ผู้ปกครองย้ายลูกหนี แจ้งความ หลังศูนย์เด็กเล็กฯ ให้เปลือยแข่งสวมเสื้อผ้า

ศูนย์เด็กเล็ก ให้เด็กร่วมกิจกรรมโดยให้ถอดเปลือย สวมกางเกงในตัวเดียว แข่งขันสวมเสื้อผ้าจนเกิดเป็นประเด็น

จากกรณีดราม่า นำเด็กปฐมวัย มาร่วมกิจกรรมโดยให้เด็กน้อย ถอดเปลือย หรือ สวมกางเกงในตัวเดียว แล้วแข่งขันกันสวมเสื้อผ้านั้น ล่าสุด ทีมข่าวได้ตรวจสอบ พบว่าข้อมูลจากภาพที่ถูกนำออกมาแชร์อยู่ในโลกออนไลน์ มีกิจกรรมคล้ายกัน และ เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกัน 2 แห่งคือ คือ ที่อบต.นอกเมือง จังหวัด สุรินทร์ และ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต.แห่งหนึ่ง ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งวานนี้ ที่ อบต.นอกเมือง จ.สุรินทร์ ได้มีการเรียกผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุย พบว่า ผู้ปกครองเด็กที่เข้าร่วมการแข่งขันถอด – สวมเสือผ้า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา มี 12 คน จาก 6 ศูนย์ฯ ผู้ปกครองทั้งหมดไม่มีใครติดใจ และ ไม่มีผู้ปกครองคนใด ออกมาโพสต์ร้องเรียนในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในโพสต์ของ อบต.แห่งนั้นก็มีเพียงภาพกิจกรรม แต่ได้ให้ลบทั้งหมดหลังมีการวิพากษ์วิจารณ์ โดยในที่ประชุมยังสับสน และ ถกเถียงกันว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับที่ คุณพ่อ ดญ. 4 ขวบ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ และ สื่อมวลชนหรือไม่

โดย นายอนุชา พิสมัย ปลัด อบต.นอกเมือง ในฐานะเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันได้ขอโทษในความผิดพลาด และจะนำไปเป็นบทเรียน เพื่อตระหนักในประเด็นระเอียดอ่อนนี้ให้มากที่สุดมาก

ส่วนต้นเรื่อง ที่มีการโพสต์ลงในกลุ่ม "จิตวิทยาเด็กและครอบครัว ปรึกษาเรื่องเลี้ยงลูก" นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ล่าสุด พ่อได้ย้าย ด.ญ.วัย 4 ขวบ ไปเรียนศูนย์เด็กเล็กที่อื่นแล้ว และ ได้ตั้งทนายความ เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หัวหิน สำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต.แห่งหนึ่ง ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมการแข่งขันทักษะเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กประถมวัย หนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้เกิดข้อพิพาท คือ ครูให้เด็กชาย-หญิง ถอดเสื้อผ้าแข่งขันแต่งกายบนเวที โดย ด.ช.ให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด ส่วน ดญ.เหลือกางเกงในตัวเดียว จากนั้นให้แข่งขันสวมเสื้อผ้า

โดยพ่อได้พิมพ์ข้อความไปท้วงติงในไลน์กลุ่มผู้ปกครอง ว่าไม่ควรจัดกิจกรรมแบบนี้ เพราะเด็กมีสิทธิไม่ควรจับแก้ผ้าขึ้นไปอยู่บนเวที

ขณะที่ครูคนที่อุ้มเด็กขึ้นไปบนเวทีได้พิมพ์ข้อความสั้น ๆ มาขอโทษทางแชตไลน์ส่วนตัวเวลาเที่ยงคืน 45 นาที ของวันที่ 7 มีนาคม 2567 ว่า "พ่อค่ะสำหรับจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ที่มีข้อผิดพลาดอย่างหนัก ทางคุณครูขอโทษผู้ปกครองด้วยนะคะ จะเก็บข้อผิดพลาดไปทั้งนี้ไปปรับค่ะ"

ขณะมีผู้ปกครองบางคนโจมตีในกลุ่มไลน์ พร้อมกับติดแฮชแท็ก Saveครู ซึ่ง ช่วง 3-4 วันแรก พ่อเด็กรอฟังคำชี้แจงจากผู้บริหารสถานศึกษา แต่เมื่อไม่มีอะไรคืบหน้า จึงย้ายลูกออก และโพสต์ตั้งคำถามไปในโซเชียลมีเดียเมื่อเป็นข่าว ผอ.ศูนย์เด็กเล็ก ได้โทรมาหาผู้ปกครอง และขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น พ่อของเด็กหญิง 4 ขวบจึงได้ตั้งทนายขึ้นมาเพื่อที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ปกครองที่ โจมตีพาดพิง ซึ่งอาจเข้าข่าย การหมิ่นประมาท โดยเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หัวหิน

ส่วนกรณีที่ครูให้เด็กถอดเสื้อผ้าผู้ปกครองไม่ได้แจ้งความเอาผิดครูเพราะคิดว่าครูไม่ได้มีเจตนาเพียงแต่การกระทำไม่สมควรเท่านั้นเอง

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา คุณพ่อเด็กหญิงวัย 4 ขวบให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ ระบุว่า ตอนนี้ได้มอบหมายทนายความ ไปแจ้งความเอาผิดผู้ปกครอง 1 ราย ที่กล่าวพาดพิงให้ครอบครัวตนเสียหาย

อย่างไรก็ตาม จากดราม่าที่เกิดขึ้น มีผู้ปกครอง 4 รายที่ออกมา save ครู และ ตำหนิที่ตนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการกิจกรรมฯ แต่หลังจากมีข่าวและสังคมส่วนใหญ่ให้การ support ตน และ ลูกสาว มีผู้ปกครองรายหนึ่งประสานครูมาขอโทษ

ตนมองว่าเห็นต่างกันไม่มีปัญหา แต่ที่ต้องให้ทนายแจ้งความ ผู้ปกครอง 1 ราย เพราะพาดพิงครอบครัว โดยเฉพาะภรรยา ทั้งนี้แม้ส่วนใหญ่จะเข้าใจ แต่ตนไม่คิดจะย้ายลูกสาวกลับมาเรียนที่นี่

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/a1BPs7gLi4E