บุกจับ 'อดีตนายพล-นาวาเอก' พัวพันจ้างวานฆ่า ลูก-เมียนักธุรกิจไต้หวัน ปมขัดแย้งธุรกิจ

ตำรวจสอบสวนกลาง เผยผลจับกุม นายทุนชาวไต้หวัน อดีตทหารเรือยศพลเรือตรี และอดีตครูฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ยศนาวาเอก ขบวนการจ้างวานฆ่าลูก-เมียชาวไต้หวัน เหตุเพราะปมขัดแย้งธุรกิจครอบครัว เผยสาเหตุที่มือปืนกลับใจ เพราะโดนขอลดค่าจ้าง และกลัวอิทธิพลของอดีตครูฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ



เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ และตำรวจกองปราบปราม เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพ และชลบุรี พร้อมจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ นายฟง ซึ่งเป็นนายทุนชาวไต้หวัน / พลเรือตรีประกายพฤกษ์ อดีตทหารเรือ และ นายเทวราช อดีตครูฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ยศนาวาเอก โดยทั้ง 3 เกี่ยวข้องกับขบวนการจ้างวานฆ่า 2 แม่-ลูก กรรมการบริษัทส่งออกอิเลคโทรนิคส์ ที่ถูกพ่อแท้ๆ ก็คือ นายฟง เป็นผู้จ้างวาน



โดยจุดแรกที่ เข้าค้น คือ บ้านทาวน์เฮ้าส์ ในซอยทวีวัฒนา 14 ของนายเทวราช เมื่อไปถึง ชุดหนุมานกองปราบ เรียกให้ออกมา พร้อมแสดงหมายจับ และหมายค้น แต่ตอนแรก เจ้าตัวไม่ยอมออกมา ทางพันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปรามจึงเข้าไปเจรจา ก่อนที่เจ้าตัวจะอนุญาตให้เข้าไปภายใน และจับกุมโดยสมัครใจ



ซึ่งนายเทวราช เป็นอดีตครูฝึกหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ยศนาวาเอก ที่มีประวัติโชกโชน ทั้งการใช้อาวุธหนัก วัตถุระเบิดและการต่อสู้ประชิดตัว และยังเคยก่อเหตุใช้จอบทุบหัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2549 ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ได้รับการอภัยโทษ พึ่งพ้นโทษมาไม่นาน



ส่วนจุดที่ 2 เป็นบ้านของพลเรือตรีประกายพฤกษ์ ย่านลาดกระบัง ซึ่งเป็นคนที่รับงานมาจากนายฟง



และจุดที่ 3 คือบ้านพักของนายฟง ย่านประเวศ นักธุรกิจชาวไต้หวัน ผู้ว่าจ้างให้ฆ่าลูกและภรรยาของตนเอง



ส่วนจุดที่เหลือ เป็นบ้านของลูกชายคนโตนายฟง ย่านประเวศ และ 4 จุดที่เหลือ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บอาวุธต่างๆ และรถที่นายเทวราช ใช้ขับไปติดต่อมือปืน



ก่อนทยอย นำมาตรวจยึดไว้ที่กองปราบปราม อาทิ อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .357​​ จำนวน 1 กระบอก ​ / เสื้อเกราะกันกระสุน / รถยนต์​ 2 คัน



นอกจากนี้ ในปฏิบัติการนี้ยังยึดลูกระเบิดขว้าง ลูกเกลี้ยง ​​จำนวน 3 ลูก / กระสุนปืนเล็กยาว / ลูกระเบิด M79 ​จำนวน 10 ลูก​​ พร้อมกันนี้ยังได้คุมตัว จึงได้คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่กองปราบปราม



โดยระหว่างที่คุมตัวนายเทวราชมาถึง ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า เกี่ยวข้องกับเรื่องการจ้างวานฆ่าหรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า "คุณพูดไปเรื่อยเปื่อย ผมจะไปทำอย่างนั้นทำไม" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทราบไหมว่าเมื่อเช้าตำรวจไปตรวจค้นเรื่องอะไร นายเทวราช เลยหันไปถามเจ้าหน้าที่ว่า "เรื่องอะไรนะน้อง เค้าว่าผมไปจ้างวานฆ่าอะไรเนี่ย ผมก็ยังงงๆ " และเมื่อถามรู้จักกับคนไต้หวันหรือไหม นายเทวราชบอกว่า ตนรู้จักคนชื่อเจมส์ เคยไปเจอกัน 1 ครั้ง เพื่อเข้าไปช่วยคนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน



ด้าน พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ปฏิบัติการนี้ จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกันเป็นผู้ใช้ผู้อื่นกระทำผิด ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน



คดีนี้สืบเนื่องจาก นายเจมส์ กรรมการ บริษัทส่งออกอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งเป็นลูกชายของผู้จ้างวาน เข้ามาร้องเรียนกับตำรวจสอบสวนกลางเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่ามีความขัดแย้งกับพ่อ ซึ่งเป็นอดีตประธานบริษัท ก่อนจะทราบว่าตนเองถูกคนร้ายติดตาม และเชื่อว่าน่าจะถูกปองร้าย จึงมีการสืบสวน และทราบตัวมือปืน ก่อนจะเชิญมาซักถามอย่างละเอียดจนทราบว่า มีการร่วมกระทำผิดมีการใช้จ้างวานค่า



มูลเหตุมาจากความขัดแย้งในบริษัท นายเจมส์เข้ามาเป็นกรรมการบริษัท เมื่อปี 2565 และตรวจสอบพบว่า พ่อตัวเอง ทุจริตเบียดบังทรัพย์สินของบริษัท จึงมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท และมีคดีฟ้องร้องกันทั้งทางแพ่ง และอาญากว่า 20 คดี



และช่วงเดือนสิงหาคม 66 นายเจมส์ก็ถูกกลุ่มคนร้ายกว่า 10 คน เข้าไปข่มขู่ที่บริษัท จึงมีการเชิญตัวมาพบตำรวจ จึงทราบว่า กลุ่มคนร้ายเป็นมือปืนรับจ้างที่รับงานมาจ้างนายเทวราช มีพลเรือตรีประกายพฤกษ์ เป็นผู้สั่งการมาอีกทอดหนึ่ง ให้ไปจัดหากลุ่มมือปืนมาก่อเหตุฆ่า นายเจมส์ และแม่ รวมถึงทนายความ รวม 3 คน



แต่สาเหตุที่มือปืนตัดสินใจไม่ลงมือ แล้วไปบอกนายเจมส์ เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ เพราะมีการลดค่าจ้าง



ซึ่งตามที่ตกลงกันไว้ตอนแรก ให้ฆ่า 3 คน ได้ค่าจ้าง 1.5 ล้านบาท แต่ต่อมา แม่ของนายเจมส์ เมื่อรู้ว่าถูกปองร้ายจึงหนีไปต่างประเทศ ผู้จ้างวานจึงลดค่าจ้างเหลือ 1.2 ล้านบาท



มีรายงานเพิ่มว่า ที่มือปืนตัดสินใจไม่ก่อเหตุ เป็นเพราะรู้สึกหวาดกลัวพฤติกรรมของนายเทวราช ที่ไม่ได้แค่ว่าจ้าง แต่มีการบอกวิธีการ วางแผนเป็นขั้นตอน และจัดหาอาวุธมาให้ทั้งปืนและระเบิด จึงกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายภายหลัง และยังมีการถามย้ำจี้อยู่ตลอดว่า ได้ลงมือหรือยัง จนมือปืนต้องโกหกว่า ได้ลงมือไปแล้ว



เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังให้การปฏิเสธ แต่ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี // ส่วนของกลางที่ตรวจยึดมาจากบ้านนายเทวราช ยังพบรูปภาพของผู้เสียหาย คือ นายเจมส์ แม่ และทนายความ นอกจากนี้ยังมีเอกสารการเงินต่างๆ



สำหรับรถยนต์ที่ยึดมาได้ 1 คัน พบว่ามีการสวมทะเบียน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบ โดยหลังจากนี้จะมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติม หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดี



ส่วนกลุ่มมือปืนที่ถูกจ้างวานนั้น ตามกฎหมายแล้ว หากยังไม่มีการลงมือก่อเหตุ ก็ถือว่ายังไม่มีพฤติการณ์กระทำผิด และให้การเป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวน จึงยังไม่มีความผิดตามกฎหมาย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/rSSQT2trPIo