พ่อเมาฉุน ลูกเลี้ยงพูดจาไม่เข้าหู ควักปืนยิงดับคาบ้าน

เมื่อเวลา 21.30 น ของวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 สถานีตำรวจภูธรลานสัก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่ หมู่ 5 ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากได้รับแจ้ง ร.ต.อ.เอกชลิต หนุนพงษ์ ร้อยเวร สภ.ลานสัก พร้อมกู้ภัยอุทัยธานีจุดลานสัก ได้มายังที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุเป็นชาย ยืนให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ลานสัก โดยไม่ได้คิดหลบหนีแต่อย่างใด อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ หมู่ 5 ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พร้อมกับรรดาญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิต ต่างเดินทางมาสาปแช่งผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่หวั่นเกิดเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย จึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปยัง สภ.ลานสักไว้ก่อน

ภายในบ้านพบผู้เสียชีวิตเป็นชายสวมเสื้อสีฟ้าแขนยาว ใส่กางเกงขาสั้นอยู่ภายในห้อง สภาพศพนั่งคว่ำหน้ามีรอยบาดแผลถูกยิงที่บริเวณไหปลาร้าข้างซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบเหล้าขาวตกอยู่ 1 ขวด ในที่เกิดเหตุภายในห้อง พร้อมกับมีรอยเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุ

โดยผู้ก่อเหตุ ได้รับสารภาพว่าใช้ปืนขนาด .38 ไทยประดิษฐ์หักลำก่อเหตุ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยแพทย์เวรโรงพยาบาลลานสัก ได้ชันสูตรเบื้องต้น พบผู้ตายมีรอยบาดแผลที่บริเวณไหปลาร้าข้างซ้าย ที่ตัวพบลูกกระสุนฝังใน แพทย์รพ.ลานสัก ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลลานสักอย่างละเอียดอีกครั้ง และทราบต่อมาคนตายชื่อนายกฤษณะ อายุ 42 ปี บ้านหมู่ 5 ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายเสน่ห์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยว่า ตนเองได้เป็นพ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิต และเป็นสามีใหม่ของแม่ผู้เสียชีวิต ตนเองเป็น ส.อบต.แห่งหนึ่งในเขตอำเภอลานสัก และก็อยู่กับแม่ของผู้เสียชีวิตมานานหลายปี

ผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางไม่เคยทะเลาะกับลูกเลี้ยงมาก่อน แต่พักหลังเริ่มจะไม่ค่อยลงรอยกัน ตนเองถูกลูกเลี้ยงใส่ร้ายเสีย ๆ หาย ๆ โดยถูกต่อว่า ตนเองเป็นคนไม่ดีมาตลอด จนทำให้ตนเองเก็บความรู้สึกมาเรื่อย ๆ จนมาล่าสุดช่วงเวลาประมาณเกือบสามทุ่มของวันนี้ ก่อนเกิดเหตุตนเอง และผู้ตายอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง เนื่องจากแม่ของผู้ตายหรือภรรยาใหม่ของตนเองได้พาหลานไปหาญาติอีกบ้านหลังหนึ่ง จังหวะนั้นผู้ตายก็ได้ดื่มเหล้าขาวด้วย พร้อมกับตนเองก็ได้ดื่มเหล้ามานิดหน่อยเช่นกัน จนทำให้เกิดมีปากเสียงกันเวลานั้น จนถึงขั้นตนเองเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนสั้นขนาด .38 หักลำ จ่อยิงลูกเลี้ยงจนทำให้เสียชีวิต ตนเองไม่ได้หนีไปไหนยืนให้การอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามแม่ของผู้เสียชีวิตชื่อ นางชม้าย อายุ 61 ปี ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นแม่ของผู้เสียชีวิต และเป็นภรรยาใหม่ของผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ตายนั้นได้เป็นลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ได้เปิดเผยว่า ล่าสุดเห็นผู้ก่อเหตุไม่ค่อยคุยกับลูกตนเองมาประมาณ 1 เดือน และไม่เคยเห็นมีปากมีเสียงกันมาก่อน จนมาถึงวันเกิดเหตุขนาดนั้นตนเองได้พาหลานมาหาญาติที่บ้านอีกหลังหนึ่ง จนทำให้สามีใหม่และลูกของตนเองอยู่บ้านเพียงลำพังในขณะนั้น จนมาทราบอีกทีว่าสามีใหม่ของตนเองใช้อาวุธปืนยิงลูกแท้ ๆ ของตนเองจนเสียชีวิตคาห้องดังกล่าว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป