โซเชียลผุด #รั้วขาวน้ำเงิน แฉครูหื่นวางยาข่มขืนเด็ก ม.1 ล่าสุดจ่อมอบตัวแล้ว

จ่อมอบตัวครูหื่น วางยาขืนใจลูกศิษย์ หลังโซเชียลกดดันจนเรื่องแดง ถูกต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบ ขณะที่ตำรวจนัดผู้เสียหายสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพพรุ่งนี้ (25 ต.ค. 65)



ชาวทวิตเตอร์แห่แชร์ข้อความติดแฮชแท็ก รั้วขาวน้ำเงิน จนติดเทรนด์ทวิต โดยเป็นข้อความขอความเป็นธรรมให้นักเรียนนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี ชั้น ม.1 และเป็นนักกีฬาชมรมวิ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวอำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกครูผู้ชายสอนวิชาสุขศึกษา เรียกไปหาที่ห้องพักเพื่อให้นวด ก่อนหลอกให้ดื่มน้ำผสมอะไรบางอย่างจนสลบ พอตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้า และเจ็บที่อวัยวะเพศ คาดว่าจะถูกข่มขืน



หลังเกิดเหตุผู้ปกครองพาไปแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายรณ์ แต่คดีไม่คืบหน้า แถมตำรวจยังเกลี้ยกล่อมให้ยอมความ โรงเรียนก็พยายามปิดเรื่อง ทำให้เด็กผู้เสียหายพยายามฆ่าตัวตาย แต่พ่อแม่ช่วยไว้ได้ทัน



ขณะเดียวกันยังมีรุ่นพี่ของโรงเรียน ออกมายืนยันอีกว่า ไม่ได้มีแค่เด็ก ม.1 คนเดียวที่โดนแบบนี้ มีเด็กถูกกระทำมาแล้วหลายคน แต่ยอมความ เพราะครูคนนี้เส้นใหญ่ บางคนบอกว่า ในที่สุดมีคนพูดถึงครูอาคาร 6 สักที ชอบแบบมาจับมือ ลูบหัว เอาหน้ามาใกล้ ๆ มันน่ากลัวมาก เพื่อนก็โดนเหมือนกัน ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร หลัง ๆ มาเริ่มไม่ใช่แล้วอ่ะ หลายรอบมากครูคนนี้ โรงเรียนคือบ้านหลังที่สองจ้า



นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่แชท ที่อ้างว่าเป็นครูที่ก่อเหตุ ทักไปชี้แจงว่า ข่าวแรงเกินไปนะครับ น้องยังบริสุทธิ์นะครับ ไปตรวจแล้ว และผมได้ไปรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวน้องแล้ว ผมเสียใจครับ ผมผิดเอง และจะรับผิดชอบทุกอย่าง ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยครับ



เช้านี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านผู้เสียหาย อยู่ที่อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ พบเพียงญาติ และเพื่อนบ้าน ส่วนเด็กหญิงและแม่ ยังไม่พร้อมที่จะเล่ารายละเอียด เพราะยังเสียใจและเครียดหนัก



ด้านนายเอ (นามสมมุติ) ตาของเด็กหญิง เล่าว่า หลานสาวเพิ่งไปเรียนต่อชั้น ม.1 ที่โรงเรียนในตัวอำเภอกุฉินารายณ์ ห่างจากบ้านประมาณ 20 กิโลเมตร โดยเป็นนักกีฬาวิ่ง และเข้าชมรมกีฬาของโรงเรียน จึงเช่าหอพัก อยู่ห่างจากโรงเรียน 2 กิโลเมตร เพื่อไม่ต้องเดินทางไกล



วันเกิดเหตุเป็นช่วงเย็นของวันที่ 17 ตุลาคม เพื่อนของหลานสาว โทรมาบอกกับที่บ้านว่า น้องถูกครูผู้ชายสอนสุขศึกษา และดูแลชมรมวิ่งข่มขืน ให้มารับน้องที่บ้านของเพื่อน ตนและแม่ของเด็ก พยายามสอบถามหลานถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่หลานสาวเอาแต่ร้องไห้ ตอนแรกไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง



ก่อนจะยอมเล่าว่า ถูกครูคนดังกล่าวเรียกให้ไปหา บอกว่า ไปนวดให้หน่อย น้องก็ไปนวดที่หอนอน ครูได้เอาน้ำอะไรบางอย่างให้น้องดื่ม คาดว่าน่าจะเป็นยาสลบ หรือยานอนหลับ แล้วน้องก็หลับไปพอตื่นมาอีกครั้งน้องไม่มีเสื้อผ้าติดตัว และเจ็บตรงอวัยวะเพศ



แม่และญาติจึงพาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ในวันที่ 18 ตุลาคม แพทย์แจ้งว่า อวัยวะเพศและปากมดลูกมีร่องรอยฉีกขาด พร้อมให้ไปแจ้งความดำเนินคดี จึงพากันไปแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ แต่จนถึงปัจจุบันคดี ก็ยังไม่คืบหน้าอะไรเลย ท่ามกลางกระแสว่า ครูคนนี้เส้นใหญ่ ขณะเดียวกัน ครูที่ก่อเหตุ และผู้อำนวยการโรงเรียน พยายามมาพูดคุยไกล่เกลี่ย แต่แม่และญาติไม่พร้อมที่จะคุย และอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด



เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (24 ต.ค. 65) นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์, นายสรรทัศน์ ประทุมชาติ ผอ.โรงเรียนบัวขาว เข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวเด็กผู้เสียหาย โดยพบเพียงตาและยายของเด็ก ส่วนผู้เสียหายและแม่ ไปฟื้นฟูสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลนาคู



นายสรรทัศน์ ผอ.โรงเรียนบัวขาว เผยว่า ครูที่ก่อเหตุ คือ นายวชิระ อายุ 45 ปี เป็นครูในโรงเรียนบัวขาวจริง มาทำงานเป็นครูจ้างเหมา ตำแหน่งครูธุรการ ช่วงปี 2551 กระทั่งปัจจุบันเป็นครูสอนพละ โดยสอนกรีฑา และดูแลชมรมกีฬาของโรงเรียนด้วย ที่ผ่านมาครูคนนี้ไม่มีพฤติกรรมเสียหายเรื่องลวนลามเด็ก กระทั่งมาเกิดเรื่องนี้ขึ้น



เบื้องต้น ยังไม่ได้สอบถามครูคนนี้ แต่จากการตรวจสอบช่วงวันเกิดเหตุ มีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายฝึกซ้อมกรีฑา มีนักเรียนชมรมกีฬาของโรงเรียนร่วมหลายคน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเองโดยพละการ ไม่ได้ขออนุญาตโรงเรียน เด็กที่ถูกกระทำพักที่หอพัก ซึ่งครูคนดังกล่าวเป็นเจ้าของหอ



ทางโรงเรียนจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องจัดกิจกรรม และเรื่องล่วงละเมิดเด็กด้วย จากนั้นจะรายงานไปยัง อบจ.กาฬสินธุ์ ต้นสังกัด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ



พลตำรวจตรี สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยว่า ครูชายผู้ถูกกล่าวหาได้ติดต่อพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เพื่อขอเข้ามามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุวัน เวลา บอกเพียงว่า อาจจะเข้ามาเย็นวันนี้ หรืออาจจะวันพรุ่งนี้



พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวอีกว่า เท่าที่สอบถามเบื้องต้นกับเจ้าตัวยังให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าให้เด็กดื่มน้ำ แต่ไม่ได้ใส่ยาอะไร พร้อมทั้งยอมรับว่าลงมือทำจริง แต่ไม่ได้ข่มขืน เพราะยังไม่ได้สอดใส่ และจะขอให้การอย่างละเอียดกับตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งหากผู้ต้องหาเข้ามามอบตัวจะทำการสอบปากคำอีกครั้ง ส่วนเด็กพนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และผู้ปกครองก่อนถึงจะสามารถแจ้งข้อหาได้



วันจันทร์ที่ 24 ต.ค. 65 เวลา 18.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เดินทางพาแม่เด็กนักเรียนหญิง อายุ 13 ปี ถูกครูพละข่มขืนไปตามคดีที่ สภ.กุฉินารายณ์ จว.กาฬสินธุ์ พบ ผกก. , และรอง ผกก. โดยมี พมจ. จว.กาฬสินธุ์ และ พมจ. จว.ร้อยเอ็ด รอรับนางปวีณาเพื่อร่วมประชุมติดตามคดีอย่างใกล้ชิด



เวลา 19.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พร้อม พมจ. จว.กาฬสินธุ์ , พมจ. จว.ร้อยเอ็ด พร้อมแม่เด็กนักเรียนจะเดินทางไปเยี่ยมเด็กที่ รพ.นาคู จว.กาฬสินธุ์



ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนทางโทรศัพท์ เผยว่า ผอ.ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ทำหนังสือรายงานชี้แจงส่งให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ผ่านทางนายอำเภอกุฉินารายณ์ และได้รายงานให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาจ้างครูคนดังกล่าวแล้ว โดยจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนขั้นตอนทางคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ



ด้านร้อยตำรวจเอก ประมวล ตรีเดช รองสารวัตรสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดี เผยว่า พ่อแม่ของผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดครูอัตราจ้างสอนวิชาพละ กระทำชำเราเด็กหญิง 13 ปี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยาน ซึ่งเป็นผู้เสียหายแล้ว 1 ปาก โดยพรุ่งนี้ได้นัดสอบผู้เสียหายพร้อมสหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/McW5RHRUDBE