อาชญากรรม
ครูพละขอโทษ ห้ามใจไม่อยู่ ปัดวางยาเด็ก ม.1 แต่ให้กินยาคลายกล้ามเนื้อ ยันยังไม่ได้ถึงขั้นข่มขืน
โดย petchpawee_k
25 ต.ค. 2565
789 views
สุดเสื่อม ครูพละนักวิ่ง วางยาขืนใจ นักเรียนหญิงชั้น ม.1 ขณะเก็บตัวซ้อมวิ่ง ในแคมป์พิเศษนอกโรงเรียน ออกอุบายให้เด็กมาหาที่ห้อง นวดขาให้ ก่อนหลอกให้กินยา จนเด็กหมดสติ ตื่นมาอยู่ในสภาพไม่ใส่เสื้อผ้า เจ็บอวัยวะเพศ
ขณะที่เพจดัง แฉคลิปเสียงอ้างเป็นครูพละ ห้ามอารมณ์ไม่อยู่ ยังไม่ได้เกินเลย ขอโทษผิดพลาดเอง เจ้าตัวเปิดปาก ป้องโรงเรียนไม่เกี่ยว อ้างไม่ได้วางยา แต่ให้กินยาคลายกล้ามเนื้อ พร้อมรับสภาพกับผลที่จะตามมา คาดเข้าพบตำรวจ วันนี้ 10 โมงเช้า ตำรวจเตรียมแจ้ง 2 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็ก และพรากผู้เยาว์ พร้อมค้านประกันตัว ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหาย สภาพจิตใจย้ำแย่ อยู่ในความดูแลของแพทย์
จากกรณีผู้ปกครองนักเรียนหญิง อายุ 13 ปี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งไปเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัว อ.กุฉินารายณ์ และเป็นนักกีฬาชมรมวิ่งของโรงเรียน ถูกครูชายสอนวิชาพละเรียกไปหาที่ห้องพัก เพื่อให้นวด ก่อนหลอกให้ดื่มน้ำผสมอะไรบางอย่างจนสลบ พอตื่นขึ้นมาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เจ็บอวัยวะเพศ ตรวจร่ายกายพบอวัยวะฉีกขาด คาดว่าจะถูกข่มขืน ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ปกครองพาไปแจ้งความที่สภ.กุฉินารายรณ์ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ก่อนที่มี คนนำข้อความไปโพสต์ในโลกโซเชียล และมีการวิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างมาก
โดยเพจ อีซ้อขยี้ข่าว2 ได้โพสต์คลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นครูพละคนหนึ่งวางยาข่มขืนเด็กสาวในชมรมพอเรื่องแดงจึ งได้ส่งคลิปนี้ไปหาเด็กผู้เสียหาย โดยในคลิปเสียงระบุว่า “ครูห้ามอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ และก็อยากให้รู้ว่าครูยังไม่ได้เกินเลยอะไรกับเรา ฉะนั้นก็อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก เพราะครูยังไม่ถึงขั้นมีอะไรมากมาย ยังไม่ถึงขั้นสอดใส่ หรือหลั่งอะไรเข้าไปข้างใน อยากให้เรารู้ ขอโทษจริงๆ ครูผิดพลาดเอง ครูขอโทษด้วย”
ต่อมาแม่ของนักเรียนหญิงผู้เสียหายได้ ร้อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือ แม่เล่าว่า ลูกสาวเป็นนักกีฬาโรงเรียน ขณะที่เก็บตัวซ้อมกีฬานอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ถูกครูพละลวงไปข่มขืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ต.ค.65 เปิดเทอมวันแรก ลูกสาวจะต้องเข้าไปเก็บตัวซ้อมกีฬาวิ่งและพักอยู่ที่หอพัก โดยมีเพื่อนนักกีฬาที่ไปเก็บตัวด้วยกัน 10 กว่าคน ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. ครูพละได้เรียกลูกสาวไปพบเพียงคนเดียว หลังจากเข้าไปในห้องครูพละบอกจะนวดขาให้ลูกสาว เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวติดโควิด และไม่ได้ซ้อมวิ่งมาระยะหนึ่งกลัวว่ากล้ามเนื้อจะฉีก ระหว่างที่ครูนวดขาลูกสาวรู้สึกง่วงและสะลึมสะลือ ครูจึงให้ลูกสาวนอนพักที่ห้องของครูก่อน กระทั่งกลางดึกลูกสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาครูกำลังข่มขืนแต่ลูกสาวไม่สามารถสู้แรงได้
เช้ารุ่งขึ้นวันที่ 18 ต.ค.65 ลูกสาวจึงได้นำเรื่องไปบอกกับนักเรียนกีฬารุ่นพี่ที่เก็บตัวด้วยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นักเรียนรุ่นพี่จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ผู้ปกครองทราบเรื่อง วันที่ 19 ต.ค.65 แม่จึงรีบไปรับตัวลูกสาวเข้าแจ้งความทันที และต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากครูผู้กระทำรู้จักคนเยอะและกว้างขวางในพื้นที่ จึงตัดสินใจติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ
แม่เล่าว่า ลูกสาวเป็นนักกีฬาโรงเรียน ขณะที่เก็บตัวซ้อมกีฬานอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ถูกครูพละลวงไปข่มขืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ต.ค.65 เปิดเทอมวันแรก ลูกสาวจะต้องเข้าไปเก็บตัวซ้อมกีฬาวิ่งและพักอยู่ที่หอพัก โดยมีเพื่อนนักกีฬาที่ไปเก็บตัวด้วยกัน 10 กว่าคน ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. ครูพละได้เรียกลูกสาวไปพบเพียงคนเดียว หลังจากเข้าไปในห้องครูพละบอกจะนวดขาให้ลูกสาว เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวติดโควิด และไม่ได้ซ้อมวิ่งมาระยะหนึ่งกลัวว่ากล้ามเนื้อจะฉีก ระหว่างที่ครูนวดขาลูกสาวรู้สึกง่วงและสะลึมสะลือ ครูจึงให้ลูกสาวนอนพักที่ห้องของครูก่อน กระทั่งกลางดึกลูกสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาครูกำลังข่มขืนแต่ลูกสาวไม่สามารถสู้แรงได้
เช้ารุ่งขึ้นวันที่ 18 ต.ค.65 ลูกสาวจึงได้นำเรื่องไปบอกกับนักเรียนกีฬารุ่นพี่ที่เก็บตัวด้วยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นักเรียนรุ่นพี่จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ผู้ปกครองทราบเรื่อง วันที่ 19 ต.ค.65 แม่จึงรีบไปรับตัวลูกสาวเข้าแจ้งความทันที และต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากครูผู้กระทำรู้จักคนเยอะและกว้างขวางในพื้นที่ จึงตัดสินใจติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ
ทางด้าน นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายสรรทัศน์ ผอ.โรงเรียน ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวเด็กหญิง 13 ปี ที่บ้านในอำเภอนาคู จ.กาฬสินธุ์ โดยพบเพียงตาและยายของเด็ก เนื่องจากแม่ และเด็กหญิง อยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อไปฟื้นฟูสภาพจิตใจ
นายอำเภอกุฉินารายณ์ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้ประสานนายอำเภอพื้นที่ และสอบถามไปยังโรงเรียนดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ เพื่อที่หาแนวทางช่วยเหลือ โดยเฉพาะการเยียวยา และฟื้นฟูสภาพจิตของเด็ก เนื่องจากยังอยู่ในความเครียด เสียขวัญ ซึ่งล่าสุดทางญาติได้พาตัวไปฟื้นฟูสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลแล้ว
ด้านนายสรรทัศน์ ผอ.โรงเรียนบัวขาว กล่าวว่า สำหรับครูชายคนดังกล่าว อายุ 45 ปี เป็นครูในโรงเรียนบัวขาวจริง เบื้องต้นครูคนนี้ได้เข้ามาทำงาน เป็นครูจ้างเหมา ตำแหน่งครูธุรการ ประมาณช่วงปี 2551 กระทั่งปัจจุบันทำหน้าเป็นครูสอนพละ โดยสอนกีฑา ทั้งนี้ที่ผ่านมาครูคนนี้ไม่มีพฤติกรรมที่เสียหาย ในเรื่องเกี่ยวกับลวนลามเด็ก กระทั่งล่าสุดมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้สอบถามครูคนนี้ แต่จากการตรวจสอบในช่วงวันเกิดเหตุเป็นการจัดกิจกรรมเข้าค่ายฝึกซ่อมกีฑา มีนักเรียนชมรมกีฬาของโรงเรียนร่วมหลายคน ซึ่งกิจกรรมนี้ ไม่ใช่กิจกรรมของทางโรงเรียนเพราะว่าโรงเรียนเพิ่งจะเปิดเทอม นั่นหมายถึงครุพละคนนี้ ไม่ได้ขออนุญาตทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนอย่างแน่นอน
ขณะที่เด็กผู้ถูกกระทำพักอยู่บริเวณหอพักของครูคนดังกล่าวที่เป็นเจ้าของหอ และซึ่งหอพักแห่งนี้เป็นของเอกชนและไม่ผ่านทางโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องล่วงละเด็กแล้วตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งจะทราบผลสอบในเย็นวันที่ 25 ต.ค.2565 จากนั้นวันที่ 26 ต.ค. ก็จะส่งตัวครู กลับต้นสังกัดทันที ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าของตำรวจ
ด้าน พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เบื้องต้นครูชายผู้ถูกกล่าวหาได้ติดต่อกับพนักงานสอบสวนสภ.กุฉินารายณ์ เพื่อจะขอเข้ามามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุวัน เวลา บอกเพียงว่าจะเข้ามาเย็นวันนี้ หรืออาจจะวันพรุ่งนี้ เท่าที่สอบถามเบื้องต้นกับเจ้าตัวยังให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าให้เด็กดื่มน้ำ แต่ไม่ได้ใส่ยาอะไร พร้อมทั้งยอมรับว่าลงมือทำจริง แต่ไม่ได้ข่มขืน เพราะยังไม่ได้สอดใส่ และจะขอให้การอย่างละเอียดกับตำรวจ ส่วนเด็กพนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และผู้ปกครองก่อนถึงจะสามารถแจ้งข้อหาได้
อย่างไรก็ตามพนักสอบสวนได้มีการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นกับผู้เสียหายไปแล้ว 1 ปาก โดยในวันพรุ่งนี้ 25 ต.ค.2565 ได้นัดสอบปากคำผู้เสียหาย ร่วมกับสหวิชาชีพ ณ สำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรวบรวมหลังหลักฐาน ออกหนังสือเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขณะที่ช่วงเย็นวานนี้ (วันที่ 24 ต.ค. ) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามคดีร่วมกับคณะทำงาน นางศิริกร ณ ระนอง พมจ.กาฬสินธุ์ นายวีรดนย์ ศิริ นอภ.กุฉินารายณ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยแม่เด็กผู้เสียหาย เข้าพบ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภจว.กาฬสินธุ์ ณ สภ.กุฉินารายณ์ เพื่อติดตามเร่งรัดคดี เนื่องจากแม่ของผู้เสียหายเกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจาก ผู้ก่อเหตุรู้จักกับคนเยอะและกว้างขวางในพื้นที่
นางปวีณา กล่าวว่า ขั้นตอนสอบสวนผู้เสียหาย หลังจากสอบสวนร่วมกับอัยการและสหวิชาชีพแล้วเสร็จ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการออกมาจับทันที เนื่องจากร่องรอยการตรวจร่างกายผู้เสียหายมีความชัดเจน อีกอย่างเกรงว่าผู้ต้องหาจะมาข่มขู่ผู้เสียหายเพราะที่ผ่านมาหลังก่อเหตุผู้ต้องหายังได้กลับมาวุ่นวายเพื่อทำการไกล่เกลี่ยกับผู้หาย ทำให้ผู้เสียหายตกใจและมีอาการหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ผู้ปกครองต้องพาตัวไปดูให้แพทย์ที่โรงพยาบาลแลอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าเด็กหญิงผู้เสียหายจะเกิดอาการเครียดจนนำไปสู่การสูญเสียในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
พล.ต.ต.สวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ผจว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ ทราบว่าญาติผู้ต้องหาติดต่อเข้ามาเพื่อต้องการพากตัวผู้ต้องหาเข้ามอบตัว แต่หากหลังสอบสวนผู้เสียหายเสร็จสิ้นขบวนความ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถออกหมายได้ทันทีหากผู้ต้องหาไม่เข้ามามอบตัว แต่ถึงแม้ผู้ต้องหาจะเป็นฝ่ายที่เข้ามามอบตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถใช้ดุลพินิจ ในการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาด้วยได้เช่นกัน ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายวัชิระ พนมแก่น ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน15 ปี และ พรากเด็ก อายุยังไม่เกิน 15 ปี
ซึ่งภายหลังที่นางปวีณา ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเร่งคลี่คลายคดี และสามารรถจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ยังได้เดินทาไปเยี่ยมเด็กหญิง บี.(นามสมมุติ) ที่ได้ส่งตัวไปพักรักษาสภาพจิตใจ ณ โรงพยาบาลนาคู เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจกับน้อง ที่กำลังพักรักษาสภาพจิตใจ
https://youtu.be/XKZ_3Wf0LR4