อาชญากรรม

งามไส้! ลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ผันตัวเป็นเอเยนต์ยารายใหญ่ ขายเม็ดละ 50 บาท พ่อยอมรับควบคุมลูกไม่ได้

โดย nicharee_m

21 มิ.ย. 2567

867 views

บุกจับลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ผันตัวมาเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ขายให้เยาวชนในพื้นที่เม็ดละ 50 บาท ผู้ใหญ่บ้านยอมรับควบคุมลูกไม่ได้ สั่งตั้งคณะกรรมสอบสวน

วันที่ 21 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองขอนแก่น นำหมายค้นจากศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ ค.401/2567 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2567 เข้าทำการตรวจค้นบ้านในพื้นที่หมู่ 13 บ้านโนนหัวช้าง ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านนายกิตติช (สงวนนามสกุล) หรือ โค้ช อายุ 32 ปี ลูกชายของผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนหัวช้าง หมู่ 13

หลังจากสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้กับเยาวชนในพื้นที่ โดยจากการตรวจค้นภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,034 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นของตนเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการที่ผู้ต้องหาได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด พร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา นายกรชวาลวิชญ์ ชัยพีรวัส นายอำเภอน้ำพอง พ.ต.อ ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายนายกิตติธัช หรือ "โค้ช" ผู้ต้องหา พร้อมของกลางรายรายการ

ประกอบด้วย ยาบ้าจำนวน 1,034 เม็ด รถยนต์ ยี่ห้อ Chevrolet รุ่น Colorado จำนวน 1 คัน มูลค่า 700,000 บาท รถยนต์ ยี่ห้อ Nissan รุ่น March มูลค่า 400,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น S1000 RR จำนวน 1 คัน มูลค่า 1,000,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยีห้อ Suzuk รุ่น GSX- R1000 สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน มูลค่า 800,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น CB400 สีดำทอง จำนวน 1 คัน มูลค่า 300,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha รุ่น R3 สีแดง จำนวน 1 คัน มูลค่า 200,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยีห้อ Yamaha รุ่น R15 สีดำ จำนวน 1 คัน มูลค่า 150,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha รุ่น R15 สีขาวแดง จำนวน 1 คัน มูลค่า 150,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยีห้อ Yamaha รุ่น R15 สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน มูลค่า 150,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Sonic สีขาว จำนวน 1 คัน มูลค่า 50,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น ประกอบ สีเขียว จำนวน 1 คัน มูลค่า 10,000 บาท สร้อยคอทองรูปพรรณ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น มูลค่า 80,000 บาท และ สร้อยข้อมือทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 เส้น มูลค่า 10,000 บาท รวมทรัพย์สิน 13 รายการ มูลค่า 4,000,000 บาท

พ.ต.อ ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า จากการสอบสวน นายโค้ช ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ซื้อยาบ้า มาจากนายโก้ (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) คนลาว โดยติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นเฟสบุคผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “โกโก้ แก้วอาสา” และนายโก้ จะส่งเลขที่บัญชีเพื่อให้นายกิตติธัช โอนเงินสดผ่านตู้ธนาคาร โดยที่เลขที่บัญชีจะไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้ง

และเมื่อโอนเสร็จนายโก้ จะสั่งให้นายกิตติธัช ลบแชทออกเป็นประจำทุกครั้ง โดยซื้อมาครั้ง 1 มัด (ยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด) ในราคา 2,000 บาท ซึ่งได้ทำมาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยรู้จักผ่านเพื่อนทางเฟซบุ๊ก

โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 นายโก้ ได้ให้คนมาวางยาบ้าจำนวน 1 มัด ไว้ที่บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนบ้านคำแก่นคูณน้อย ถนนเส้นทาง อำเภอน้ำพอง - อำเภออุบลรัตน์ และจะนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นภายในหมู่บ้าน โดยจะขายยาบ้า ให้ลูกค้า ในราคาเม็ดละ 50 บาท และมาถูกจับกุมในครั้งนี้

เบื้องต้นได้แจ้ง ข้อหาจำหน่ายโดยมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อกระทำเพื่อการค้า และหรือก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พร้อมทั้งได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินตามมาตรการยึดทรัพย์

ด้านนายกรชวาลวิชญ์ ชัยพีรวัส นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นหนึ่งในยุทธการพิทักษ์ขอนแก่น และ ปฏิบัติการไล่ล่าเด็ดปีก นักค้าอีสานเหนือ 252 ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในคดี ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นบุตรชายของผู้ใหญ่บ้าน ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 วันนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเกิดเหตุทราบว่า ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นพ่อของผู้ต้องหา ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งในทางวินัยและทางอาญาจะมีผลหรือไม่ นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางอำเภอไม่สามารถที่จะให้ลาออกได้ เนื่องจากจะต้องมีการดำเนินการตามวินัย ผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นพ่อของผู้ต้องหา มีบ้านอยู่ติดกับบ้านของผู้ต้องหา ซึ่งจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้นก็จะต้องสอบสวนอย่างละเอียด

แต่ในฐานะที่ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นำชุมชน ถือว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่ เพิกเฉยต่อการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนในครอบครัวทำผิดกฎหมาย จึงจะต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงย่าง

และจากการสอบสวนผู้ใหญ่บ้านในเบื้องต้น ให้การว่า ตนเองไม่สามารถบอกกล่าวหรือควบคุมลูกชายตนเองได้ และตลอดระยะเวลาที่ลูกชายมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็ไม่เคยรายงานให้ฝ่ายปกครองหรือตำรวจได้รับทราบ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ลูกผู้ใหญ่บ้าน ,เอเยนต์ค้ายา

คุณอาจสนใจ