‘ปริญญา’ ชี้ แม้คืนชีพ ‘ไอทีวี’ ขึ้นมา ‘พิธา’ ก็ไม่ถือว่าถือหุ้น

ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการที่ เลขาธิการ ป.ป.ช. ยืนยัน ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยื่นรายการบัญชีทรัพย์สิน เพิ่มเติม ต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2562 กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. และแนบสำเนาคำสั่งศาลที่สั่งให้ นายพิธา เป็นผู้จัดการมรดกหุ้นไอทีวี ด้วยว่า

การยืนยันดังกล่าว ชัดเจนว่า นายพิธา ถือหุ้นในนามของทายาททุกคน ไม่ได้ถือในนามตัวเอง ตามหลักกฎหมาย มรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ผู้จัดการมรดกไม่ใช่เจ้าของ ทายาทในกองมรดกก็ยังไม่ใช่เจ้าของ จนกว่าจะมีการแบ่งแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้ นายพิธาไม่จำเป็นต้องยื่นแจ้ง ป.ป.ช. ด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่เจ้าของ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 1615 มีหลักไว้ว่า ถ้ามีการสละมรดกเกิดขึ้น มันจะถอยหลังไปถึงวันที่เจ้ามรดกตาย ดังนั้นเมื่อยังไม่มีการแบ่ง ตามกฎหมายก็ยังไม่ถือว่ามีใครเป็นเจ้าของ และหลังกฎหมายก็ชัดเจนว่า นายพิธาไม่ได้ถือหุ้นไอทีวี

"ต่อให้ไอทีวีฟื้นคืนชีพขึ้นมาก็ไม่ถือว่าถือหุ้นไอทีวี เพราะอยู่ในนามผู้จัดการมรดก หรือต่อให้เป็นทายาทอยู่ เมื่อยังไม่ได้แบ่ง กฎหมายก็ถือว่ายังไม่มีใครได้เป็นเจ้าของ ดังนั้นเมื่อเลขาธิการ ป.ป.ช.ออกมาให้ข้อมูลแบบนี้ก็ชัดเจน จากที่มีความพยายามครหา ว่านายพิธาเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว"

ส่วนประเด็นที่ อดีต กกต. สมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาเปิดประเด็น โพสต์ไว้ว่า คุณพิธา โอนหุ้น แต่ไม่ได้สละมรดก นั้น อ.ปริญญา กล่าวว่า จะโอน หรือ สละ ไม่ใช่ประเด็น เพราะในเมื่อไม่มีใครเป็นเจ้าของหุ้น นายพิธาก็ไม่ใช่เจ้าของตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องสละ เมื่อโอนหุ้นไปมันก็จบ เพราะผู้จัดการมรดกมีหน้าที่แบ่งมรดก เมื่อโอนออกไปให้ทายาทก็จบหน้าที่ ส่วนการสละมรดก สามารถทำได้ในฐานะทายาท แต่การสละมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 1613 มันสละแค่บางส่วน หรือ เฉพาะหุ้นไอทีวี ไม่ได้ จะสละต้องสละทั้งหมด จึงไม่จำเป็นต้องสละ เพราะไม่ใช่เจ้าของหุ้นไอทีวี ตั้งแต่ต้น จะไปสละมรดกทั้งหมดทำไม