อาชญากรรม

พ่อใจสลาย! ลูกสาววัย 15 ถูกนายหน้าหลอก จ้างทำงานแม่บ้าน สุดท้ายพาเข้าโรงแรมหวังข่มขืน

โดย paweena_c

23 ก.ย. 2565

317 views

พ่อใจสลาย! ลูกสาววัย 15 ถูกนายหน้าหลอก จ้างทำงานแม่บ้าน สุดท้ายพาเข้าโรงแรม


วันที่ 23 ก.ย.65 เวลา 14.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นาย ไช จอ วิน อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา กรณีที่ลูกสาวของตน ด.ญ.เอ(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี


มีนายหน้าหางานทางเฟซบุ๊คติดต่อมาให้ไปทำงานแม่บ้าน เพราะหานายจ้างได้แล้ว แต่กลับถูกนายจ้างพาเข้าโรงแรมหวังจะข่มขืน แต่ไม่สำเร็จทำได้แค่ให้ลูกสาวตนใช้มือช่วยจนสำเร็จความใคร่ก่อนจะพามาปล่อยทิ้งไว้หน้าห้างโลตัส



นาย ไช จอ วิน ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.45 น. ลูกสาวของตนจะออกไปทำงานแม่บ้านตามที่มีนายหน้าหางานแนะนำให้ ว่ามีคนกำลังหาแม่บ้านอายุประมาณ 15-20 ปี ซึ่งตนก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายหน้าหางานคนนี้ เพราะตนติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊ก


ต่อมา นายหน้าหางานก็ได้ติดต่อผ่านทางแชทว่า สนใจงานแม่บ้านไหม โดยให้ส่งรูปและรายละเอียดต่าง ๆ ให้นายจ้างดูก่อน จากนั้นทางนายจ้างซึ่งใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า "ศุภชัย ยิ่งนิยม" จึงได้ตกลงจะรับลูกสาวตนเข้าทำงาน


และได้คุยกันผ่านทางแชทกับนายหน้าหางานและให้ลูกสาวตนไปพบกับนายจ้าง ตามที่นายจ้างปักหมุดมาให้ ซึ่งเป็นบริเวณหน้าห้างแม็คโคร พอลูกสาวตนไปถึงนายจ้างก็รับขึ้นรถแต่ไม่ได้พาไปทำงาน กลับขับรถพาลูกสาวตนเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งในย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี


จากนั้นจะข่มขืนลูกสาวแต่ลูกสาวตนร้องไห้ไม่ยอม นายจ้างจึงบังคับให้ลูกสาวตนให้ใช้มือช่วยจนสำเร็จความใคร่ หลังจากเสร็จกิจแล้วจึงพาลูกสาวของตนเอามาปล่อยไว้ที่หน้าโลตัสใกล้ ๆ โรงแรม และพูดข่มขู่ว่าถึงจะร้องไห้ไปก็ไม่มีใครมาช่วยหรอก


และยังได้ถามลูกสาวตนว่ามีเงินติดตัวเท่าไร ด้วยความที่ลูกสาวตนเป็นเด็กและกำลังกลัวจึงบอกไปว่ามีอยู่1,000 บาท คนร้ายจึงเอาเงินทั้งหมดไป ปล่อยให้ลูกของตนยืนอยู่ลำพัง


ต่อมามีแท็กซี่ที่ขับรถผ่านมาเห็นลูกของตนกำลังร้องไห้จึงเข้าให้ความช่วยเหลือและพามาส่งที่บ้าน เมื่อมาถึงบ้านตนเห็นลูกร้องไห้จึงได้สอบถามและรู้ความจริงว่าลูกสาวตนไปโดนอะไรมา


ตอนนั้นตนรู้สึกเสียใจทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับครอบครัวของตน หลังจากสอบถามลูกสาวตนก็พาลูกมาแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามคนที่ทำกับลูกสาวตนมาดำเนินคดี


และคิดว่าหากไม่สามารถจับคนร้ายได้ก็จะพาลูกสาวไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา เพราะตนคิดว่าตนเป็นชาวเมียนมาอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม



คุณอาจสนใจ