อาชญากรรม

เปิดไทม์ไลน์ ‘สันติ’ อดีตนักมวยผันตัวเป็นโจร หนีกว่า 18 ชม.ยังไม่เจอตัว

โดย olan_l

3 ชั่วโมงที่แล้ว

82 views

ผ่านมากว่า 18 ชั่วโมงแล้วในการติดตามล่าตัว นายสันติ อดีตนักมวยค่ายดัง แต่ต้องหมดอนาคตเพราะยาเสพติด จนกลายเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์และต่อสู้เจ้าหน้าที่



ย้อนคดีนี้ต้องย้อนไปราว 19.00 น.ของเมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจ สน.เตาปูน บุกจับ นายสันติ อายุ 39 ปี หรือ เอส อดีตนักมวยเจ้าของฉายา "ฤทธิเดช ใหม่เมืองคอน" และเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหะสถาน ที่ห้องพักซอยอินทามระ 29 แต่เจ้าตัวยิงต่อสู้ ก่อนจะปีนกำแพงหลบหนีไป จากภาพวงจรปิดจะเห็นว่านายสันติ มีปืนและสวมใส่เสื้อเกราะด้วย

ส่วนคดีต้นเรื่องที่ทำให้นายสันติ โดนล่า คือ คดีลักทรัพย์ในเคหะสถาน พื้นที่ สน.เตาปูน ทีมข่าวได้คุยกับเจ้าของบ้านผู้เสียหาย เล่าว่า บ้านเขาอยู่ภายในซอยประชาราษฎร์ ซอย 2 ช่วงค่ำวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนมาดูลาดเลา พอสบโอกาสก็ปีนกำแพงมาภายในบ้านพร้อมกับใช้คีมตัดสายยูประตูทางเข้า จากนั้นก็รื้อทรัพย์สินภายในตู้ไม้โบราณ โดยสามารถนำทรัพย์์สินของมีค่า เช่น พระพุทธรูป 12องค์ พระเครื่อง12 องค์ กระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่าหลายแสนบาท และไวน์ยี่ห้อดัง 1 ขวด และอาวุธปืน 1 กระบอก จากนั้นเดินขึ้นไปรื้อทรัพย์สินชั้น 2 โดยใช้เวลาอยู่ภายในบ้านเป็นชั่วโมงก่อนจะหลบหนีไป

กระทั่งตำรวจไปติดตามทรัพย์บางส่วนคืนมาได้ จึงขอศาลออกหมายจับนายสันติและไปติดตามจับตัว จนเกิดเป็นเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่สุดท้ายทำให้คนร้ายหนีไปได้ ยิ่งทำให้ครอบครัวหวาดกลัว เพราะต้นเรื่องมาจากเหตุลักทรัพย์ที่บ้านเขา เกรงว่าคนร้ายอาจจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ

ขณะที่ชาวบ้านในซอยประชาราษฎร์ ซอย 2 บอกกับทีมข่าวว่า มักจะเจอนายสันติ และภรรยา ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาหาเพื่อนรุ่นน้องที่อยู่ในซอยนี้เป็นประจำ ล่าสุดคือช่วง 4 โมงเย็นของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ต่อมาเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ก็โดนจับเพราะไปร่วมกันลักทรัพย์ กระทั่งตำรวจไปตามจับนาย สันติ เมื่อคืน  หลังจากนี้คนในซอยอาจจะต้องเพิ่มความระมักระวังมากขึ้น เพราะนายสันติเคยมาแถวนี้บ่อย และยังหลบหนีอยู่ อาจจะย้อนกลับมาได้

โดยนายสันติได้ปีนเข้าไปในบ้านประชาชนถึง 2 หลัง หลังแรกเป็นบ้านของคุณเจน นายสันติเข้าไปหลบนอนพักเหนื่อยที่หน้าบ้านพักนึง ก่อนจะปีนกำแพงออกไปที่บ้านของคุณหมอที่อยู่ติดกัน

จากนั้นนายสันติ เดินไปเคาะประตูบ้านคุณหมอ อ้างว่าเป็นตำรวจจะมาจับคนร้าย ขอให้เปิดประตู แต่คุณหมอ 2 คนที่อยู่ในบ้านไม่ให้ความร่วมมือ ก่อนจะไปซ่อนตัวอยู่ในห้อง คนร้ายจึงปีนช่องดูดควันตรงห้องครัวเข้ามา ทำทีเคาะประตูขอน้ำดื่ม ทั้งที่หน้าห้องมีแพคขวดน้ำวางไว้จำนวนมาก แต่สุดท้ายคุณหมอทั้ง 2 คน และคุณแม่ก็ออกมาได้อย่างปลอดภัย แล้วนาย สันติ ก็หลบหนีไปได้แบบหวุดหวิด ทั้งที่ตอนนั้นตำรวจชุดหนุมานและชุดอรินทราช 26 วางกำลังปิดล้อมโดยรอบพื้นที่แล้ว

ซึ่งตำรวจเชื่อว่าอาจจะอาศัยช่วงชุลมุนที่น.ส.พจนีย์ ภรรยาของนายสันติ มาเรียกร้องความสนใจด้วยการใช้ปืนจี้ตัวเอง เพื่อเปิดทางให้สามีหลบหนี สุดท้ายทำให้เธอโดนจับพร้อมปืนลูกโม่ 1 กระบอก และไอซ์อีก 1 ซอง

และเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางซื่อคุมตัวน.ส.พจนีย์ ออกมาจากโรงพยาบาลตำรวจ หลังเข้าไปทำแผลเพราะได้รับบาดเจ็บที่เท้าซ้ายจากการเหยียบของมีคม มาสอบปากคำที่ สน.บางซื่อ

ตอนลงจากรถต้องมีตำรวจ 2 นาย คอยประคองแขนและขา พร้อมใช้เสื้อคลุมศีรษะ เมื่อนักข่าวถามเจ้าตัวว่า "ได้พูดคุยหรือติดต่อกับนายสันติบ้างหรือไม่" แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบอะไร ตำรวจพยายามแจ้งว่าผู้ต้องหายังมีอาการบาดเจ็บที่เท้าซ้ายอยู่ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนเพื่อเปิดทาง

จากนั้นตำรวจให้เธอนั่งวีลแชร์ขึ้นไปที่ห้องประชุมชั้น 2 เพื่อสอบปากคำกับพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และพล.ต.ตอรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ซึ่งนั่งรอสอบปากคำอยู่ราว 14.30 น. ตำรวจได้พาเธอออกมาจากห้องสอบสวนเพื่อตรวจปัสสาวะ แต่เจ้าตัวยังคงก้มหน้านิ่ง และไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน

ส่วนการติดตามตัวนายสันติ จนถึงขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และประสานงานไปที่ญาติเพื่อให้เจ้าตัวเข้ามามอบตัว และ 1 ในคนใกล้ชิดของนาย สันติ ที่ทีมข่าวอาชญากรรมติดต่อได้ คือ พ่อของนายสันติ อายุ 66 ปี ยอมรับว่าตกใจที่ลูกชายไปก่อเหตุลักษณะนี้ แต่ยอมรับว่าไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว เพราะเขาอยู่ที่จังหวัดสงขลา ส่วนลูกชายอยู่ที่กรุงเทพ เมื่อหลายปีก่อนเคยไปเยี่ยมตอนที่ลูกชายอยู่ในเรือนจำปทุมธานีแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นลูกชายเปลี่ยนเบอร์มือถือ และไม่เคยติดต่อมาอีกเลย ตอนนี้หากลูกชายดูข่าวอยากให้เข้ามอบตัว อย่าทำผิด หรือคิดต่อสู้เจ้าหน้าที่อีกเลย

ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่ค่ายมวย อยู่ภายในซอยอินทามระ 9 ซอย 16 ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง และได้พบกับนาย ศักดิ์ แก้วช่วย อดีตครูฝึกมวยให้กับนาย สันติ บอกว่า สอนมวยให้กับนายสันติตั้งแตอายุ 16 ปี เป็นนักมวยที่เชิงดีมาก ไม่เคยเป็นแชมป์ เพราะขี้เกียจมาซ้อม แต่นิสัยส่วนตัวไม่เคยก้าวร้าว เฮฮาสดใสแต่หลังจากที่มีภรรยาและลูกก็เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเริ่มขโมยของเพื่อนร่วมงาน จึงตัดสินใจให้นายสันติเลิกชกมวย และมาทำงานเป็นเทรนเนอร์อยู่ในค่ายมวยของเฮียตี๋ เจ้าของค่ายมวย ทีเด็ด 99 แทน แต่ทำงานได้ไม่ถึงปี ก็ขโมยเงินของเพื่อนร่วมงาน และใช้สารเสพติดจนทำให้โดนไล่ออก ตอนนี้อยากให้ นาย สันติ เข้ามอบตัว เพราะยังมีลูกอีก 2 คน ที่ยังรอให้นายสันติกลับมาหา

สอดคล้องกับข้อมูลของเพื่อนร่วมค่ายอีกหลายคนที่ให้ข้อมูลตรงกันว่า นายสันติ เคยเป็นนักมวยชกรุ่น 118 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นใหญ่และค่อนข้างมีฝีมือพอสมควร เคยมีเงินเก็บเป็นแสนๆ แต่ติดยาเสพติด ทำให้ชีวิตเปลี่ยนเป็นแบบนี้

นอกจากนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่ห้องพักของนายสันติ ที่ซอยอิทรามระ 29 พบว่า ทั้งคู่พักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ และได้คุยกับเพื่อนบ้านที่สนิทกับน.ส.พจนีย์ ภรรยานายสันติ บอกว่า รู้จักทั้งคู่มา 4-5 ปี ไม่ค่อยได้คุยกับนายสันติ รู้เพียงว่าเป็นนักมวย ที่ผ่านมาภรรยานายสันติ มาเล่าแค่ว่า สามีไปคัดตัวนักกีฬาแต่ไม่ได้ ไม่เคยพูดถึงปัญหาภายในบ้านให้ฟัง และคิดไม่ถึงว่าน.ส.พจนีย์ จะกล้าใช้ปืนจี้หัวตัวเองแบบนี้


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pknn3wAJY0s

คุณอาจสนใจ

Related News