แม่เด็กนักเรียนหญิงในคลิปตบหน้า วอนสังคมให้อภัยลูก

จากกรณีที่เพจ เจ๊ม้อย V PLus โพสต์คลิปภาพพร้อมแคปชั่นว่า เด็กสมัยนี้นี่เนอะ นั่นเค้าเป็นแม่มึงนะ อย่าเรียนเลย ถ้าการศึกษาไม่ทำให้มึงดีขึ้นมา นี่ขนาดแค่ ม 1 เอง เสียชื่อโรงเรียนกูหมด” พร้อมติดแฮทแท็ก อิเด็กเชี่ย ฝากผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย/เด็กแบบนี้ไล่ออกเถอะครับ

โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 5 นาที เริ่มต้นคลิปเป็นเหตุการณ์โต้เถียงกันระหว่างกลุ่มนักเรียนด้วยกันคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนแล้วเกิดมีปัญหากันและนัดเคลียร์กัน ขณะที่กำลังโต้เถียงไปมา จู่ๆก็มีหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาสวมหมวกกันน็อคเดินเข้ามายื่นโทรศัพท์ให้เด็กนักเรียนที่ใส่ชุดเนตรนารี ก่อนจะหันไปพูดคุยกับนักเรียนหญิงที่ใส่ชุดพละแต่กลับเกิดมีปากเสียงกัน

จนกระทั่งเด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดพละตะโกนใส่หญิงคนดังกล่าวว่า เสือก จากนั้นหญิงคนดังกล่าวจึงยกมือขึ้นลักษณะคล้ายจะยกมือตบ เด็กนักเรียนคนดังกล่าวจึงพุ่งเข้าใส่โดยใช้มือปัดป้องไปมาคล้ายกับการตบพร้อมใช้เท้าถีบไปที่หญิงคนดังกล่าว จนมีเพื่อนๆพากันเข้ามาห้ามพร้อมตะโกนว่า นั่นแม่มึงนะ จากนั้นก็เป็นการทะเลาะวิวาทกันเองอยู่ระยะเวลาหนึ่ง จึงได้แยกย้ายกันออกไป

สำหรับนักเรียนกลุ่มดังกล่าวทราบภายหลังว่าเป็นนักเรียนระดับชั้นม 1 อยู่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร

ต่อมาผู้สื่อข่าว เดินทางมายังบ้านของน้องปิ่น (นามสมมุติ) ในพื้นที่ ตำบลป่าพุทธา อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ที่ปรากฎอยู่ในคลิป และได้พบกับคุณแม่ของน้องปิ่น (นามสมมุติ) โดยคุณแม่เล่าว่าวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ช่วงหลังเลิกเรียนเวลาประมาณ 16.30 น. ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับลูกสาวกลับบ้านตามปกติ เห็นลูกกำลังเคลียร์ปัญหากับเพื่อนร่วมชั้นในศาลาที่เกิดเหตุ ซึ่งแม่เองก็ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไร แม่จึงเข้าไปห้ามปราม เพราะแม่เองก็รู้จักเพื่อนของน้องอยู่แล้ว จึงทำให้ลูกสาวของตนเกิดโมโห คิดว่าแม่เข้าข้างเพื่อน จึงเกิดเหตุการณ์ขึ้นตามคลิป

แม่ยังเปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ตามคลิปขึ้นเมื่อกลับมาถึงบ้าน ลูกสาวได้เข้ามาขอโทษตนเองแล้ว และเด็กทั้งสองคน ก็ปรับความเข้าใจกันแล้ว ส่วนตัวแม่เองไม่ติดใจอะไร และให้อภัยลูกแล้ว เชื่อว่าน้องทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ตอนนี้น้องรู้สึกสำนึกผิด ขอโทษแม่แล้วและอยากขอโทษสังคมด้วย แม่จึงอยากวิงวอนให้สังคมให้โอกาสลูกสาวของตนด้วย ให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญในชีวิตน้อง และให้น้องได้เดินหน้าต่อไปในสังคมได้

ด้านทางคณะอาจารย์ผู้บริหารโรงเรียนและครูประจำชั้นม.1 ได้ลงพื้นที่มายังบ้านของเด็กนักเรียนคนดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และทราบว่าทั้งผู้ปกครอง เด็ก และเพื่อนนักเรียนที่มีปัญหากัน ทั้งหมดได้มีการขอโทษและเคลียร์ใจกันแล้ว ด้านนายคณิตนนท์ ดาวเรือง คุณครูประจำชั้นของน้อง กล่าวว่า ปกติน้องเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่มีกลุ่มเพื่อนที่สามารถพูดคุยกันได้ แต่น้องจะเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่ ส่วนการเรียนในห้องเรียน น้องก็ตอบคำถามของคุณครูตามปกติ