สังคม
เด็ก 3 ขวบร้องไห้ไม่อยากไปเรียน ย่าช็อก เค้นจนรู้ถูกหลานหัวหน้าศูนย์เด็กเล็กวัย 12 ทำอนาจาร
โดย passamon_a
10 ชั่วโมงที่แล้ว
76 views
ที่ จ.อุดรธานี ย่าสุดช็อก หลานสาววัย 3 ขวบ ร้องไห้ฟูมฟายไม่อยากไปเรียน สอบถามหลานจนรู้ ถูกหลานชายหัวหน้าศูนย์เด็กเล็กทำอนจาร ย่าร่ำไห้คดีไม่คืบหน้า แถมอีกฝ่ายขู่จะฟ้อง พ่อรู้ข่าวขับรถมาดูลูกร่ำไห้มาตลอดทาง ด้านหัวหน้าศูนย์เด็กเล็กปฏิเสธหลายชายไม่ได้ทำ ช่วงเกิดเหตุไม่ได้มาที่ศูนย์เด็กเล็ก อยากให้เรื่องจบขอจ่ายหนึ่งแสน ย่าไม่ขอรับยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวที่ จ.อุดรธานี รายงานว่า มีเรื่องราวของผู้เป็นย่า ที่ จ.อุดรธานี ตรอมใจและทุกข์ใจหนัก เมื่อหลานสาววัย 3 ขวบ ถูกหลานชายวัย 12 ปี ของหัวหน้าศูนย์เด็กเล็กที่ อบต.ดอนกลอย อ.พิบูลย์รักษ์ ทำมิดีมิร้าย โดยอาศัยจังหวะที่ไปเล่นกับลุงที่เป็นหัวหน้าศูนย์เด็กเล็กที่ อบต.แห่งหนึ่ง ใน อ.พิบูลย์รักษ์ ทำอนาจารกับเด็กหญิงวัย 3 ขวบ จนเด็กร้องไห้ไม่อยากไปเรียน ผู้เป็นย่าสงสัยเห็นหลานสาวร้องไห้ฟูมฟายหนักมาก จึงสอบถามจนรู้ว่า หลานสาววัย 3 ขวบ ถูกหลานชายอายุ 12 ปี ของหัวหน้าศูนย์ พยายามเอาอวัยวะเพศยัดใส่จิมิ พอเป็นเรื่องหัวหน้าศูนย์อ้างว่า หลานชายไม่ได้ทำ แต่อยากให้เรื่องมันจบ ขอจ่ายหนึ่งแสน แต่ทางย่าไม่ยอม จากนั้นโดนอีกฝ่ายข่มขู่จะฟ้องหากเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางวิภา อายุ 57 ปี ย่าของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ นำหลักฐานใบแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ ตร.สภ.พิบูลย์รักษ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ช.ต้นกล้า อายุ 12 ปี หลานชายของหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.ดอนกลอย พร้อมกับคลิปวิดีโอหลักฐานที่ผู้เป็นย่ารู้ว่า หลานสาววัย 3 ขวบ ถูกกระทำอนาจาร เพราะหลานร้องไห้ไม่อยากไปเรียน ในคลิปจะได้ยินเสียงของ ด.ญ.เอ วัย 3 ขวบ ร้องไห้ฟูมฟายตลอดเวลา บอกว่าหนูไม่อยากไปโรงเรียน ตอนแรกย่าก็ด่าหลานทำไมหนูไม่อยากไปโรงเรียน โรงเรียนมีอะไรนักหนาถึงไม่อยากไปโรงเรียน เพื่อน ๆ ก็ไปกันหมด มีครูเยอะแยะ บอกเหตุผลย่ามาก่อน ขณะที่ ด.ญ.เอ ก็ร้องไห้หนักมาก หนูไม่อยากไปโรงเรียนค่ะย่า หนูไม่เอา หนูไม่อยากไป เห็นหลานร้องไห้หนักมาก ที่โรงเรียนมีอะไรทำไมไม่อยากไป
สุดท้าย ด.ญ.เอ ก็บอกว่า ที่โรงเรียนมีคุณโจรค่ะย่า เขาจะทำหนูแบบเดิม เอาหัวหอมและหนอนตัวใหญ่ยัดใส่จิมิหนู แถมหอมแก้มหนู ย่าได้ฟังหลานสาววัย 3 ขวบพูดแบบนั้นแทบช็อก ค่อย ๆ สอบถามหลาน หลานสาวก็เล่าต่อว่า พี่ต้นกล้าหลานของครูเดช หัวหน้าศูนย์รังแกหนู ทำให้หนูเจ็บ พี่ต้นกล้าบอกหนูไม่ให้บอกใคร พี่ต้นกล้าเอาหัวหอมและหนอนตัวใหญ่ทำให้หนูเจ็บ เลือดหนูไหลเลยค่ะย่า หนูอยากบอกให้ย่ารู้และอยากให้ย่าดูจิมิหนู เขาเอาหนอนและหัวหอมยัดใส่ข้างในหนู ด.ญ.เอ เล่าให้ย่าฟังแบบไร้เดียงสา จนย่าได้ยินตกใจและช็อกอย่างมาก
ขณะเดียวกัน มีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า ที่ศูนย์เด็กเล็กแห่งนี้แต่ก่อนเคยมีกล้องวงจรปิด แต่ไม่รู้ใครถอดออกไป หากสงสัยให้ไปดูเลยที่ศูนย์มันต้องมีรูน็อตแน่นอน
นางวิภา ย่าของ ด.ญ.เอ บอกว่า เรื่องราวที่หลานสาวถูกทำมิดีมิร้าย ช่วงประมาณเดือน ต.ค.67 เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หลานสาวเจ็บจิ๋มและฉี่บ่อย จึงพาไปหาหมอ หมอก็บอกว่า ยายทำไมไม่ถามหลานสาวหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาว เพราะปกติเด็กรุ่นนี้ไม่มีโรคแบบนี้ พอกลับจากหาหมอตนเองก็ถามหลานสาว อีหล่าเอาอะไรยัดใส่อิโบะไหม หลานสาวก็บอกว่า หนูไม่ได้ทำ มีคนใส่เสื้อสีดำทำหนู เขาทำหนูอยู่ที่โรงเรียนในห้องคุณครูเดช คนใส่เสื้อสีดำเอาหัวหอมและหนอนตัวใหญ่ยัดใส่จิมิหนู ส่วนที่หลานพูดว่าเป็นหัวหอมและตัวหนอน ก็เป็นคำพูดของเด็ก ๆ เขาคงไม่รู้ว่าเป็นอวัยวะเพศ ยายได้ยินก็ตกใจแทบช็อก พอไปปรึกษาหมอ หมอก็บอกว่ายายควรแจ้งความ เพราะหลานติดเชื้อ 3 บวก ตอนแรกยายไม่อยากแจ้งความ แต่ทางหมอที่พิบูลย์รักษ์ส่งตัวไป รพ.ศูนย์อุดรธานี หมอตรวจอวัยวะอักเสบ จึงเดินทางกลับมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับหลานของครูเดช หัวหน้าศูนย์เด็กเล็ก เหตุเกิดน่าจะประมาณวันที่ 24 ต.ค.67
ต่อมาทางครูเดช หัวหน้าศูนย์ เดินทางมาพูดคุยและไกล่เกลี่ยด้วย ขอจ่ายเงิน 100,000 บาท และมีเจ้าหน้าที่ อบต.มาด้วย แต่ตนเองไม่ยอม ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่หลังจากมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัว ก็มีคนไปขู่บอกว่า ใครที่อยู่ในกล้องตอนพูดคุยกับตนเอง ห้ามมานั่งใกล้กับย่าของ ด.ญ. จะฟ้องรายตัวฟ้องเรียกค่าเสียหายเอาเงินล้าน และมีการโพสต์ลงเฟซบุ๊กขู่ฟ้องตลอดเลย
ย่าของ ด.ญ.เอ กล่าวต่อไปว่า ทาง อบต. เขาพยายามให้ไปพูดที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน แต่ตนเองไม่ยอมไป ตอนนี้ดำเนินคดีขั้นตอนทาง ตร.เตรียมส่งฟ้องอัยการแล้ว เราห่วงหลานสาวจะไม่ได้รับความยุติธรรม พูดตรง ๆ อยากให้ความเป็นธรรมกับหลานสาวด้วย เด็กตัวแค่นี้ไปโรงเรียนแต่ไม่มีความปลอดภัย ตอนนี้ไม่ให้หลานสาวไปโรงเรียนแล้ว สงสารหลานมาก เห็นหลานสาวพูดเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง เราเอาหลานสาวไปโรงเรียนก็คิดว่าปลอดภัย แต่มาแบบนี้ จิตตกมาก ยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หากเขาจะรับผิดชอบคงพูดแต่ตอนแรกแล้ว ที่รู้มาหลานชายหัวหน้าศูนย์ทำมาหลายครั้งแล้ว ขนาดพ่อของหลานสาวรู้ข่าวขับรถมาจากโคราช ขับรถมาหาลูกร้องไห้ตลอดเวลา หัวอกคนเป็นย่าน้ำตาไหลตลอดเวลาพร้อมกับปาดน้ำตา
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับครูเดช ที่ อบต.ดอนกลอย ครูเดช บอกว่า ปกติหลานชายคือน้องต้นกล้า อายุ 12 ขวบ จะมาเล่นที่ศูนย์ประจำ แต่ยืนยันหลานชายไม่ได้ทำแน่นอน เพราะที่ช่วงเกิดเหตุหลานชายไม่ได้อยู่ที่ อบต. ไปอยู่บ้านยายที่ ต.สามพร้าว ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.67 ส่วนวันที่ 24 ต.ค. ที่ทางฝ่ายย่าของ ด.ญ.เอ อ้างว่ากระทำอนาจาร เขาไม่ได้อยู่แน่นอน ตนเองก็ถามหลานชายแล้วเขาก็บอกว่าไม่ได้ทำ ตอนนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็ว่ากันไป ส่วนที่ตนเองไปพูดคุยขอจ่าย 100,000 บาท ไม่อยากมีเรื่องมีราว อยากให้เรื่องมันจบแม้หลานชายจะไม่ได้ทำ เลยขอจ่ายหนึ่งแสน แต่ย่าเรียกสามแสนเลยตกลงกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดอนกลอย พบว่าที่ศูนย์แห่งนี้มีครู 3 คน เด็กประมาณ 20 กว่าคน ตรวจสอบรอบ ๆ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่มีกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด
ทางด้าน นายจรูญ เดชโยธา นายกอบต.ดอนกลอย เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนเองทราบเรื่องแล้ว และไม่ได้ปกป้องครูเดช ตอนนี้ให้ย้ายจากหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดอนกลอย มาประจำที่ อบต.ดอนกลอย และตั้งคณะกรรมการฯ สอบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เท่าที่ทราบจากครูเดช หลานชายของครูเดชไม่ได้มาที่ศูนย์ตั้งแต่วันที่ 11 จะเกิดเหตุได้อย่างไร ตอนนี้กระบวนการอยู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็ขอให้เป็นกระบวนการยุติธรรมแล้วกัน แต่อย่างไรแล้วเพื่อความสบายใจของผู้ปกครองทุกท่านที่เอาเด็ก ๆ ไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตนเองได้ตั้งงบเตรียมติดตั้งวงจรปิดภายในเดือน ธ.ค.67 นี้แน่นอน
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MIljncgGIfk
แท็กที่เกี่ยวข้อง อุดรธานี ,ทำอนาจารเด็ก ,ศูนย์เด็กเล็ก