นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ทำคำชี้แจงหลังจากที่เมื่อวานนี้ ถูก ปปท. ชี้ความผิดคดีอาญา มาตรา 157 กรณีที่ก่อเหตุเผาบ้านของนายคออี้ มีมิ อดีตผู้นำจิตวิญญาณชาวกะเหรี่ยงบางกลอย เมื่อปี 2554 โดยระบุว่า ไม่เคยมีการเผาตามที่ถูกชี้มูล และบอกว่า เจ้าหน้าที่ที่กล่าวหายังไม่มีใครเคยลงไปดูที่เกิดเหตุ ว่าอยู่ตรงไหน 

ขณะที่ในพื้นที่เพชรบุรีก็มีความเคลื่อนไหว ทั้งจากกลุ่มภาคีเซฟแก่งกระจานป่าของโลก และเจ้าหน้าที่อุทยานฯแก่งกระจาน ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ลูกชายนายคออี้ พร้อมพวก ที่กลับขึ้นไปบุกรุกพื้นที่พิพาท

นางสาวเนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางไปที่ สภ.แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับผู้บุกรุกยึดถือครอบครอง เผาทำลายป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ บริเวณบ้านบางกลอยบนและใจแผ่นดิน ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวม 18 คดี พร้อมทั้งนำเอกสาร สำนวนมายื่นต่อพนักงานสอบสวนด้วย 

เช่นเดียวกับกลุ่มภาคีเซฟแก่งกระจานป่าของโลก ก็เข้าแจ้งความ นายนอแอ๊ มีมิ ลูกชายนายคออี้ ฐานบุกรุกป่า พร้อมทั้งยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ กับพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานด้วย โดยนายสุรพล นาคนคร ประธานองค์กรอนาคตเพชรบุรี และภาคีเซฟแก่งกระจานป่าของโลก กล่าวหาว่าพบเห็นการกระทำความผิดอาญา โดยมีนายนอแอ๊ พร้อมพวก กลับขึ้นไปบุกรุกพื้นที่พิพาท ที่ปัจจุบันเป็นพื้นที่ป่า ที่ศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาแล้วว่า เป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงอาจเป็นการละเมิดมาตรา 16 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติปี 2504 จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว 

และหลังจากที่เมื่อวานนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติภาครัฐ หรือ ปปท. มีมติชี้มูล นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีความผิดอาญามาตรา 157 ฐานที่เข้ารื้อถอนและเผาทำลายบ้านเรือนของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย เมื่อปี 2554 

วันนี้แม้ไม่ได้ชี้แจงด้วยตัวเอง แต่ได้ส่งคำชี้แจงแทน มีใจความสำคัญว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการทุกคดีอย่างเป็นธรรม ที่สามารถอธิบายกับตำรวจและศาลได้ พร้อมถามกลับเจ้าหน้าที่ ปปท. ที่ทำสำนวนกล่าวหา ว่าได้ลงพื้นที่สอบสวนพยานหลักฐานมาก่อนหน้านี้หรือไม่

ทั้งนี้ ระบุว่า ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีการเผาบ้านปู่คออี้ ตามฟ้องแต่อย่างใด ขอให้เจ้าหน้าที่ ปปท. ไปดูจุดเกิดเหตุก่อนว่ามีจริงหรือไม่ และอยู่ตรงไหน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม นอกจากนี้ ยังแนบความเห็นของศาลปกครองกลาง เมื่อปี 2559 ครั้งที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้มาประกอบด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการเข้าจัดการกับสิ่งปลูกสร้างที่พบสร้างโดยไม่ชอบ 

ข่าว 3 มิติ ได้สอบถามขั้นตอนปฏิบัติหลังการชี้มูลกับเจ้าหน้าที่กรณีนี้ กับเจ้าหน้าที่นายหนึ่งใน ปปท. ระบุว่า การชี้มูลความผิดเป็นเพียงความเห็นขั้นต้นของกระบวนการ ที่คณะกรรมการลงความเห็นตามพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนนำเสนอ แต่จะยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ จนกว่าจะทำเป็นหนังสือลงนามจาก ปปท. ไปถึงสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะต้นสังกัดก่อน 

เมื่อรับเรื่อง ทางต้นสังกัดก็จะตั้งกรรมการมาตรวจสอบ และเรียกพยานหลักฐานหรือผู้ถูกชี้มูลสอบสวนเพิ่มเติมก่อนหรือไม่ก็ได้ หากเห็นด้วยก็มีคำสั่งตามลำดับการบังคับบัญชา หากไม่เห็นด้วยก็ทำความเห็นแย้งกลับไป ซึ่งใช้เวลามากน้อยขึ้นกับความเร่งด่วนของแต่ละราย กรณีนี้หากนายชัยวัฒน์ ไม่เห็นด้วยกับ ปปท. เมื่อมีหนังสือเป็นลายอักษรแล้ว ก็สามารถขอเข้าชี้แจงกับทาง ปปท. โดยตรงเพื่อให้ทบทวนความเห็นได้เช่นกัน