เจอหลักฐานเพิ่ม 'คดีโยโกะ' โน๊ตกฎคบฝ่ายชาย -พิรุธจากภาพวงจรปิด แม่เชื่อหากลูกจบชีวิต อาจกดดันจากคนรัก

แม่ของน้องโยโกะ ยอมรับตกใจเห็นโน๊ตข้อความ เงื่อนไขการคบหากับฝ่ายชาย ในโทรศัพท์มือถือลูก มองว่าทำเกินกว่าเหตุ และอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงกดดัน ด้านเพื่อนโยโกะชี้ ที่ผ่านมากลุ่มเพื่อนรับรู้แค่ว่าโยโกะมีแฟน แต่ไม่เคยได้เห็น หรือ รู้จักว่าเป็นใคร เชื่อหากฆ่าตัวตาย เพราะกดดันจากคนรักมากกว่า


นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่ของน้องโยโกะ เปิดใจหลังออกรายการโหนกระแสว่า ข้อความที่พบในโน๊ตโทรศัพท์มือถือของลูกสาว ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับเงื่อนไขในการคบหากับฝ่ายชายนั้น คุณแม่มาทราบ และเห็นข้อความดังกล่าวในวันที่น้องเสียชีวิตแล้ว ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ เพราะเท่าที่อ่านดูกฎ ข้อกำหนดแค่อนข้างเยอะ และยาวมาก


ตอนที่ลูกสาวลบแอคเค้าท์ต่างๆ ในแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงเปลี่ยนอีเมล ตนเองก็สงสัย และเคยถามลูกสาวไปว่าทำไมถึงลบ แล้วเฟซบุ๊ก ไอจีหายไปไหน ทำไมไม่มีในโซเชียล น้องโยโกะก็ได้แต่ตอบว่า น่าจะโดนแกล้ง และไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม


ที่ผ่านมา แม่ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีกฎแบบนี้ ยอมรับว่าพอเห็นข้อความในโน๊ต รู้สึกว่าเกินกว่าเหตุ และอาจจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นแรงกดดัน ส่วนบทสนทนาสุดท้ายในแชทที่ฝ่ายชายคุยกับโยโกะ ส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะมีปากเสียงกัน

คุณแม่ยังติดใจสาเหตุอยู่ โดยเฉพาะภาพกล้องวงจรปิด ที่เป็นช่วง gap เวลา และประเด็นที่ว่า ฝ่ายชายได้ให้กู๊ด ซึ่งเป็นหลานของโยโกะ ที่เป็นคนไปเปิดห้อง ก่อนพบศพ ซึ่งกู๊ดเองก็สงสัยว่า ทำไมแฟนหนุ่มไม่ขึ้นมาเปิดเอง แต่แฟนหนุ่มไม่บอกเหตุผลที่ไม่ขึ้นมาเปิดห้องเอง


คุณแม่บอกว่า ตนได้อธิษฐานจิตบอกกับลูกสาวว่า จะพยายามช่วยน้องให้ถึงที่สุด จะทวงความยุติธรรมให้น้อง ส่วนฝ่ายชาย ก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย ถ้าเจอก็อยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น


ขณะที่อีกหนึ่งประเด็น ที่มีการพูดคุยในรายการโหนกระแส คือ ประเด็นที่มีการอ้างว่า ฝ่ายชายส่งคลิปลับมาหาฝ่ายหญิง ในวันที่ 31 ตุลาคม 66 ซึ่งอาจจะเป็นแรงกดดันหรือไม่นั้น


ในส่วนนี้ นางสาวบี เพื่อนสนิทชี้แจงแทนว่า ให้ตำรวจเป็นคนตอบประเด็นนี้ดีกว่า เพราะว่าน่าจะเป็นหลักฐานสำคัญ และจะมีการมอบให้กับพนักงานสอบสวน


โดยในแชทข้อความ ผู้ชายส่งให้ในโทรศัพท์ของโยโกะ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้โยโกะเครียดหรือเปล่า แต่อาจจะเป็นความกดดันหนึ่ง


ที่ผ่านมา โยโกะเป็นคนร่าเริงเข้มแข็ง และไม่ได้มีการปรึกษาเรื่องความทุกข์ ความรักบอกแค่ว่ามีแฟน คบกันดี แต่ก็ไม่เคยมีใครได้เห็นรูปของแฟนโยโกะ ไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน แต่ทราบแค่ว่ามีแฟนผู้ชายคนนี้ ซึ่งไม่เคยอยู่ในสังคม หรือวงสังคมของโยโกะเลย


จากข้อกำหนดการคบหาที่พบในโน๊ตโทรศัพท์ ยอมรับว่า มันกดดันจนเกินไป เพราะทุกคนล้วนมีเพื่อน มีสังคม ก็อยากไปเที่ยวกับเพื่อนได้ ไปไหนได้อิสระ


ส่วนตัวเชื่อว่า 50% ว่าอาจเป็นไปได้ทั้งโยโกะจะจบชีวิตตัวเอง หรือจะถูกใครกดดันหรือทำให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน แต่ถ้าผลชันสูตรออกมาว่าจบชีวิตตัวเองจริงๆ ก็เชื่อได้ว่ามีคนกดดันจากคนรักมากกว่า


สำหรับกรณีสารไซยาไนด์ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมา นางสาวบี เล่าว่า เคยมีการพูดคุยกันในเชิงล้อเล่นกันขำๆ มากกว่า และโยโกะเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะสั่งซื้อมาลอง ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องเอาสารไซยาไนด์ไว้ในถุงซิปล็อค ทั้งที่อยู่ในตู้เซฟก็ปลอดภัยดีอยู่แล้ว ในเมื่อไม่ใช่สิ่งของที่จะหกได้ง่าย เพราะอยู่ในขวดอยู่แล้ว จึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ว่าสั่งซื้อมานานแล้ว แต่นำไปเก็บไว้ในตู้เซฟเพื่อซ่อนฝ่ายชาย


หลังจากนี้เห็นว่าตำรวจจะตรวจการสั่งพัสดุย้อนหลัง 1 ปีว่ามีการสั่งซื้อไซยาไนด์จริงหรือไม่ และมีการจ่าหน้าซอง รวมถึงหลักฐานการสั่งซื้อว่าเป็นชื่อของโยโกะหรือไม่คาดว่าน่าจะตรวจสอบได้เพราะข้างขวดมีเลขทะเบียน


เมื่อถามว่าโยโกะเคยมีความคิดจบชีวิตตัวเองก่อนหน้านี้หรือไม่ นางสาวบี บอกว่า โยโกะเคยเข้าโรงพยาบาล ทุกคนรู้ว่าโยโกะมีความเครียด เนื่องจากอาชีพมีการแข่งขันค่อนข้างสูง อาจเห็นเข้าโรงพยาบาลบ้าง แต่ไม่ทราบว่าเข้าโรงพยาบาลเพราะไม่สบายหรือฆ่าตัวตาย

ส่วนตัวมองว่าฝ่ายชายควรออกมาชี้แจง เพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม สุดท้ายแล้วส่วนตัวยืนยันไม่ได้ปรักปรำใคร เหตุดังกล่าวอาจจะมาจากโยโกะเป็นคนฆ่าตัวตายเองก็ได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uB6zVGFLkRs