เปิดเงื่อนงำคดีวางยาพิษ 6 ศพ หลัง 'ไกด์' เปิดปาก 1 ผู้เสียชีวิต สั่งให้ซื้อยา

คดีชาวเวียดนาม ถูกวางยาพิษเสียชีวิต 6ศพ ภายในห้องสวีทของโรงแรมย่านราชประสงค์ จนถึงขณะนี้เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้กระทำผิดเป็น1ใน 6 ของผู้เสียชีวิต เป็นการวางยาไซยาไนด์ และความมูลเหตุจูงใจ น่าจะเป็นเรื่องการหลอกให้ลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล แต่ไม่มีการลงทุนจริง อีกทั้ง1 ใน6 คนที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันในกู้ มีประวัติในเรื่องฉ้อโกง ที่สหรัฐอเมริกามาก่อน



การเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของนาง เชอรีน ชอง อายุ .56ปี เดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยนางเชอรีน ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เข้ามาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.



ซึ่งได้ไปพักอาศัยที่โรงแรมอื่น ก่อนจะเข้ามาพักที่ห้องสวีทชั้น 5 ของโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ ในวันที่ 13 กรกฎาคม



ก่อนทุกคนจะเสียชีวิตทั้งหมด คาดว่าน่าจะช่วงเวลา 14.20 นาทีของวันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งสอดคล้องกับแพทย์นิติเวช รพ.จุฬา ที่ระบุได้ว่าผู้เสียชีวิตทุกคนเสียชีวิตก่อนพบศพมา 12-24 ชม.



โดยในวันที่ 15 ก.ค. เวลา 12.20 น. นางทีเหงียน ฟองแลน อายุ 47 ปี ได้โอยเงินให้ลูก จำนวนเงิน 7พันบาท และได้ย้ายจากชั้น 7 เข้ามาอยู่ในห้องของนางเชอรีน ชอง ที่ชั้น 5 สวมเสื้อสีชมพูลากกระเป๋า เข้าไป ในเวลา14.09 นาที เป็นคนสุดท้ายโดยมีรายอื่นอยู่ในห้องแล้ว



ขณะอยู่ในห้อง ได้วิดีโอคอลหาสามีที่ประเทศญี่ปุ่น มีการเปิดวิดิโอให้เห็นบุคคลในห้อง ที่นั่งหันหลังอยู่ คุยกับสามี 1.8 วินาที ก็วางสายไป และสามีได้โทรกลับมาหานางเหงียนฟองแลน เวลา 14.24 ไม่รับสายอีกเลย จึงคาดว่าเสียชีวิตแล้ว และสามีของนางเหงียนฟองแลนจึงได้ติดต่อกับไกด์ ให้ไปตามหาภรรยาที่ติดต่อไม่ได้ จึงมาทราบว่าเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น



ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน สามีของนางเหงียนฟองแลน ซึ่งบินมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยตอนแรกทั้งหมดจะบินไปหารือกันที่ญี่ปุ่น เรื่องการลงทุน สร้างโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น แต่คนเวียดนามต้องขอวิซ่าเลยทำให้ตัดสินใจมาไทย โดยลูกของเจ้าหนี้ สองสามี ภรรยา



คือนายฮงฟามทัน และนายดีเหงียนเฟือง ได้ให้การว่า พ่อและแม่ของเธอ ได้ให้ นางเหงียน ฟองแลน กู้เงินไปลงทุนเป็นจำนวน 10 ล้านบาท โดยมีนางเชอรีน ชอง เป็นผู้ค้ำประกัน โดยนางเหงียน ฟองแลน จะใกล้ชิด สนิทกับนาง เชอรีนชอง ซึ่งมีสัญชาติอเมริกัน ซึ่งยังต้องสอบสวนว่าเงิน 10 ล้านบาท ที่ได้กู้มา ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเงินไปอยู่ในมือใคร เพราะมี ไกด์ได้ให้ข้อมูลว่า มีการนำเงินส่วนหนึ่งไปให้กับ น้องสาวของนองเหงียนฟองแลน ซึ่งมีชือจองโรงแรมเป็นคนที่ 7 และได้บินกลับเวียดนามไปตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา



ส่วนล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาสืบสวนนครบาล ได้นำตัวไกด์ชาวเวียดนามมาสอบสวน โดยไกด์รู้จักกับนางเหงียนฟองแลน เมื่อปีที่แล้ว และวันที3-5 กค. พบว่า นางเหงียนฟองแลน ได้ให้ไกด์ไปซื้อ ยางูหมายเลข 7 ราคา 11,000 บาท โดยไกด์ได้ให้เพื่อนชื่อไทเกอร์ ไปซื้อให้ และนำกลับมาให้นาง เหงียนฟองแลน และนำมาให้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง



โดยวันที่ 9 ก.ค. สามีของนางเหงียนฟองแลน สั่งให้แปลงเงินเป็นเงินไทย 9 หมื่นบาท และถือเอาไปให้ชายสัญชาติอเมริกันที่ตาย ที่โรงแรมย่านราชดำริ ซึ่งตอนให้เงินพบกับ หญิงคนหนึ่ง ต่อมาจึงทราบว่าเป็นหญิงคนที่มีชื่อจองห้อง คนที่ 7 และเป็นน้องสาวของนางเหงียนฟองแลน ซึ่งได้บินกลับเวียดนามไปเมื่อวันที่ 10 กค. ในวันรุ่งขึ้นหลังได้รับเงิน



ขณะที่นางเชอรีน ชอง อายุ 57 ปี เจ้าของห้อง ซึ่งเมื่อพนักงานเสิร์ฟอาหารจะชงชาให้ แต่นางเชอรีน ชอง ปฏิเสธไม่ให้เข้ามาชง ขอจัดการเอง เคยมีคดีฉ้อโกง หลอกขายสัญชาติอเมริกัน ให้กับชาวเวียดนามที่ต้องการเปลี่ยนสัญชาติ และเคยถูกทางการสหรัฐจับ



และการลงทุนสร้างโรงพยาบาล ที่ระดมทุน 10 ล้านนี้ ก็เชื่อว่าเป็นการหลอกลงทุนทิพย์ ไม่มีการสร้างโรงพยาบาลจริง จึงต้องพิสูจน์ว่า ใครเป็นคนตายคนสุดท้าย ภายในห้อง โดยมีการเก็บแก้วมาไว้รวมกัน