ทีมข่าวได้รับการยืนยันจากผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว คือการแกะรอยฆาตรกรรมนางสาวมยุรี ยอดพะเนา หรือหลิววัย 19 ปี ถึงเวลานี้ คืบหน้าไปมาก ทั้งการเก็บหลักฐานและสอบพยานที่เกี่ยวข้อง แต่แม้จะคืบหน้าไปมากก็จำเป็นต้องทำอย่างรัดกุม

ผู้กำกับการ สภ.วัฒนานคร ยืนยันว่ายังไม่ทิ้งปมสงสัย 3 ประเด็น คือชิงทรัพย์ ซึ่งได้เรียกสอบกลุ่มวัยรุ่นใกล้เคียงไปหลายปาก ประเด็นขัดแย้งส่วนตัวที่หลิว อาจมีอยู่กับเพื่อนคนรู้จัก ที่คบหาหลายกลุ่ม และประเด็นหึงหวง ที่คบหากับชายสูงวัยคนหนึ่งมาก่อน ส่วนประเด็นยานพาหนะที่อาจเกี่ยวข้องกับการตาย ตำรวจระบุว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ที่หลิวเคยใช้ หรือรถที่คนใกล้ชิดกับหลิวเคยใช้ มั่นใจว่าจะติดตามตรวจสอบย้อนหลังได้ แม้เวลาจะผ่านมา 8 ปี

มีข้อมูลว่า แม้ตำรวจจะตั้งข้อสงสัย 3 ประเด็น แต่การหึงหวงของข้าราชการสูงวัยระดับ ผอ. เป็นที่เพ่งเล็งมากกว่า เพราะทั้งคู่เคยคบหา ก่อนจะทะเลาะเพราะฝ่ายชายหึงหวง และข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาของ ผอ.คนนี้ที่สุพรรณบุรี ก็ระบุว่า ผอ.ขอลาราชการ ขณะเดียวกันก็เคยเปิดเผยกับผู้บังคับบัญชาว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตำรวจเคยเชิญตัวไปสอบปากคำและขอหมายค้นเพื่อหาอาวุธปืน เพราะเชื่อว่าปืนจะเกี่ยวพันกับการตายของหลิว แต่ผอ.คนดังกล่าว ให้ข้อมูลกับ ผู้บังคับบัญชาว่า ปืนหายไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตุว่า หากปืนนั้นมีทะเบียนถูกต้อง ก็ต้องผ่านการยิงทดสอบเกลียวกระสุนที่ออกจากปืนกระบอกนั้นไว้ก่อน เพื่อบันทึกเป็นข้อมูลในทะเบียนอาวุธปืน และแม้ปืนจะหายไป ก็มีข้อมูลเกลียวหรือหัวกระสุนปืนอยู่ ซึ่งอาจเปรียบเทียบกับหัวกระสุนที่พบในร่างผู้ตายได้

วันนี้ครอบครัวไปรับชิ้นส่วนกระดูกของหลิว ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจส่งมอบคืนมาให้ผ่าน สภ.วัฒนานคร โดยชิ้นส่วนกระดูกนี้ ถูกเก็บไว้เพื่อรอสกัดเป็นดีเอนเอ สำหรับเปรียบเทียบกับกรณีที่มีญาติสงสัยว่าศพนิรนามอาจเป็นญาติตัวเอง และดีเอนเอ จากผลกระดูกดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นหลิว ที่เหลือจากนี้ คือหวังว่าตำรวจจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

แม่ของน้องหลิว ยังระบุว่า ระหว่างนี้รอรับโครงกระดูกทั้งหมดของลูก ซึ่งสุสานเอกชนเก็บรักษาอยู่เพื่อทำพิธีทางศาสนาพร้อมกัน และยอมรับว่า เสียใจที่ลูกตายจากไป แต่ถึงวันนี้โล่งใจที่รู้ความจริง จะได้ไม่ต้องตั้งตารอคอยลูกให้กลับบ้านในวันเทศกาลเหมือนครอบครัวอื่น ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา