แม่ร้อง ลูกสาว 4 ขวบ ถูกข่มขืน-ทำร้ายจนโคม่า หลังจ้างสองผัวเมียเลี้ยง อ้างเด็กปั่นจักรยานล้มหมดสติ

แม่ร้อง ลูกสาว 4 ขวบ ถูกข่มขืน-ทำร้ายจนโคม่านอนไอซียู แผลฟกช้ำทั้งตัว หลังจ้างสองผัวเมียเลี้ยง อ้างเด็กปั่นจักรยานล้มหมดสติ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา



ที่จังหวัดพิจิตร นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ตำบลบางไผ่ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร นำหลักฐานการตรวจของแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธชินราชตะพานหิน ไปส่งมอบให้กับ ร้อยตำรวจเอก วิเชียร ลอพิจิตร พนักงานสอบสวน ของสถานีตำรวจภูธรบางมูลนาก หลังจากเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 4 ปี บุตรสาวของตน ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย อาการสาหัส มีบาดแผลตามร่างกาย และสมองบวม และต่อมาทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหินได้ส่งต่อการรักษาไปที่ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากมีอาการสาหัส



นางสาวเอเปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้น ตนเองได้นำ ด.ญ.บี บุตรสาวไปจ้าง 2 สามีภรรยาคือ นาง รัตนาพร บานเย็น อายุ 33 ปี และนาย ทรัพย์สิน ดวงกุลสา อายุ 29 ปี เลี้ยง เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากตนเองไปทำงานก่อสร้างที่ กทม.ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ก่อนเที่ยง นางรัตนาภรณ์ ได้โทรศัพท์ มาแจ้งกับตนเองว่า ด.ญ.บี ได้รับบาดเจ็บจากการขี่จักรยานล้มเองและชักหมดสติ และนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตรในวันเดียวกันทางแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหินได้ส่ง ตัว ด.ญ.บี ไปรักษาต่อที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจาก ด.ญ.บี มีอาการสาหัส หมดสติ



โดยแพทย์ที่ทำการรักษา ด.ญ.บีนั้นได้แจ้งกับตนเองว่า ด.ญ.บี มีอาการบาดเจ็บคือเลือดคั่งในสมองข้างซ้าย สมองบวม มีแผลฟกช้ำ ตามลำตัว ปอดช้ำ มีรอยแผลตามใบหน้า และทั้งร่างกาย ซึ่งมีการถูกตีด้วยของแข็ง และถูกทำร้ายมา นอกจากนี้อวัยวะเพศของ ด.ญ.บี นั้นฉีกขาด ซึ่งตนเองเชื่อว่า ลูกของตนเองถูกทำร้ายและถูกข่มขืนแน่นอน ตนเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะขณะนี้ลูกของตนเองยังไม่รู้สึกตัว และยังนอนรักษาตัวเป็นเจ้าหญิงนิทราในห้องไอซียู



ในขณะที่ นางซี (นามสมมติ) ย่าของ ด.ญ.บี ก็เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเองรัก และสงสารด.ญ.บี เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเด็กที่นิสัยล่าเริง และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด



ในขณะที่นายแพทย์วิศิษฎ์ อภิสิทวิทยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ได้รับตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวมาด้วยอาการไม่รู้สึกตัวอาการโคม่า ร่างกายไม่ตอบสนอง ดวงตาเบิกโพรงแต่ไม่ตอบสนองจากแสงไฟ มีศีรษะบวมโต เมื่อประเมินแล้วว่ามีอาการโคม่า ทางโรงพยาบาลจึงได้ทำการรักษาฉุกเฉินด้วยการต่อท่อหายใจ พร้อมต่อท่อปัสสาวะ โดยในขณะที่ต่อท่อปัสสาวะก็พบร่องรอยฉีกขาดบริเวณอวัยวะเพศด้านซ้าย จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารัก จังหวัดนครสวรรค์ โดยใช้เวลารักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหินประมาณ 1 ชั่วโมง



โดยล่าสุดความคืบหน้าคดี ทางด้านร้อยตำรวจเอก วิเชียร ลอพิจิตร พนักงานสอบสวน ของสถานีตำรวจภูธรบางมูลนาก ก็เปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้ทำการเรียกสอบผู้เกี่ยวข้องจากทางฝ่ายผู้ที่รับจ้างเลี้ยงเด็กแล้วจำนวน 4 ปาก พร้อมขอผลการตรวจสอบร่างกายจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ผลปรากฏว่า ทางโรงพยาบาลแจ้งว่านอกจากการมีภายนอกตามร่างกายแล้ว ยังมีร่อยรอยการข่มขืนโดยมีรอยอวัยวะเพศฉีกขาด ยาว 1.5 ซม.บริเวณหัวหน่าว และบาดแผล 0.2 มม. ยาว 0.5 มม. บริเวณใต้ต่อมเยื่อพรหมจารี ซึ่งในขณะนี้ได้ทำการแจ้งความดำเนินคดี นางสาวรัตนาพร บานเย็น และนายทรัพย์สิน ดวงกุลสา สองสามีภรรยา ในข้อหาร่วมกันทำผิด ทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายทรัพย์สิน ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาหรือสามี ของตนโดยโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้ง 2 รายยังให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมเตรียมทำเรื่องขอเงินชดเชยจากกองทุนผู้เสียหายปี 2544 ซึ่งจะมีเงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 100,000 บาท ตามกฎหมายและทั้งคู่ก็ยังมีฐานะยากจน