สังคม

'สันติ' อดีตนักมวย พูดสั้นๆ "ไม่ตั้งใจทำร้ายใคร" เผยสาเหตุหลบหนี หวังไปสั่งลาลูกก่อนมอบตัว

โดย panisa_p

7 ต.ค. 2567

61 views

ตำรวจใช้เวลา 4 วันในการล่าตัว นาย สันติ อดีตดังมวยฝีมือดี ที่ผันตัวมาเป็นโจรลักทรัพย์เพราะยาเสพติด หลังพยายามนั่งแท็กซี่หนีไปหาลูกที่อำนาจเจริญ อ้างอยากเจอหน้าลูกก่อนมอบตัว



คดีนี้ต้องย้อนกลับไปคืนวันที่ 3 ตุลาคม ตำรวจ สน.เตาปูน ไล่ล่าตัวนาย สันติ เจ๊ะอะหลี อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยอินทามระ แต่นาย สันติ ไหวตัวทัน ยิงเปิดทางหลบหนี แล้วเข้าไปซ่อนตัวในบ้านคุณหมอ ในซอยอินทามระ 29 ก่อนจะหลบหนีไปได้ ในเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ท่ามกลางการปิดล้อมของเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย ล่าสุดตำรวจตามจับได้แล้วที่จุดตรวจสกัดของ สภ.โพธิ์กลาง จังหวัดนครราชสีมา ขณะกลับบ้านที่จังหวัดอำนาจเจริญ



โดยคุมตัวนายสันติ มาถึงที่ สน.บางซื่อ เมื่อบ่าย 2 โมงครึ่งที่ผ่านมา และทีมข่าวสังเกตว่า ที่หน้าผากข้างขวาแปะผ้าก๊อตทำแผลไว้ เพราะเกิดอุบติเหตุขณะหนีการจับกุม ทันทีที่มาถึงผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงจากตัวนายสันติว่า เหตุผลในการก่อเหตุคืออะไรและได้ร่วมมือกับภรรยาในการวางแผนหลบหนีหรือไม่ แต่นายสันติไม่ตอบคำถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้ก่อนที่นายสันติจะนำตัวเข้าห้องสอบสวน นายสันติได้พูดสั้น ๆ ว่า "ไม่ตั้งใจทำร้ายใคร"



จากนั้นนำตัวขึ้นไปสอบปากคำที่ชั้น 2 โดยมี พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง ก่อนจะแถลงข่าวปิดคดีนี้ พลตำรวจตรี นพศิลป์ บอกว่า จากการสอบปากคำนาย สันติ อ้างว่า ที่ยิงใส่ตำรวจเพราะวิ่งมาถึงสุดทางและไปไหนไม่ได้ และต้องการเปิดทางหนี จึงยิงสาดเข้าไปแบบมั่ว ๆ เพื่อให้เกิดเสียงดัง และหวังว่าจะหยุดไม่ให้ตำรวจติดตามตัวได้ ก่อนที่จะปีนรั้วเข้าบ้านประชาชนแถวนั้น



ส่วนที่เข้าบ้านคุณหมอ เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนาที่จะจับเป็นตัวประกัน แค่ต้องการขอน้ำดื่ม โดยยอมรับว่า แอบอ้างเป็นตำรวจจริงแต่เมื่อหมอปฏิเสธเลย ออกมาหาน้ำกินจากก๊อก และวนเวียนอยู่ในบ้านจนถึง 5 ทุ่ม จึงได้ปีนออกจากบ้านหลบหนีไป จากนั้นเดินทางไปที่ซอยประชาสงเคราะห์ 28 เพื่อไปเอาเงินกับเพื่อนภรรยาที่ฝากไว้ 27,000 บาท แล้วสวมเสื้อไรเดอร์อำพรางตัว



กระทั่ง 4 ตุลาคม ตอน ตีหนึ่ง 15 นาที วงจรปิดจับภาพ นาย สันติ เรียกวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างไปส่งที่ซอยรามคำแหง 53 แล้วเดินเท้าต่อไปยังซอยรามคำแหง 112 แยก 13 และตรงนี้เองที่นาย สันติ ถอดเสื้อไรเดอร์ออก เพื่อตบตาตำรวจ จากนั้นเรียกแท็กซี่ไปย่านรังสิตคลอง 4 หาที่พักแถวนวนคร



5 ตุลาคม นั่งแท็กซี่มาเช่าห้องพักรายวันในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

6 ตุลาคม เรียกแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยัง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยจ้างในราคา 8,000 บาท เที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 7 ตุลาคม ตำรวจประจำด่านจุดตรวจสกัดของ สภ.โพธิ์กลาง ริมถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ค้นรถแท็กซี่ที่นาย สันติ นั่งมา ทำให้นาย สันติ วิ่งหลบหนีแล้วไปสะดุดล้มชนกับกำแพงจนศีรษะแตก ทำให้ถูกจับได้



และเจอปืนลูกโม่ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด จุด38 จำนวน 15 นัด ที่ตัวนายสันติ และปืนแม็กกาซีนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 17 นัด ในกระเป๋าของนายสันติที่อยู่ในรถแท็กซี่



ส่วนสาเหตุที่ลักทรัพย์ เจ้าตัวอ้างว่า ต้องการเงินมาซื้อยาเสพติด ส่วนที่หลบหนีขึ้นไปยัง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร นั้น เป็นเพราะต้องการที่จะต่อรถไปยัง จ.อำนาจเจริญ โดยหวังจะพบหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย และตั้งใจจะมอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองอำนาจเจริญ



ส่วนภรรยาที่ใช้ปืนจี้ตัวเอง นายสันติ ยืนยันว่าภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้ก่อเหตุจี้ตำรวจเพื่อเบี่ยงเบนสถานการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับการสอบสวนของตำรวจที่ระบุว่า ภรรยานายสันติมีอาการเครียดสะสมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงลงมือก่อเหตุ แต่ภรรยามีส่วนรู้เห็นกับการยักยอกถ่ายเททรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์ของนายสันติ โดยทุกครั้งที่ได้ทรัพย์สินมา จะโอนเงินฝากไว้กับเพื่อนของภรรยาที่อยู่ย่านห้วยขวาง



เบื้องต้นแจ้งข้อหา พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น ยิงปืนในเมือง และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน และจะคุมตัวฝากขังที่ศาลอาญาในวันพุธที่ 9 ตุลาคมนี้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/17grPTEWCuo

คุณอาจสนใจ

Related News