แบบเรียนดรามาอีก! ถกสนั่น ขอน้ำปลาใส่ 'ข้าวมันไก่' สุดงง สพฐ.ชี้ ต้องแยกแยะเรื่องแต่ง

จากดรามาแบบเรียนภาษาพาที ป.5 "ไข่ต้ม" ถึง "ข้าวมันไก่" ที่โซเซียลวิจารณ์กันสนั่น จนติดเทรนทวิต จนเกิดกระแสแบบเรียนไทยล้าหลัง การสื่อสารไม่เข้ายุคสมัย แนะให้รื้อแบบเรียน ล่าสุดทางสพฐ.พร้อมรับฟังทุกความเห็น



วันนี้ เนื้อหา ในภาพนี้ "ใบพลูคอหด " จากหนังสือเรียนภาษาพาที ป.5 ถูกแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยโพสต์ต้นเรื่อง ระบุว่า " นอกจากจะอยากอ่านหนังสือเล่มนี้ คือ อยากเห็นหน้าคนเขียน กับคนที่อนุมัติให้ผ่านมาเป็นแบบเรียนมากๆ"



โดยบรรยายใต้ภาพว่า ใบพลูคอหด..ไม่เป็นไรเขาไม่เต็มใจก็อย่าไปเอาของเขาดีกว่า" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ ที่ใบพลูถือ จานข้าวมันไก่ ไปขอน้ำปลาจากร้านข้าวแกง โดยคนขายต่อว่าก่อนจะอนุญาต "เอ้า อยากได้ก็ตักไป" ทำให้ใบพลูเดินคอตก ถือจานข้าวมันไก่ โดยไม่ได้เติมน้ำปลา



ซึ่งประโยคต่อไป ในหนังสือ ระบุว่า "น่าเสียดายจริงๆ ทำอย่างไรขนบธรรมเนียมประเพณีดีๆของไทยที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันจึงจะอยู่ในจิตใจคนไทยทุกคนและทุกที่



โพสต์นี้ มีคนสงสัยว่า ทำไมกินข้าวมันไก่กับน้ำปลา ถ้าน้ำจิ๋มเต้าเจี้ยวเผ็ดก็ขอหวาานได้ หรือว่าติดเค็ม ระวังจะเป็นโรคไต แต่เด็ก / อีกความเห็นบอก สงสารเด็กไทย / ฝึกวินัยและฝึกจิตสำนึกดีกว่า ฝึกน้ำใจในการช่วยเหลือคนอื่นก็พอ อย่าฝึกน้ำใจเพื่อเอาเปรียบ



ต่อมา เพจ ดราม่าแอดดิจ ได้โพสต์ 3 ข้อ ถึงแบบเรียนหน้านี้

1. ถ้าน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มข้าวมันไก่ เผ็ดไป ขอซีอิ๊วหวานได้ ร้านข้าวมันไก่มีอยู่แล้ว

2. ปรกติไม่ค่อยเห็นคนกินน้ำปลากับข้าวมันไก่นะครับ กลิ่นคาวน้ำปลามันทำข้าวมันไก่เสียรสหมดมันไม่เข้ากัน ต้องซีอิ๊วหวาน อร่อยมาก เด็กที่กินเผ็ดไม่ได้ก็กินได้

3. น้ำปลา ของร้านอาหารเขาก็มีต้นทุนเอาไว้บริการลูกค้า ถ้าไม่ใช่ลูกค้าแล้วไปขอ ถ้าเขาให้ก็ดี ถ้าไม่ให้ ก็เป็นสิทธิของเขา เรื่องน้ำใจมันต้องมอบให้เองโดยสมัครใจไม่ใช่เรียกร้องให้เขามีน้ำใจอ่ะนะ



พร้อมกันนี้ ได้โพสต์ ท่อนหนึ่งในแบบเรียน (คาดว่าจะก่อนภาพ ใบพลูคอหด) ว่า ก่อนกลับบ้านน้าเป็ดพาหลานขึ้นไปศูนย์อาหาร น้าเป็ดกินบะหมี่แห้ง แต่ใบพลูกินข้าวมันไก่ น้ำจิ้มข้าวมันไก่ค่อนข้างเผ็ด ใบพลูจึงไปขอน้ำปลาจากร้านข้าวแกง



ส่วนโพสต์นี้ มีคนคอมเมนต์ อาทิ วิบัติไปหมดแล้ว แนวความคิด / การแยก "หน้าที่ของตัวเอง"กับน้ำใจคนอื่น ออกจากกันไม่ได้ คือความบรรลัยอย่างหนึ่ง/ ส่วนอีกข้อความ บอกว่า เดี่ยวรมว.คนนั้นจะมาทำคอนเทนท์ให้ลูกกินข้าวมันไก่กับน้ำปลาอีกมั้ย



เพจดราม่าแอดดิจ ยังโพสต์ ระบุว่า อีกอันเป็นเนื้อหาจากตำราของ ป.6 เคยมีคนเอามาลงในโซเชียลไม่กี่สัปดาห์ก่อน เนื้อหาน่าสนใจพอกับที่เป็นดราม่าล่าสุดเลย พ่อแม่พี่น้องลองอ่าน คิดเห็นยังไงมาเม้ามอยกัน



พร้อมโพสต์ภาพและหัวข้อ "เสียแล้วไม่กลับคืน" ซึ่งเป็นบทที่ 14 มุ่งสอนใจ ความเป็นไทยให้รักนวลสงวนงาม โดยบอกผ่านตัวละคร มีพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่คอยตักเตือน สั่งสอนให้แง่คิด ต่อลูกหลาน ขณะมีความรักในวัยเรียน เพจนี้ถูกแชร์กันจำนวนมาก



บางคนบอกว่าแบบเรียนหรือบทละคร หรือนิตยสารละครไทย นิยายชัดๆ บางคนก็บอกละครคุณธรรม / ภาษาและการวิธีการสื่อสาร เนื้อเรื่องเชยมาก ล้าสมัย ไม่ผ่านคะ



ทีมข่าวสอบถาม คุณอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ.ที่แบบเรียนภาษาพาทีลุกลามถึงขั้นปรับแบบเรียนใหม่ ว่า ไม่กังวลถึงปมดราม่าที่เกิดขึ้นใน และพร้อมยินดีรับฟังทุกความเห็น ที่ผ่านมาสพฐ.มีการปรับปรุงหนังสือเรียนทุกๆ 10 ปี มีทีมงานตรวจสอบ และเปิดโอกาสให้สำนักพิมพ์เสนอหลักสูตรใหม่ขึ้นมา



และขอชี้แจงว่า แบบเรียนเป็นสื่อหนึ่งที่ครู ใช้ประกอบการสอนให้เด็กคิด เป็นเนื้อหาสมมุติ ย้ำต้องแยกสื่อและการดูแลเด็กออก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/gx85fBL0dJo