จับแล้ว! 'เสี่ยกำมะลอ' ปาดคอเมียใหม่ เผยยังรักอยากขอคืนดี ฝ่ายหญิงลั่นเพ้อเจ้อ รอถอดรองเท้าตบปาก

จับแล้ว เสี่ยกำมะลอ หิวโซไปขอข้าวเมียเก่ากิน หลังคว้ามีดปาดคอเมียใหม่ โมโหไม่ให้ยืมเงิน 2 แสน ยอมรับ ทำเพราะโกรธที่ถูกด่าโคตรเหง้า อยากคืนดี เพราะยังรักเมีย ด้านฝ่ายหญิง บุกโรงพักถือรองเท้ารอตบปาก ลั่นพูดเพ้อเจ้อ แถไปเรื่อย

กรณี นายละมัย อายุ 54 ปี ชาวอำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี อ้างตัวเป็นเสี่ย 100 ล้าน ไปจีบนางบัวไร แม่หม้ายวัย 48 ปี ก่อนตกลงปลงใจไปอยู่กินด้วยกัน ที่บ้านฝ่ายหญิง อยู่ที่บ้านดงหวาย อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี แต่อยู่ด้วยกันได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็ลายออก นอกจากจะถูกจับได้ว่าเป็นเสี่ยกำมะลอ เพราะพอเห็นเมียรักขายที่ได้เงินมา 4 แสนบาท ก็เอ่ยปากขอเงินเมีย 2 แสนบาท อ้างว่า ญาติเสียจะเอาไปทำศพญาติ ที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

แต่ฝ่ายหญิงไม่ให้ ก็โมโหคว้ามีดมาแทงท้อง และปาดคอเมีย เดชะบุญที่คมมีดไม่เข้า จากนั้นนายละมัย ก็ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิคสีดำ หลบหนีก่อนไปแหกโค้ง ชนเสารั้วบ้านของชาวบ้านจนรถพัง แล้วนายละมัยก็หลบหนีเข้าป่าอ้อยพร้อมปืน ซึ่งตำรวจ สภ.บ้านดุง พยายามตามหาตัวแต่ไม่เจอ เหตุเกิดช่วง 2 ทุ่มครึ่ง ของวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา

นอกจากนางบัวไร ที่เป็นเหยื่อของเสี่ยกำมะลอ ก่อนหน้านี้นายละมัย ได้ไปขอบวชที่วัดแห่งหนึ่ง จากนั้นได้หลอกเอาเงินจากพระไปหลายพันบาท พร้อมอ้างว่า จะซื้อรถมาถวาย แต่สุดท้ายก็หายเข้ากลีบเมฆไป

กระทั่ง 1 ทุ่มเมื่อวานนี้ มีชาวบ้านบ้านโนนกกบาท แจ้งแอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต ว่า เจอนายละมัยเดินมามาขอข้าว ขอน้ำ ที่บ้านเมียเก่ากิน โดยมีท่าทางวิตกกังวล ใส่หมวกปิดบังใบหน้า จึงแจ้งตำรวจ สภ.บ้านดุง ให้คุมตัวไปสอบสวนที่โรงพักทันที

ขณะพระปัญญา พระลูกวัดวัดจันทศรีมงคล ที่ถูกนายละมัย หลอกเอาเงินไป 4,000 บาท ก็ตามไปพบนายละมัยที่โรงพักด้วย เมื่อเสี่ยละมัยเจอพระอาจารย์ปัญญาก็ยิ้มยกมือไหว้ เพราะจำพระได้

พร้อมบอกว่า หลังผมขับรถชนต้นไม้ ก็ไปหลบในป่าอ้อย ไม่ได้ออกไปไหน 2 คืน 1 วัน ก่อนเดินเท้าเปล่าออกจากป่าอ้อย กว่า 20 กิโลเมตร ไปที่บ้านเมียเก่า แต่เมียเก่ามีผัวใหม่แล้ว จึงได้แต่ขอข้าวหลาน ๆ กิน เรื่องที่พระบอกว่าผมหลอกเอาเงิน และหลอกว่าจะเอารถมาถวาย ผมไม่เคยพูด ผมแค่ยืมเงิน ส่วนรถตู้บอกว่า จะหามาใช้ด้วยกัน ไม่ได้บอกว่าจะถวายพระ ยืนยันว่าไม่เคยหลอกเอาเงินใคร และไม่เคยบอกใครว่าเป็นเสี่ยร้อยล้าน มีแต่ชาวบ้านพูดกันไปเอง

ส่วนเรื่องที่ถูกนางบัวไรแจ้งความ ยอมรับว่า ใช้มีดพยายามปาดคอและแทงนางบัวไร เมียรักจริง แต่ใช้สันมีดปาด ถ้าใช้ด้านคมคงเข้าไปแล้ว ที่ทำไปเพราะโมโหที่เขาด่าโคตรเหง้า เขาบ่นด่าบ่อย และชอบไปเล่นพนัน ปล่อยผมอยู่บ้านคนเดียว ผมก็เหงา ทั้ง ๆ ก่อนมาอยู่ด้วยกัน เขาเป็นคนตื๊อให้มาอยู่ด้วย ผมบอกว่า ขอบวชก่อน เรายังมีอะไรกันตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นนาค ช่วงที่เป็นพระ ก็โทรหายิกๆๆๆ บอกว่า ให้สึกออกมาอยู่ด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากิน แต่พอมาอยู่ด้วยกันจริงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ผมช่วยทำงานบ้านงานเรือน ซักเสื้อผ้า ซักกางเกงในเมียก็ทำ

แต่วันเกิดเหตุ เขาก็ทิ้งผมไปเล่นการพนันอีก ผมไม่ให้ไปถึงขั้นนั่งขวางประตู เขายังขี่มอเตอร์ไซค์มาชน จะไปให้ได้ จนหน้าเป็นแผลอย่างที่เห็น แถมยังด่าโคตรเหง้า เลยโมโห ลงมือรุนแรงไป สุดท้ายนี้หากบัวไรยอมให้อภัย และยอมให้ผมไปอยู่ด้วย ผมก็อยากจะกลับไป ผมยังรักเขา แม้ผมจะอายุมากแล้ว แต่เมียคนนี้ขอมีอะไรด้วยคืนละสองครั้ง เรื่องราวบนเตียงยังตราตรึงผมอยู่ตลอดเวลา

ล่าสุดเช้าวันนี้ นางบัวไร ผู้เสียหาย และป้าอ้อย ญาตินางบัวไร ไปที่ สภ.บ้านดุง แต่เช้าเพื่อขอดูหน้าเสี่ยกำมะลอ ที่ไปให้ข่าวทำให้เสียหาย พร้อมถอดรองเท้าแตะ ออกมาถือรอไว้ บอกว่า ถ้านายละมัยออกมา จะเอารองเท้าตบปาก ที่พูดจาเพ้อเจอ แถไปเรื่อย

นางบัวไร เปิดใจแบบเดือดจัดว่า ไม่เคยไปตามจิกนายละมัยให้สึกจากพระ ที่ให้ไปอยู่ที่บ้านเพราะสงสาร เห็นเป็นโรคหัวใจ ไม่มีที่ไป เลยให้มาอยู่แล้วขอดูใจกันก่อน โดยขออยู่แบบไม่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไร แต่นายละมัยก็ตื๊อและยังขืนใจตนเองอีกด้วย

เรื่องที่เขาบอกว่า ตนเองสะกิด ขอมีอะไรกับเขาคืนละ 2 ครั้ง ขอยืนยันว่า ไม่จริง แม้แต่อวัยวะเพศเขา ก็ยังไม่เคยเห็น พูดแบบนี้ตนเองโมโหมาก ตนเองเสียหาย ขอให้ดูด้วย หนังหน้าแบบนี้ใครจะสะกิด ตอนนี้รู้สึกเข็ดมาก ไม่อยากได้แล้วผัวคนไทย หวังใจว่า หลังจากนี้จะได้ผัวฝรั่งดี ๆ สักคน

จากนั้นประมาณ 11 โมง ตำรวจคุมตัวนายละมัย ออกจากห้องขัง พาขึ้นส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามนายละมัยว่า อยากขอโทษเมียหรือไม่ นายละมัย ได้แต่ส่ายหน้า ส่วนป้าอ้อย เดือดจัด ตะโกนด่าว่า ยังเป็นคนอยู่ไหม ขณะที่นางบัวไร หลังคลายความโกรธลง ก็ไม่ได้เอารองเท้าตบหน้าตามที่ตั้งใจ พร้อมบอกว่า อโหสิกรรมให้นะ ละมัย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Gu-AzOb-xek