อาชญากรรม

อดีตกรรมการตัดสินฟุตบอลไทยลีก บุกแทงเจ้าของเกสต์เฮาส์ดับ จนท.คาดปมรักสามเส้า

โดย chiwatthanai_t

22 ก.ค. 2566

323 views

เมื่อเวลา 11.15 น. ( 22 ก.ค.66 ) ร.ต.อ.ชลวิทย์ อธิพันธ์สี รอง.สอบสวน.หน่วยสอบสวนย่อยโค้งดงตาล สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธมีดแทงกันเสียชีวิต โดยผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ ยังอยู่ในที่เกิดเหตุยังไม่ได้หลบหนีไหน หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก. พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง.ผกก.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยารีบนำกำลังไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุ เป็นตึกอาคารสูง 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายกาแฟและอาหาร ส่วนชั้น 2-3 เปิดเป็นห้องพัก โดยที่พื้นชั้นล่าง มีคราบเลือดนองพื้นจำนวนมาก ตรวจสอบ พบชายไทยทราบชื่อ นายสุนทรหรือเบน อายุ 57 ปี เป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกาย และ อดีตกรรมการตัดสินฟุตบอลระดับไทยลีก อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง เลือดไหลนองร่าง ที่ลำคอมีแผลเหวอะหวะ ในมือถือมีดสปาต้ายาวประมาณ 40 ซม. โดยใช้สายรัดด้ามมีด มัดติดกับข้อมือไว้แน่น พร้อมปัดแกว่งมีดไปมา เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเข้าชาร์จ ก่อนที่เจ้าตัวจะหมดสติล้มฟุบไปนอนกองกับพื้น นอนหายใจโรยริน ทีมกู้ภัยฯต้องรีบปฐมพยาบาลแล้วนำตัว ส่งโรงพยาบาลเมืองพัทยา ตำรวจยังยึดมีดที่ใช้ก่อเหตุไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนเจ็บหลังถึงมือหมอ พบว่า มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ช่องท้องจนไส้ทะลัก คอลำถูกปาดจนเกือบถึงหลอดลม


นอกจากนี้ ยังพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทย 1 คน นอนจมกองเลือดอยู่ด้านหลังเคาท์เตอร์ ทราบชื่อต่อมา คือ นาง เสาวจี อายุ 51 ปี เจ้าของเก็ตเฮาส์ที่เกิดเหตุ สภาพนอนตะแคงข้าง มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดที่เข้าที่ลำคอ และ ร่องรอยถูกมีดฟันเข้าที่ศีรษะหลายแผล เสียชีวิตคาที่


นายกบ นามสมมุติ อายุ 37 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างใกล้กับจุดเกิดเหตุ เป็นพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยคนแรก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงคนกรีดดังลั่น ตอนแรกนึกว่ามีคนถูกหวยลาว-หวยฮานอย จึงรีบวิ่งมาดู พอเดินมาถึง ก็พบว่า คนร้ายกำลังใช้มีดฟันคนตายอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะใช้มีด ปาดคอและแทงคอตัวเองไม่ยั้ง จึงรีบตะโกนเรียกให้คนช่วย พยายามจะเข้าไปห้ามแต่คนร้ายก็ใช้มีดปัดแกว่งไม่ให้เข้าใกล้ แถบยังพยายามจะคลานไปฟันคนตายซ้ำ จนกู้ภัยทางทะเล ต้องไปดึงขาคนร้ายแล้วลากไปหน้าร้าน เพื่อทำการควบคุมตัว


นายประกรต อายุ 58 ปี สามีผู้ตาย เบื้องต้นยังอยู่ในอาการช็อก และยังไม่พูดจาใดๆ โดยนายประกรต เป็นสามีที่มีการจดทะเบียนสมรสกับผู้ตายถูกต้องตามกฎหมาย โดยอยู่กินกับผู้ตายนานกว่า 20 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 ส่วนปมสาเหตุ ไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร


พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก. เปิดเผยว่า เบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นเรื่อง ชู้สาว หรือ เรื่องรัก 3 เส้า โดยว่า เมื่อเดือน มีนาคม ผู้ตาย ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ว่าถูกผู้ก่อเหตุโทรศัพท์มาข่มขู่ จนเกรงว่าจะได้อันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงทำให้เชื่อว่า ทั้งคู่อาจเคยมีปัญหาอะไรกันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้เร่งสอบปากคำพยาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News