รวบลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ผันตัวเป็นเอเยนต์ค้ายา ขายเม็ดละ 50 บาท พ่อชิงลาออก รับคุมลูกไม่ได้

รวบลูกผู้ใหญ่บ้านเอเยนต์ใหญ่ค้ายาบ้า รับจำนำรถจยย.แลก ส่วนพ่อชิงลาออก แต่นอภ.ไม่อนุมัติ ยึดทรัพย์มูลค่ารวม 4 ล้านบาท ผู้เป็นพ่อยอมรับ ควบคุมลูกไม่ได้ ถูกตั้งคณะกรรมสอบสวน

เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.67) ชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองขอนแก่น  นำหมายค้นจากศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น  ซึ่งเป็นบ้านนายกิตติธัช หรือ โค้ช อายุ 32 ปี ลูกชายของผู้ใหญ่บ้าน หลังจากสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้กับเยาวชนในพื้นที่ โดยจากการตรวจค้นภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่พบของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,034 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นของตนเอง  ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการที่ผู้ต้องหาได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด  พร้อมกับควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

ต่อมา เวลา 13.00 น. นายกรชวาลวิชญ์ ชัยพีรวัส นายอำเภอน้ำพอง และพ.ต.อ.ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพองและนายสำเริง โสบุญมา ปลัดอำเภอน้ำพอง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่บ้านโนนหัวข้าง  

โดยนาย นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า การจับกุมนายกิตติธัช สืบเนื่องมาจากมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสมายังฝ่ายปกครองและตำรวจ สภ.น้ำพอง ว่า  ลูกผู้ใหญ่บ้าน เป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ ขายยาบ้าและรับจำนำรถจักรยานยนต์กับยาบ้า  จึงสืบสวนรวบรวมหลักฐาน จนทราบว่านายกิตติธัช  ขายยาบ้ามาตั้งแต่ต้นปี 2567 และรับจำนำรถจักรยานยนต์และยาบ้าจริง โดยการรับจำนำรถจักรยานยนต์นั้นจะมีการตีราคาก่อนจึงจะมอบยาบ้าให้  เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจค้นที่บ้าน จนพบยาบ้าของกลาง  และยึดทรัพย์สินภายในบ้านรวมมูลค่า 4,000,000 บาท

ในส่วนของพ่อผู้ต้องหา ที่เป็นผู้ใหญ่บ้านนั้น  หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับกุมลูกชาย  ผู้ใหญ่บ้านก็ทำหนังสือชิงลาออกจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน  แต่ทางอำเภอไม่อนุมัติ เพราะต้องการเอาผิดทางวินัยร้ายแรง เนื่องจากพฤติกรรมของลูกชายเกี่ยวข้องกับยาบ้านั้นเป็นมานานแล้ว  และบ้านก็อยู่ติดกับบ้านพ่อ   คนเป็นพ่อและเป็นผู้นำชุมชนซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดกลับไม่ดำเนินการใดๆ

จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ยอมรับว่า บอกเตือนให้ลูกชายเลิก แต่ลูกชายไม่เชื่อฟัง จึงปล่อย ซึ่งก็เท่ากับว่า ผู้ใหญ่บ้านไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อีกต่อไป

ด้าน พ.ต.อ ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองเสพยาบ้า และเป็นผู้จำหน่ายด้วย โดยซื้อยาบ้ามาจากนายโก้ (ไม่ทราบชื่อจริง นามสกุลจริง) คนลาว โดยรู้จักผ่านเฟซบุ๊กและนายโก้จะส่งเลขที่บัญชีเพื่อให้โอนเงินสดผ่านตู้ธนาคาร โดยเลขที่บัญชีจะไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้ง และเมื่อโอนเสร็จนายโก้ จะสั่งให้นายกิตติธัชลบแชทออกทุกครั้ง โดยซื้อมาครั้ง 1 มัด (ยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด) ในราคา 2,000 บาท  ซึ่งได้ทำมาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา  

ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 นายโก้  ให้คนมาวางยาบ้าจำนวน 1 มัด ไว้ที่บริเวณเสาไฟฟ้า ริมถนนบ้านคำแก่นคูณน้อย ถนนเส้นทาง อำเภอน้ำพอง - อำเภออุบลรัตน์ และจะนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นภายในหมู่บ้าน  โดยจะขายยาบ้าให้ลูกค้า ในราคาเม็ดละ 50 บาท  หากลูกค้ารายใดไม่มีเงิน ก็นำรถจักรยานยนต์พร้อมคู่มือมาจำนำไว้  แล้วรับยาบ้าไปขายต่อ

เบื้องต้น แจ้งข้อหาจำหน่ายโดยมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติด  รวมทั้งยึดทรัพย์สินตามมาตรการยึดทรัพย์  ในส่วนของคนที่นำรถจักรยานยนต์มาจำนำแลกยาบ้า  รวมทั้งนายโก้ ที่จำหน่ายยาบ้าให้กับผู้ต้องหา อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล นำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายเช่นกัน

https://youtu.be/2Wf32mmM7mk