อาชญากรรม

รวบแล้ว! โจรจี้ชิงทรัพย์-อนาจารเมียลูกน้อง ‘หม่ำ จ๊กม๊ก’ พบตระเวนปล้นหลายที่ คดีติดตัวเพียบ

โดย chutikan_o

18 ส.ค. 2565

153 views

รวบแล้วคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์-ทำอนาจารภรรยาของนักร้องในค่ายเพลงของหม่ำ จ๊กม๊ก ที่เปิดร้านทำผมแถว สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี ตำรวจใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็ติดตามจับตัวได้ พบตระเวนก่อเหตุหลายพื้นที่

จากกรณีที่ ผู้เสียหาย อายุ 45 ปี ภรรยาของนักร้องในค่ายเพลงของ หม่ำ จ๊กมก ตลกชื่อดัง ถูกคนร้ายเข้ามาจี้ชิงทรัพย์และพยายามทำอนาจาร ถึงในร้านเสริมสวยที่ ถ.บางม่วง-บางคูรัด ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่โชคดีผู้เสียหายพูดจาอ้อนวอนจนคนร้ายยอมปล่อยตัว แต่ได้ทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท

หลังเกิดเหตุ หม่ำ จ๊กมก พร้อมด้วยคุณมด ภรรยา ได้เดินทางมายังร้านทันที เพื่อปลอบใจ และช่วยติดตามคดี

ขณะที่ผู้เสียหาย กล่าวว่า คนร้ายเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่สักลายเต็มตัว ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาแอบซุ่มอยู่บริเวณข้างๆ ร้าน รอจนกระทั่งเจ้าของร้านตัดผมชายขับรถออกไป จึงเปิดประตูร้านเข้ามาบอกผู้เสียหายว่า อย่าเพิ่งปิดร้านนะ แฟนของเขากำลังนั่งรถจะมาสระไดร์ผมที่ร้าน เพื่อจะไปงานวันเกิดเพื่อน ระหว่างนั้นช่วงที่ผู้เสียหายเผลอ คนร้ายได้ชักอาวุธมีดออกมาขู่ไม่ให้ร้อง ก่อนล็อกคอลากเข้าห้องน้ำ สั่งให้ปลดทรัพย์สินให้ทั้งหมด มีสร้อยสแตนเลสธรรมดา 1 เส้น แหวนเพชรแท้ราคาประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท พร้อมกับเงินอีก 150 บาท ในกระเป๋ากางเกง

จากนั้นคนร้ายยังได้ขู่บังคับให้ถอดเสื้อผ้าออกหวังจะข่มขืน แต่เธอเป็นประจำเดือน คนร้ายยังพยายามทำอนาจารและขู่ว่าจะถ่ายรูปไว้แบล็กเมลด้วย เธอจึงพยายามอ้อนวอนและพูดคุยกับคนร้ายดีๆ ทำให้คนร้ายเปลี่ยนใจ และหลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินของเธอแทน

ต่อมาในโซเชียลได้แชร์ภาพนิ่งชายคนหนึ่ง บอกว่าเข้ามาก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ในวัดสิงห์ ย่านบางขุนเทียน ช่วงเช้าของวันที่ 16 สิงหาคม พร้อมข้อความเตือนภัยให้ระวังชายคนนี้

ทีมข่าวลงพื้นที่วัดสิงห์พบว่า คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ เข้ามาที่วัดสิงห์ ตอน 8.49 น. แล้วเข้าไปใช้มีดจี้ชิงเงินหญิง อายุประมาณ 40 ปี ที่กำลังนั่งทำพวงหรีดอยู่คนเดียวภายในวัด ผู้เสียหายจึงยื่นเงินสดให้ไป 500 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้แฟนออกมาช่วยและชกต่อยกับคนร้าย จนหมวกกันน็อกของคนร้ายที่ใส่มาหลุด ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางประตูด้านหลังเมรุ

หลังจากผู้เสียหายไปแจ้งความ ที่ สน.บางขุนเทียน พันตำรวจเอก วิศิษฏ์ สังขนันท์ ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุที่วัดสิงห์เป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์และทำอนาจารเจ้าของร้านเสริมสวยที่เป็นภรรยาของนักร้องในค่ายของหม่ำ จ๊กม๊กด้วย

กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจ สภ.บางบัวทองไปติดตามจับ คนร้ายได้ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่ริม ถ.กาญจนา ต.คูวังหลวง จ.ปทุมธานี ทราบชื่อต่อมา คือ นายชัยเชษฐ สดวกดี อายุ 34 ปี โดยถูกจับตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ในคดีร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้งานพาหนะให้สะดวกแก่การลักทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.บางบัวทอง พร้อมยึดของกลางเป็น แหวนเพชรทองเค 1 วง สร้อยสแตนเลส 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ทั้งหมดเป็นของที่โจรกรรมมา

คดีที่โดนจับเป็นคดีที่ไปก่อเหตุมาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม โดยร่วมกับแฟนสาวไปชิงทรัพย์ ที่หมู่บ้านบัวทองแลนด์ ตำบลบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ได้ทรัพย์สิน เป็นเงินสด 500 บาท และมือถือ 1 เครื่อง หลังเกิดเหตุตำรวจไปตามจับ แฟนสาวของนายชัยเชษฐได้ที่ห้องพัก ในวันที่ 12 สิงหาคมทันที แต่นายชัยเชษฐ์ กระโดดหนีออกทางหน้าต่างได้หวุดหวิด กระทั่งไปก่อเหตุที่วัดสิงห์ และร้านเสริมสวยของภรรยานักร้องในค่ายหม่ำ จ๊กม๊ก

ล่าสุดวันนี้ตำรวจ สภ.ปลายบาง คุมตัวนายชัยเชษฐ มาสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีชิงทรัพย์และทำอนาจารเจ้าของร้านเสริมสวย พลตำรวจตรี ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง โดยผู้ต้องหาได้วางแผนมาก่อน และจะอาศัยจังหวะที่เหยื่อที่เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวเข้ามาก่อเหตุ

หม่ำ จ๊กม๊กก็เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีด้วย และให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณตำรวจที่ตามจับตัวได้เร็ว แต่หลังจากนี้ คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และฝากบอกผู้ต้องหาด้วยว่า ติดคุกแล้วออกมา ขอให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ตัวเองพร้อมให้กำลังใจ

ขณะที่ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนนี้จิตใจยังย่ำแย่ เข้ามาที่ร้านยังเห็นภาพช่วงที่เกิดเหตุอยู่ เธออาจจะต้องปิดร้านไปสัก 1-2 วัน และทางพี่หม่ำ ได้แนะนำให้เธอติดกล้องวงจรปิด ซึ่งเธอยังบอกอีกว่าจากนี้จะต้องระวังตัวให้มากขึ้น เพราะเธอเชื่อว่าคนร้ายจะไม่หลาบจำกับสิ่งที่ตัวเองทำจึงได้ฝากเตือนไปถึงสาวๆ ที่แต่งตัวล่อแหล่มที่อาจจะเป็นช่องที่ทำให้คนร้ายมาก่อเหตุ

จากนั้นเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาได้คุมตัวนายชัยเชษฐ ไปแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเสริมสวย ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวมาติดตามดูการทำแผนด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยระหว่างนำตัวนายชัยเชษฐ ลงมาขึ้นรถตู้ของตำรวจ ได้เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า รู้สึกเสียใจที่ไปก่อเหตุ และอยากขอโทษผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุที่ลงมือเพราะไม่มีเงินใช้

จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติ นายชัยเชษฐ พบว่า ปี 2551 เคยโดนดำเนินคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ ในพื้นที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ปี 2553 ก็โดนข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ ในพื้นที่ สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก ปี 2561 โดนจับในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือตำรวจ พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน ปี 2565 ถูกจับในคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง พื้นที่ สภ.บางบัวทอง และถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์

คุณอาจสนใจ

Related News