เลขาฯ ส.ป.ก. แจ้งความเอาผิด 'ชัยวัฒน์' พร้อมพวก หลังลงพื้นที่ถอนหลักหมุด ส.ป.ก.ในโคราช

ความคืบหน้ากรณีพิพาทที่ดินส.ป.ก.ที่อุยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังจากเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ออกเดินสำรวจ พบหมุดส.ป.ก.ปักในเขตอุทยานฯหลายจุดหลังก่อนหน้านั้น มีการแจ้งการทับซ้อนเขตและมีการทักท้วงมาจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯและผู้นำชุมชนถึงแนวเขตป่ากับส.ป.ก.ไปแล้ว จนทำให้ที่สุดนายชัยวัฒน์ สั่งถอนหมุดส.ป.ก.จำนวนหนึ่งออกจากจุดที่พบ พร้อมประกาศพร้อมให้ดำเนินคดี เพื่อจะได้พิสูจน์ว่า หมุดส.ป.ก.ปักในเขตอุทยานฯหรือไม่ เพื่อจะได้ข้อยุติการพิพาทในเรื่องนี้


แต่ดูเหมือนตลอดกว่า 10 วันที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวก็ยังคงไม่จบ ต่างฝ่ายต่างยันเขตตามข้อมูลที่มี ล่าสุดวันนี้ปรากฎว่า รองเลขาฯส.ป.ก.พร้อมรักษาการส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา ก็เจ้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายชัยวัฒน์พร้อมพวก ในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และลักทรัพย์ กรณีถอนหมุดส.ป.ก.ดังกล่าวออกมา


นายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการ ส.ป.ก. พร้อมด้วย นายอำมริต คงแก้ว รักษาราชการแทนปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่นิติกร ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ประยงค์ หวังกุลกลาง พนักงานสอบสวน สภ.หมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติฯ และพวก ที่ได้ลงพื้นที่ไปดำเนินการถอนหลักหมุด ส.ป.ก.ในพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา


เนื่องจากยืนยันว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าว ส.ป.ก.ได้รับที่ดินมาจากการจำแนกที่ดินออกมาจากป่าถาวรป่าเขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตามที่ปรากฏในพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฉบับลงวันที่ 18 กันยายน 2515 เนื้อที่ประมาณ 33,496 ไร่ และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2534 พื้นที่ที่เกิดเหตุจึงเป็นที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของ ส.ป.ก.ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518


นอกจากนี้ระบุว่า นายชัยวัฒน์ และพวก ยังได้ดำเนินการถอนหลักหมุด ส.ป.ก. ในแปลงเลขที่ 9 ระวางที่ 5238115008 และแปลงอื่นในบริเวณโดยรอบ รวมจำนวน 27 หมุด โดยกล่าวอ้างเพื่อถือเอาว่าหลักหมุด ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยนายชัยวัฒน์ และพวก ได้ยักย้ายหลักหมุดดังกล่าวซึ่ง ส.ป.ก.นครราชสีมาได้ฝังไว้ เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน โครงการที่จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ อันเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของ ส.ป.ก. โดยหลักหมุดดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการกำหนดขอบเขตรูปแปลงแผนที่ หลักหมุดดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินของ ส.ป.ก.


การปฏิบัติหน้าที่ของ นายชัยวัฒน์ และพวก ที่กล่าวอ้างว่าพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พ.ศ.2505 ซึ่งกรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบข้อมูล และการรังวัดสากลยืนยันว่า พื้นที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ดังนั้นเลขาธิการ ส.ป.ก.จึงสั่งการให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี ให้ดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ และพวก ในข้อหาทำลายทรัพย์สินทางราชการ และลักทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ล่าสุดทีมข่าว 3 มิติสอบถามไปยังนายชัยวัฒน์ถึงการถูกแจ้งความเผาผิดแล้ว ทางนายชัยวัฒน์ ระบุว่าถือเป็นเรื่องที่ดี ที่จะได้นำหลักฐานไปพิสูจน์กันในชั้นศาล


และในวันพรุ่งนี้ ทางคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรและคณะจะเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและสำรวจสภาพข้อเท็จในพื้นที่พิพาทระหว่างส.ป.ก.และแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาใหญ่