'อธิบดีข้าว' เปิดใจปมล่อซื้อ 'ศรีสุวรรณ' ใช้เวลารวมหลักฐาน วางแผนมานาน

ความคืบหน้าคดีนายศรีสุวรรณและพวกที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าวแลกกับการไม่ร้องเรียน วันนี้มีความเคลื่อนไหวหลายด้าน ทั้งจากผู้ถูกเรียกรับเงิน ผู้ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับ ฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้อง และตำรวจเจ้าของคดี



นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แถลงข่าวครั้งแรก หลังมีการรวบรวมหลักฐานแจ้งจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา กรณีถูกเรียกรับเงินว่า ตัดสินใจแถลงข่าวและจะพูดเฉพาะบางส่วนที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้ดำเนินการกับภรรยา 2 คน รวบรวมข้อมูลทั้งหมด เป็นระยะเวลานานพอสมควร และไปแจ้งความดำเนินคดี โดยที่ทีมงานของรัฐมนตรีไม่มีใครทราบ ส่วนการต่อรองจำนวนเงินจาก 3 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาทนั้น อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่าตั้งใจล่อซื้อ



ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงภายหลังประชุม สส.และกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติว่านายสัญญา นิลสุพรรณ สส. นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรได้ลงนามให้ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" พ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษาประธาน กรรมาธิการกิจการศาลฯแล้วในวันนี้



ขณะที่ น.ส.พิมณัฏฐาได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

วันนี้เช่นกัน ทำให้คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงที่พรรคตั้งขึ้นไม่จำเป็นต้อง

ตรวจสอบแล้ว ส่วนคำถามว่าใครเชิญนายเจ๋ง ดอกจิกเข้ามาทำงาน นายอัครเดชเลี่ยงที่จะตอบว่าใครเป็นคนชวนมา



มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุม นายกฯได้พูดถึง ประเด็นที่กำลังเป็นข่าวเรื่องการจับกุมกลุ่มนักร้องเรียน ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาพยายามรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวขึ้นมาว่า จากเหตุการณ์ที่ปรากฏในสื่อ เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย



ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พูดขึ้นมาว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ เมื่อร.อ.ธรรมนัส พูดจบลง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พูดขึ้นมาทันทีด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในทำนองว่า การจับกุมในทำเนียบรัฐบาลไม่ถูก ที่นี่เป็นหน้าเป็นตารัฐบาล ไม่ให้เกียรติสถานที่ ทั้งที่ตำรวจก็ตามมาจากบ้าน ตั้งแต่เช้าแล้วทำไมไม่ไปจับกุมตั้งแต่ตอนนั้น และพูดต่อว่าเรื่องนี้อย่าหลงประเด็น ใครผิด ใครถูก ต้องตรวจสอบให้หมดทุกฝ่าย นายกฯ ก็เป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจ เรื่องนี้ถือว่า ไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติสถานที่



ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีวันนี้ กรณีที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าว กังวลกรณีนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" ถูกปลดจากคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของรองนายกฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 จะไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐขณะเรียกรับผลประโยชน์

แล้วทำให้ข้อหาอ่อนลง



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่า หากมีคำสั่งปลดก่อนเรียกรับผลประโยชน์จริง นายยศวริศ จะไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นคำสั่งปลด และก่อนที่จะมีการออกหมายจับได้รับการยืนยันจาก ป.ป.ช. แล้วว่านายยศวริศ มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในขณะกระทำความผิด หากมีคำสั่งปลดจริง ก็จะต้องตรวจสอบเอกสารให้ชัดเจน



อย่างไรก็ตามในขบวนการนี้ มีบุคคลที่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะเรียกรับผลประโยชน์ คือ น.ส.พิมณัฏฐา หรือ "ตูน" ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของรองนายกฯ ในเช้าวันที่ 26 มกราคม 2567 ก่อนมีการล่อซื้อที่บ้านนายศรีสุวรรณ

เพราะเป็นผู้เจรจานัดหมายในการวางเงินวันนั้น



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่านอกจากกรณีของอธิบดีกรมการข้าว ล่าสุดมีข้าราชการการเมืองที่มีชื่อเสียงติดต่อเข้ามา เพื่อจะแจ้งความหลังถูกกลุ่มของนายศรีสุวรรณเรียกรับผลประโยชน์ในลักษณะเดียว กัน โดยยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดแต่มีการประสานจะเข้าพบ