สังคม

ผงะ! พบเถ้ากระดูกปริศนาในเมรุ หวั่นฆาตกรแอบเผาศพ สัปเหร่อมั่นใจ กระดูกคน

โดย panwilai_c

12 ก.พ. 2566

780 views

สัปเหร่อจะไปเตรียมเมรุเผาศพพบเถ้ากระดูกปริศนาสงสัยถูกลักลอบนำมาเผาบนเมรุ จึงแจ้งแกนนำแจ้งตร.เก็บไปตรวจพิสูจน์ ในขณะ ผญบ.เผยต้องรอการสืบสวนสอบสวนของตร. พิสูจน์ก่อนว่ากระดูกคนจริงหรือไม่และเป็นใคร เพราะต่อมามีการโพสต์โซเชียลเรื่องสาวหล่อหายตัวไป ก็ประสานสอบถามไปยัง 3-4 หมู่บ้าน แล้วยังไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งคนหายแม้แต่รายเดียว



ชาวบ้านและสัปเหร่อไปจัดเตรียมสถานที่เพื่อทำพิธีเผาศพคนในชุมชนที่เสียชีวิต แต่พอเปิดดูภายในเมรุเผาศพก็พบร่องรอยการนำศพมาเผาเจอทั้งเถ้าและกระดูก คาดว่าพึ่งเผาใหม่ๆ สัปเหร่อยืนยันไม่ได้เผาศพมานาน ศพสุดท้ายเป็นคนในหมู่บ้านเผาตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 2565 และยืนยันที่พบเป็นเถ้ากระดูกคนแน่นอน คาดคงมีคนลักลอบนำมาเผาในเวลากลางคืนเพื่ออำพรางคดี ทางด้านตำรวจบอกว่ายังบอกไม่ได้ว่าเป็นเถ้าและกระดูกคนหรือไม่ ขณะนี้ส่งไปตรวจสอบที่สถาบันนิติเวชแล้ว


จากกรณีเมื่อเช้าวันที่ 6 ก.พ. 2566 ชาวบ้านโนนหมากแงว หมู่ 7 ต.น้ำคำ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และสัปเหร่อ ได้พากันไปทำความสะอาดเพื่อเตรียมการที่จะเผาศพคนในชุมชนในช่วงบ่าย แต่เมื่อเปิดประตูเมรุเข้าไปก็พบว่าในเตาเผาศพ มีเถ้าและกระดูกอยู่เป็นจำนวนมากคาดว่าจะเป็นเถ้าและกระดูกของมนุษย์ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวโทน ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ร้อยเอ็ด มาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ซึ่งในเบื้องตนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ายังชี้ชัดไม่ได้ว่าเป็นของมนุษย์หรือสัตว์ จึงเก็บหลักฐานไปแล้วส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ซึ่งผลก็ยังไม่ออกมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ยังอยู่ในความสงสัยของชาวบ้านว่าถ้าเป็นศพคน จะเป็นใคร มาจากไหนและใครนำศพมาลักลอบเผาโดยไม่แจ้งให้ทางวัดและสัปเหร่อทราบหรือนำมาเผาเพื่ออำพรางคดี



ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายแว่น สุจริต อายุ 82 ปี สัปเหร่อที่วัดบ้านโนนหมากแงว เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายแว่นบอกว่าตนเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อในหมู่บ้านนี้ตั้งแต่อายุ 15 ปี พออายุ 30 ปีก็ได้เป็นสัปเหร่อตัวจริง ทำหน้าที่สัปเหร่อมาแล้ว 50 กว่าปี



เหตุการณ์วันนั้น ตนได้ขึ้นไปบนเมรุเพื่อทำความสะอาดและเตรียมจะนำเอาถ่านไปใส่ในเตาเผาเพื่อเผาศพคนในชุมชน พอไปถึงหน้าเตาเผาก็พบสิ่งผิดปกติคือถังพลาสติกที่ตนเก็บไว้ใส่เถ้ากระดูก จำนวน 3 ใน ซึ่งตั้งเอาไว้บนเตาเผา ถูกวางไว้ข้างนอก และในเตาเผาก็พบชิ้นส่วนกระดูกและเถ้าจำนวนหนึ่ง จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาทีวัดแล้วเก็บเอากระดูกไปเหลือแต่เถ้าเอาไว้และบอกว่าอย่าพึ่งเอาไปเททิ้งจึงเก็บไว้อยู่ ซึ่งจากประสบการณ์ในอาชีพสัปเหร่อยืนยันว่าเป็นกระดูกคนแน่นอน



จากนั้นนายแว่นก็พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูประตูทางเข้าด้านหลังเมรุ ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านนำศพเข้ามาเผาในแต่ละครั้ง ประตูเหล็กดัดก็ถูกล็อคกุญแจอยู่ คาดว่าผู้ที่นำศพมาเผาคงแอบเอาศพเข้ามาทางด้านหลังเมรูอีกด้านหนึ่งซึ่งไม่มีกำแพงกั้นเป็นทุ่งนาและต้นไม้สามารถเดินเข้าออกได้สะดวก และคาดว่านำศพมาเผาในเวลากลางคืน



โดย กล่าวว่าตนเองได้มาใช้เมรุครั้งสุดท้าย ทำคามสะอาดเรียบร้อย เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์และต่อมา ในช่วงเช้า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ก็มาเตรียมสถานที่ หลังจากมีคนแจ้งว่าจะนำศพมาเผา จึงมาพบกระดูกอยู่ในถังตั้งอยู่แถวประตูเมรุเผาศพ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบดังกล่าว ซึ่งตนเองคาดเดาว่ามีความเป็นไปได้ที่จะอ่านในการลักลอบนำศพมาเผาก็อาจจะเป็นได้โดยไม่มีใครพบเห็นในเวลากลางคืนเนื่องจาก วัดตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน อยู่ไกล จากบ้านเรือนประชาชนและผู้คนทำให้ไม่มีใครเห็นนอกจากนั้นเมรุเผาศพ ก็ยังตั้งอยู่ท้ายวัดไกลจากกุฏิพระซึ่งมีพระอยู่เพียงรูปเดียวเท่านั้นโดยบริเวณใกล้ เมรุเผาศพ ที่ต้องเปิดประตูเข้าไปก็ไม่มีการใส่กุญแจ อีกทั้งด้านหลังเมรุ ไม่มีกำแพงด้านหลังจึงอาจเป็นไปได้ที่มีคนแอบเอาศพมาเผาโดยไม่มีใครรู้ในเวลากลางคืนก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้



ทางด้านนางทองขัน สุดพังยาง ผญบ.บ้านโนนหมากแงว เผยว่าในวันดังกล่าวตน รับ แจ้งจากชาวบ้านที่ไปเตรียมงานเผาศพในวัดว่าพบเถ้าและกระดูกถูกนำมาเผาบนเมรุ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวโทน มาดูยังที่เกิดเหตุ ที่ผ่านมาเผาศพชาวบ้านครั้งล่าสุดลัเก็บกระดูกเรียบร้อย เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ในครั้งนั้นญาติของผู้ตายก็ได้นำเถ้าและกระดูกออกมาทำพิธีทางสงฆ์และทำความสะอาดหมดแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ตามความคิดเห็นของตนถึงแม้ยังยืนยันไม่ได้ว่าจะเป็นเถ้าและกระดูกคนหรือไม่ แต่เท่าที่ไปดูโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเถ้าและกระดูกของคน



และนางทองขันบอกอีกว่าจากการสอบถามพระสงฆ์ที่วัดซึ่งมีอยู่เพียงรูปเดียว ก็บอกว่ากุฏิที่พักสงฆ์กับเมรุเผาศพก็อยู่ห่างกันพอสมควรและมีต้นไม้ใหญ่บังด้วย พระจึงบอกว่าไม่เห็นอะไรเพราะปกติถึงแม้ว่าจะได้ยินสุนัขเห่าพระก็จะไม่ออกมาดูเพราะกลัวอันตรายเหมือนกันและวัดก็อยู่ท้ายบ้านด้วย



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.หัวโทน เพื่อสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับแจ้งความในวันนั้น ก็ได้รับคำตอบว่า หลังจากรับแจ้งก็ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมพิสูจน์ หลังจากนี้ต้องรอผลจากพิสูจน์ หลักฐาน ที่เก็บกระดูก ไปตรวจสอบ และต้องรอผล ตรวจเถ้ากระดูกและตรวจรายละเอียด จากการ เก็บตัวอย่าง ไปตรวจก่อนว่าเป็นกระดูกหรือเถ้ากระดูกของคนหรือไม่อย่างไร จึงยังไม่ขอให้ข้อมูลใดๆรอผลการพิสูจน์ทราบมาก่อนว่าเป็นกระดูกของคนหรือสัตว์ ถ้าเป็นของคนก็ต้องได้ตรวจดีเอ็นเอต่อไปอีกว่าเป็นใคร ซึ่งใน ในขณะเดียวกัน ช่วงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามออกไปสืบสวนหาข่าวและก็ไม่พบข้อมูลที่ว่าสาวหลือหาย ว่าในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ก็ไม่มีการมาแจ้งความคนหายแต่อย่างใด



อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องนี้มีการนำไปโพสลงในสื่อโซเชียลต่างๆก็ทำให้ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก อยากทราบความจริงว่าเป็นกระดูกคนหรือสัตว์กันแน่ ถ้าเป็นคนจะเป็นใครถูกนำมาจากไหน ในหรือนอกพื้นที่เพื่ออำพรางคดีหรือไม่และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายโดยเร็ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Cp26Bqqjkoc

คุณอาจสนใจ