'อ.ปริญญา' ชี้ อย่าหลงประเด็น คดี 'ผกก.โจ้' อย่าให้ถุงดำใบต่อไปมาคลุมหัวใครอีก

อาชญากรรม

'อ.ปริญญา' ชี้ อย่าหลงประเด็น คดี 'ผกก.โจ้' อย่าให้ถุงดำใบต่อไปมาคลุมหัวใครอีก

โดย passamon_a

30 ส.ค. 2564

204 views

'อ.ปริญญา' ชี้ อย่าหลงประเด็น คดี 'ผกก.โจ้' อย่าให้ถุงดำใบต่อไปมาคลุมหัวใครอีก


ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิต ระบุว่า


"จะรีดเงินหรือรีดเอาข้อมูลที่ซ่อนยา ก็ทำแบบนี้ไม่ได้ อย่าให้ถุงดำใบต่อไปมาคลุมหัวใครอีก


ผู้กำกับโจ้แก้ตัวผ่านมือถือกับ ผบ.ตร. ให้สื่อมวลชนฟังว่า ที่เอาถุงคลุมหัวผู้ต้องหาในคลิปไม่ใช่เป็นการรีดเงิน 2 ล้านอย่างที่เป็นข่าว แต่ต้องการรีดข้อมูลที่ซ่อนยาและไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาเห็นหน้า


เรื่องคลุมหัวเพราะไม่ให้ผู้ต้องหาเห็นหน้านั้นฟังไม่ขึ้นอยู่แล้ว แต่สำหรับเหตุผลว่าทำไปเพื่อรีดข้อมูลที่ซ่อนยาเพื่อปกป้องสังคมจากยาเสพติดนั้นเราจะยอมรับได้หรือ?


ผมเรียนว่าเราต้องไม่หลงประเด็นไปตามทางที่เขากำลังพาเราออกไป คือต่อให้เป็นการรีดข้อมูลที่ซ่อนยาเสพติด และไม่มีการรีดเงินจริงๆ ตำรวจก็จะเอาถุงไปคลุมหัวหรือทรมานผู้ต้องหาไม่ได้ และผู้ต้องหาไม่ว่าจะเป็นพ่อค้ายาหรือจะเป็นใครก็ทำแบบนี้กับเขาไม่ได้ครับ


เพราะเราถ้าเรายอมรับให้ใช้วิธีการแบบนี้กับพ่อค้ายาเสพติด หรือยอมรับวิธีทรมานผู้ต้องหาในการแก้ปัญหายาเสพติดได้ ก็แปลว่าถ้าตำรวจอยากทำเช่นนี้กับใครก็ตั้งข้อหายาหรือยัดยาให้ หรือตั้งข้อหาร้ายแรงให้ แล้วก็เอาถุงคลุมหัวหรือทรมานได้ อย่างนั้นหรือ?


ความยุติธรรมเป็นเรื่องส่วนรวมครับ เพราะถ้าความโหดร้ายเช่นนี้มันเกิดกับใครสักคนได้ มันก็เกิดกับทุกคนได้ สังคมได้เห็นคลิปนี้กันหมดแล้ว ท่าน ผบ.ตร.จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นกลับมาได้ มีทางเดียวคือต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาให้สังคมเห็นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ยอมรับวิธีการแบบนี้ และจะจัดการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก


โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ส่งคลิปนี้ให้ และให้ข้อมูลว่าคลุมหัวเพื่อเรียกเงิน 2 ล้านบาท ไม่มีการพูดถึงแม้แต่น้อยว่าจะคุ้มครองเขาอย่างไร แค่ผู้กำกับโจ้แค่พูดผ่านมือถือว่า ไม่ใช่การรีดเงิน เป็นแค่การรีดข้อมูลที่ซ่อนยา ที่ทำท่าขึงขังจริงจังในตอนแรกว่าจะ ‘กำจัดนิ้วร้าย’ ตอนนี้ก็ดูจะความผิดแค่ ‘สอบผู้ต้องหายาเสพติดหนักมือไป’ เท่านั้นเสียแล้ว


ที่สังคมคาดหวังว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำให้เรื่องแบบนี้ไม่เกิดอีก สงสัยคงจะยากที่จะคาดหวังว่าจะเกิดได้เองโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเอาแค่ที่เกิดไปแล้ว คนก็ชักสงสัยว่าก็อาจจะไม่มีการกำจัดนิ้วร้ายกันแล้ว เพราะเท่าที่ฟังดูนิ้วชักจะไม่ร้ายเท่าไหร่แล้ว


แต่สังคมต้องไม่ยอมเรื่องนี้ครับ เพราะดังที่ผมได้เขียนไปข้างต้น ถ้าเรื่องแบบนี้มันเกิดกับใครบางคนได้ มันก็จะเกิดกับทุกคนและเกิดกับเราได้ครับ


เรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ ทั้ง ผบ.ตร. และนายกรัฐมนตรีทั้งในฐานะผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และในฐานะที่ปล่อยให้เวลาผ่านไป 7 ปีโดยไม่ดำเนินการใดที่เป็นการปฏิรูปตำรวจเลย


เริ่มปฏิรูปตำรวจด้วยการไม่ยอมเรื่องนี้ อย่าให้ถุงดำใบต่อไปมาคลุมหัวเราหรือไปคลุมหัวใครอีกครับ"




คุณอาจสนใจ

Related News