุก็พยายามดึงตัวลูกชายขึ้นมาเตะ

หลังก่อเหตุแล้ว ก็ได้นำตัวลูกชายไปส่งที่โรงพยาบาล ในสภาพร่างกายฟกที่ใบหน้า ลำคอ และศีรษะ มีอาการบวมปูด ซึ่งกลุ่มคนก่อเหตุอ้างว่า ผ่านไปเจอลูกชายนอนสลบอยู่ จึงช่วยพาตัวมาส่งที่โรงพยาบาล จากนั้นก็หนีหายไปทั้งกลุ่ม ขณะที่ลูกชายเสียชีวิต แพทย์วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง

แต่พ่อเพิ่งทราบสาเหตุที่ลูกชายเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ตำรวจตามจับคนร้ายได้เพียงคนเดียว คือ นายโอม ต่อมาตนได้ข้อมูลมาว่า วันที่ 5 กรกฎาคม ลูกชายไปฉลองวันเกิดเพื่อนที่บ้านเพื่อน โดยมีกลุ่มเพื่อน ๆ ที่สนิทกันแถวบ้านไปด้วย กระทั่งตี 4 วันที่ 6 กรกฎาคม เพื่อนลูกที่ชื่อ นายโชค อายุ 15 ปี ได้พาลูกชายขึ้นมอเตอร์ไซค์แบบซ้อน 3 คน

ลูกชายนั่งกลาง มีนายโชคประกบด้านหลัง ไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อไปท้าต่อยกับนายโอม จนได้คลิปตอนเกิดเหตุมา ทำให้เห็นว่ามีคนก่อเหตุมากกว่า 1 คน จึงไปติดตามความคืบหน้าคดีอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม แต่ตำรวจ บอกว่า ถ้าอยากให้หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเพิ่ม ก็ให้ไปหาหลักฐาน ไปหากล้องวงจรปิดมาเอง

ด้าน นางลมูล ย่าผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในงานศพหลาน นายโอมและกลุ่มเพื่อนก็ได้มาร่วมงานศพด้วย จึงไปถามว่า ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ นายโอมได้แต่ร้องไห้ และบอกว่าขอโทษ จึงถามต่อว่า จริงไหมที่พอหลานตนสลบไปแล้วก็ยังกระทืบ แล้วยังเอาน้ำไปราดอีกตั้ง 4 ถังเพื่อให้ฟื้น ตอนแรกนายโอมปฎิเสธ บอกว่า เพื่อนตักน้ำในคลองเอามาลูบที่หน้าเฉย ๆ สุดท้ายก็ยอมรับ พร้อมบอกว่าไม่ได้ทำคนเดียว แต่ไม่ยอมบอกว่า ใครทำบ้าง

ก่อนเกิดเหตุเพียง 2 วัน หลานได้เข้ามาถามว่า มีเงินบ้างไหม และขอเงินไป 20 บาท ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุย ตอนนี้โทรศัพท์ของหลานก็ยังไม่ได้คืน ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใคร คนก็เสียไปแล้ว ส่วนคนร้ายก็จับได้แค่คนเดียว คนอื่น ๆ ยังลอยนวลอยู่ข้างนอก ก็แอบคิดในใจบอกหลานว่า ให้ดลใจให้ตำรวจไปตามจับคนที่ทำร้ายมาลงโทษให้ได้ ไม่ได้อยากได้เงินเยียวยาอะไรทั้งนั้น แต่อยากได้คนที่ทำกับหลานตนแบบนี้มาลงโทษให้ได้

ด้านนายบอย รุ่นพี่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต บอกว่า ตัวนายดุ๊กเขามีเพื่อนหลายกลุ่มทั้งแถวไทรน้อย บ้านเอื้ออาทร ล่าสุดเขาไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่วัดเสนีย์วงศ์ นิสัยของน้องเป็นคนซื่อ ๆ ไม่ประสงค์ร้ายกับใครก่อนแน่นอน วันที่มีเรื่องกันตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่เชื่อว่า ดุ๊กจะส่งแชทไปท้าต่อยกับโอม น่าจะมีบุคคลที่ 3 เป็นคนทำ ตอนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปที่เกิดเหตุ ดุ๊กมีอาการเหม่อลอย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมาก่อนหรือเปล่า

ส่วนสาเหตุที่มีเรื่องในครั้งนี้ตนไม่แน่ใจ แต่มีเรื่องแหวนรุ่น ที่ก่อนหน้านี้ดุ๊กเขาอยากได้ และยอมให้กลุ่มเพื่อน ๆ รุมเตะ ก็มีบางคนที่เขาไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้แหวนกับดุ๊ก เพราะตัวดุ๊กเองไม่ได้เรียนที่โรงเรียนดังกล่าว แต่จะมีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยไหมอันนี้ตนก็ไม่ทราบ

หลังเป็นข่าวพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ติดต่อนายอิทธิศักดิ์ทันที พร้อมทั้งนัดเวลา 6 โมงเย็นวันนี้ เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งนายอิทธิศักดิ์เอง เปิดไว้กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ฝากขอบคุณสื่อมวลชนด้วยที่ช่วยเสนอข่าวจนเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อนใจ ตนยืนยันตำรวจพูดจริงและไม่สนใจดำเนินคดีของลูกชายเลย ตนไม่กลัวหรอกพร้อมจะให้ปากคำและยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขอเพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาอย่าเงียบหายหรือพูดจากับตนแบบนี้

รับชมผ่านยูทูป :  https://youtu.be/QQv8wS5idjQ