หนุ่มผงะ! ไปหาปลาในคลองแต่ได้รถเก๋ง ตร.เร่งตามหาเจ้าของ คาดอำพรางคดี

หนุ่มผงะ ไปหาปลาในคลองแต่ได้รถเก๋ง พบรอยชนแถมทะเบียนรถถูกถอด ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของ คาดขับชนคนตายแล้วนำรถมาทิ้งคลองอำพรางคดี

จุดที่พบรถจมน้ำอยู่ที่คลองชัยนาท-ป่าสัก พื้นที่หมู่ 5 ตำบลเสือโฮก อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ตำรวจสภ.เมืองชัยนาท ไปตรวจสอบพบกู้ภัยกำลังกู้รถเก๋งนิสสันซันนี่ สีบรอนซ์ ขึ้นจากน้ำอย่างทุลักทุเล เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว มีเจ้าหน้าที่ประดาน้ำถูกกระจกบาดได้รับบาดเจ็บขณะลงไปผูกสลิงเพื่อดึงรถขึ้นมา

โดยภายในรถไม่พบคนขับ แผ่นป้ายทะเบียนถูกถอดออก แต่พบป้ายวงกลมต่อภาษีติดอยู่กระจกหน้ารถ ปรากฎทะเบียนรถ กท 7314 ชลบุรี ที่กระโปรงหน้ารถมีรอยยุบตรงกลาง กระจกหน้าด้านคนขับมีรอยแตกเป็นวงกลม คล้ายชนกับของแข็ง กันชนหน้าและหลังหลุด แต่พบว่านำไปใส่ไว้ในตัวเก๋ง กระจกข้างรถถูกเปิดออกทุกบาน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่ารถคันนี้อาจก่อเหตุแล้วนำมาซ่อนเพื่ออำพรางคดี

นายศิริศักดิ์ เกศีสังข์ หรือ โอ๊ต อายุ 19 ปี เป็นคนที่มาหาปลา และเป็นคนที่พบรถจมน้ำคนแรก เล่าว่า ช่วงหัวค่ำตนเองมาลงข่ายหาปลา รู้สึกว่าข่ายติดอะไรบางอย่าง พอยกข่ายขึ้นแล้วลงไปดูในน้ำ ไปเจอวัตถุลักษณะคล้ายรถเก๋งจมน้ำทั้งคัน จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาดูให้แน่ใจ จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้โทรแจ้งตำรวจ ตนเองมาหาปลาบริเวณนี้ทุกวัน เมื่อเช้านี้ยังไม่มีรถอยู่ตรงนี้ เพิ่งมาเจอตอนเย็น ปกติแถวนี้ไม่มีรถผ่านเพราะเป็นป่ารก อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร

จากการตรวจสอบ พบว่า เมื่อคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ มีอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ถูกเฉี่ยวชนจากรถไม่ทราบชนิด บริเวณใกล้กับวัดจันทนาราม ตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท แล้วหลบหนี มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน เป็นชาย ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับรถเก๋งคันนี้หรือไม่ โดยจุดที่เกิดอุบัติเหตุ อยู่ห่างจากจุดที่พบรถจมน้ำประมาณ 30 กิโลเมตร

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว จอดอยู่ที่ป้อม สภ.เมืองชัยนาท สาขาย่อยเสือโฮก อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอย่างละเอียด

ด้าน พันตำรวจเอก ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชัยนาท เผยว่า ยังไม่มีข้อมูลว่ารถมาจากไหนแน่ เบื้องต้นจะให้ทางพิสูจน์หลักฐานจังหวัด ตรวจสอบรอยเฉี่ยวชนของรถ และเก็บหลักฐานภายในตัวรถ และให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ เพื่อหาที่มาที่ไปของรถคันนี้ พร้อมตรวจสอบอุบัติเหตุในพื้นที่ใกล้เคียงว่า มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเรียกตัวคนที่มีชื่อครอบครองรถมาสอบสวนด้วย