สิ้นฤทธิ์เพราะพิซซ่า! ล้อมจับ 4 ชม.หนุ่มคลั่งยา เผาบ้าน ยิงขาพ่อ

อาชญากรรม

สิ้นฤทธิ์เพราะพิซซ่า! ล้อมจับ 4 ชม.หนุ่มคลั่งยา เผาบ้าน ยิงขาพ่อ

โดย thichaphat_d

13 ต.ค. 2564

602 views

กรณีนายเอกชัย แสงทองดี อายุ 31 ปี เมาสุราคลุ้มคลั่งเผาบ้านตนเองซึ่งเป็นโรงหล่อเพาะเหล็ก และเป็นเหตุให้นายสูรย์ แสงทองดี อายุ 65 ปี เป็นพ่อ โดนลูกชายยิงด้วยปืนยิงปลาเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีไปแล้วย้อนกลับมาปีนขึ้นหลังคาโรงงานในช่วงเช้าวานนี้ (12 ต.ค.)


พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8. เดินทางมาสั่งการวางแผนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุลงมาจากหลังคา โดยตำรวจยังไม่สามารถปีนขึ้นไปควบคุมตัวได้เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนยิงปลา มีดอีโต้และมีดปลายแหลมติดตัวตลอดเวลา ล่าสุดมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมนำเบาะลมมารองรับด้านล่าง


น.ส.ณัชชา แสงทองดี มารดา ผู้ก่อเหตุกล่าวว่า ลูกชายมีก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นช่างกลึง ขยันขันแข็ง เป็นคนดี ก่อนจะมาติดยาเสพติดได้ประมาณ 10 ปี และเริ่มมีอาการหลอนยา และคลุ้มคลั่งหลายครั้งทำลายข้าวของ แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายของพ่อแม่ มีแค่ครั้งนี้ที่ทำร้ายพ่อ คาดว่าจะหลอน โดยตนเองก็อยากให้ลูกชายเข้ารับการบำบัดหลังจากนี้ ยอมรับว่าเสียใจที่ลูกทำแบบนี้


ต่อมาผู้ต้องหาร้องขอกินพิซซ่า เจ้าหน้าที่จึงวางพิซซ่าไว้ที่พื้น ขณะผู้ต้องหากำลังปีนลงมาอยู่ในความสูงจากพื้น 2 เมตร ตำรวจได้ยิงกระสุนยาง 2 นัดใส่แขนขวา แล้วยิงปืนตาข่ายใส่จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ โดยได้รับบาดเจ็บแขนขวาถูกยิง แขนซ้ายมีร่องรอยถูกแผ่นสังกะสีบาดเล็กน้อย และอยู่ในอาการอิดโรยอ่อนเพลีย อาสาสมัครกู้ภัยจึงนำตัวส่งรพ.เลิศสิน โดยนายเอกชัย พูดว่า “รักแม่มาก รักแม่คนเดียว”


พล.ต.ต.มานพ กล่าวว่า ในการปิดล้อมจับกุมเจ้าหน้าที่ได้เตรียมอุปกรณ์ที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ไม้ง่าม ปืนยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และนำโดรนบินสำรวจวางแผน ระหว่างนั้นก็มีความเจรจากับผู้ต้องหาแต่คล้ายยังมีอาการเมายาเสพติดอยู่ หลังพยายามเจรจามาได้ระยะหนึ่ง ผู้ต้องหาเริ่มเรียกร้องอยากกินพิซซ่า จึงรับปากว่าจะหาให้และให้ลงมาด้านล่าง ก่อนจะใช้ปืนกระสุนยาง ปืนตาข่ายยิงเพื่อจับกุมตัว


ทั้งนี้หลังพาตัวไปทำแผลตามร่างกายเสร็จแล้ว จะคุมตัวไปสอบสวนปากคำที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อตรวจหาสารเสพติด ซักถามรายละเอียดต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด และเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธ ส่วนเรื่องยาเสพติด ต้องรอผลการตรวจสารเสพติดหากพบก็จะแจ้งข้อหาเสพยาเสพภายหลังอีกครั้ง


ส่วนเรื่องสุขภาพจิต เท่าที่สอบถามมารดา ยังไม่พบว่าเข้าข่าย หลังการสอบสวนจะนำตัวไปศาลอาญาธนบุรีวันที่ 14 ต.ค. ต่อไป สำหรับปฏิบัติการไล่ล่าในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 15 ชั่วโมง นับตั้งแต่ก่อเหตุ และใช้เวลาปิดล้อมเจรจาและควบคุมตัวนานกว่า 4 ชั่วโมง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/h2LD_Rfhj3U

คุณอาจสนใจ

Related News