อาชญากรรม

พ่อเลี้ยงโหดร่ำไห้เสียงสั่น อ้างพลั้งมือตี 2 ขวบดับ น้อง 6 เดือนสาหัส ย่าลั่น! ไม่ยกโทษให้

โดย chutikan_o

17 ส.ค. 2565

123 views

จากกรณีที่ พ่อเลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยง 2 คน จนทำให้ น้องข้าวฟ่าง ลูกคนพี่อายุ 2 ขวบเสียชีวิต มีอาการตับแตก ม้ามแตก เลือดคลั่งในกระเพาะ อีกคน น้องบาส อายุแค่ 6 เดือน ตับอักเสบ แขนหัก ขาร้าว หน้าตาบวมเขียวช้ำนั้น ญาติได้เข้าไปรับศพน้องข้าวฟ่าง เด็กหญิงวัย 2 ขวบ จากโรงพยาบาลมหาวิทยานเรศวร จ.พิษณุโลก ไปตั้งบำเพ็ญกุศลวัดจุฬามณี หลังน้องข้าวฟ่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในสภาพหมดสติ โดยพ่อเลี้ยงที่ดูแลน้อง อ้างกับญาติว่า น้องมีอาการสำลักนมจนไม่หายใจ


คำให้การของพ่อเลี้ยงขัดแย้งกับผลชันสูตรศพน้อง ที่ระบุว่า อวัยวะในช่องท้องบาดเจ็บจากของแข็งกระแทก ตับแตก ม้ามแตก เลือดคลั่งในกระเพาะ


นางจันสุดา อายุ 44 ปี ย่าของน้องข้าวฟ่าง กล่าวว่า หลังแม่น้องข้าวฟ่างเลิกรากับลูกชาย ก็ได้ไปมีแฟนใหม่ จากนั้นก็มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นผู้ชายชื่อน้องบาส ตอนนี้อายุ 6 เดือน จากนั้นก็เลิกรากับแฟนคนนั้นไปมีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนปัจจุบัน แล้วก็มาเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ กัน เห็นหลานสาวเดินเข้าออกห้อง อยากจะทักทาย แต่อดีตลูกสะใภ้ไม่ให้ยุ่งเกี่ยว เคยขอเอาหลานมาเลี้ยง ก็ถูกปฏิเสธ


จนเมื่อช่วงตี 5 ของวันที่ 15 ส.ค. 65 ก่อนออกไปทำงาน ได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่นาน จนนึกว่าเด็กเป็นอะไรหรือเปล่า ตอนนั้นคิดว่าเป็นข้าวฟ่าง แต่แม่เขาบอกว่า เป็นเสียงของน้องบาส กระทั่ง 5 โมงเย็น กลับจากที่ทำงาน มีคนบอกว่า น้องข้าวฟ่าง เข้าโรงพยาบาลเพราะหมดสติ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ตนตกใจมาก กำลังจะเดินทางไปดูหลาน ยังไม่ทันถึงโรงพยาบาล อดีตลูกสะใภ้โทรมาบอกว่า หลานเสียแล้ว


เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้เรียกญาติไปสอบถามเพิ่มเติมว่า น้องข้าวฟ่างถูกทำร้ายหรือไม่ เพราะผลชันสูตรไม่ตรงกับที่ญาติแจ้งตอนส่งตัวมารักษา ตอนนั้นรู้สึกจุก ที่รู้ว่าหลานตับแตก อวัยวะภายในล้มเหลวหมด เลยข้องใจว่าเขาทำอะไรกับหลานเราหรือเปล่า


ด้าน น.ส.ดาวรุ่ง อายุ 33 ปี น้าของน้องข้าวฟ่าง กล่าวว่า เย็นวันเกิดเหตุ พ่อเลี้ยงของหลานโทรศัพท์มาหา เรียกให้มาดูหลานหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรปลุกไม่ตื่น เมื่อไปถึงเขาก็อุ้มออกมาส่งให้ แต่พอจับตัว หลานตัวเย็นเจี๊ยบ แขนห้อยไม่หายใจแล้ว จึงรีบบอกพี่ชายรีบขับรถไปโรงพยาบาล ถึงขั้นฝ่าไฟแดง ใช้เวลาจากบ้านไปโรงพยาบาลแค่ 5 นาที ก็ยังไม่ทัน น้องข้าวฟ่างเสียชีวิตแล้ว จากที่ดูหลานน่าจะเสียชีวิตมานานหลายชั่วโมง


ส่วนผลชันสูตรของแพทย์ ก็ทำให้สงสัย เท่าที่สัมผัสพ่อเลี้ยงหลาน ก็ดูรักเด็ก 2 คนนี้มาก เวลาแม่เด็กไปทำงาน ก็ดูแลลูกอย่างดี ไม่คิดเลยว่าจะทำกับหลานได้ขนาดนี้ ส่วนน้องบาสก็พาไปโรงพยาบาลด้วยกัน แพทย์เห็นร่องรอยช้ำที่ร่างกาย จึงนำตัวไปตรวจก็พบว่าตับอักเสบ แขนหัก ขาร้าว หน้าตาบวมเขียวช้ำ จึงรับตัวไว้รักษาทันที

พันตำรวจเอก ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการ สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้ส่งชุดสืบสวนไปนำนายบูรพา อายุ 21 ปี พ่อเลี้ยง และแม่เด็กอายุ 17 ปี มาสอบสวน โดยจับแยกสอบเพื่อเค้นหาความจริง ใช้เวลานานเกือบ 7 ชั่วโมง ในที่สุดพ่อเลี้ยงก็ยอมรับว่า เป็นคนทุบตีน้องข้าวฟ่าง อ้างว่า เด็กซุกซนไปหยิบปลั๊กไฟบ้าง สิ่งของอื่นบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะรุนแรง จนเด็กเสียชีวิต ส่วนน้องบาสใช้เพียงท่อนแขนตีไปตามลำตัวเท่านั้น

ล่าสุดตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก นำตัวพ่อเลี้ยงไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่ห้องเช่าใน ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก จากนั้นได้คุมตัวขึ้นรถ เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล โดยแจ้ง 2 ข้อหา คือ ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทั้งนี้ระหว่างที่นำตัวพ่อเลี้ยงขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสาเหตุที่ลงมือ เจ้าตัวรับสารภาพว่า พลั้งมือทำร้ายเพราะเด็กร้องไห้ และซน ทั้งรื้อของ ทั้งจับปลั๊กไฟ อ้างอีกว่าทำครั้งแรก เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะก็รักลูกทั้ง 2 คน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า พ่อขอโทษนะลูก ซึ่งก็มีเสียงชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ ตะโกนบอกว่า ขอโทษตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วมั้ง

อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่า พลั้งมือ เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรม และอารมณ์โมโหง่าย เคยลงมือกับลูกทั้ง 2 มาหลายครั้ง ขณะเดียวกันทั้งอัยการและบ้านเด็ก ให้ความคุ้มครองแม่เด็ก และเด็ก 6 เดือน ถือว่าเป็นผู้เสียหาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ได้ไปที่วัดจุฬามณี เพื่อสอบปากคำแม่เด็ก โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมฟัง

ขณะที่แม่เด็ก เผยว่า อยู่กับสามีคนนี้ มีทะเลาะกันบ้างแต่ไม่เคยทำร้ายกัน ที่ลูกถูกทำร้ายไม่เคยรู้ว่าก่อน วันเกิดเหตุตนไปทำงาน ออกจากบ้านบ่ายโมงครึ่ง ลูกก็ยังปกติดี เล่นเหมือนเดิม รู้อีกทีตอนสามีโทรมาตอนบ่าย 3 บอกว่า ลูกท้องเสีย จากนั้นประมาณ 4 โมง ก็โทรมาบอกว่า ลูกหมดสติ หัวใจหยุดเต้น ตนจึงรีบไปหาลูก ตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็ไม่เคยเห็นสามีทำร้ายลูก แต่ตอนที่ตนไม่อยู่ ก็ไม่รู้ว่าเขาทำหรือเปล่า ปกติเวลาตนไปทำงานก็จะจ้างคนเลี้ยง จะให้สามีเลี้ยงก็แค่ตอนที่คนเลี้ยงขอลา

ด้านย่าของน้องข้าวฟ่าง วันนี้บอกกับนักข่าวสั้น ๆ ว่า ไม่ยกโทษให้กับคนที่ทำหลาน ไม่ต้องมาขอขมา ศพของข้าวฟ่างจะตั้งสวดอีกคืน โดยจะมีพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้

คุณอาจสนใจ

Related News