สังคม
ตร.แถลงไทม์ไลน์เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำหาย พบทาสีทับตบตาจนท.เพื่อหนีระยะยาว
โดย parichat_p
17 มิ.ย. 2567
59 views
ตำรวจใช้เวลา 5 วัน ในการติดตามหาเรือลักลอบบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำ ที่หลบหนีออกจากหน่วยเก็บรักษาของกลางตำรวจน้ำ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ล่าสุดเจอแล้วอยู่ในน่านน้ำสากลระหว่างไทย-มาเลเซีย กำลังลากมาที่สงขลา คาดถึงราว 18.00 น. วันนี้
ความคืบหน้ากรณีเรือ เจ.พี. บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 8 หมื่นลิตร เรือซีฮอต บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 1 แสน 5 หมื่นลิตร และ เรือดาวรุ่งบรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 1 แสนลิตร พร้อมลูกเรือ 15 คน นำเรือหลบหนีออกจากจุดที่ทิ้งสมอเรือบริเวณท่าเทียบเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ขณะอยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ เพราะเรือทั้ง 3 ลำเป็นของกลางที่ถูกตำรวจน้ำยึดไว้ดำเนินคดี ฐานลักลอบขนน้ำมันดีเซลเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.67) ทีมสืบสวนไปแกะรอยจนเจอว่าเรือทั้ง 3 ลำลอยอยู่ในน่านน้ำสากลระหว่างไทยและมาเลเซีย จึงลากเรือทั้ง 3 ลำกลับเข้ามาดำเนินคดี โดยจะนำเรือทั้ง 3 ลำมาจอดที่ท่าเทียบเรือกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา เพื่อให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
จากแนวทางการสืบสวนของตำรวจ มีข้อมูลว่า เรือทั้ง 3 ลำที่ถูกพบถูกจอดลอยลำทิ้งไว้ โดยมีลูกเรือเหลืออยู่บนเรือทั้งหมด ประมาณ 6 - 7 คน และไม่มีน้ำมันของกลาง 3 แสน 3 หมื่นลิตรที่เคยอยู่ในเรือ
ส่วนเส้นทางหลบหนี มีข้อมูลว่าเรือได้หลบหนีออกจากท่าเรือสัตหีบ ช่วง 20.10 น. วันที่ 11 มิถุนายน จากนั้นมุ่งหน้าไปยังเกาะกูด จ.ตราด และล่องไปตามเส้นทางทะเลจนถึงประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศเวียดนาม และกลับมาจอดอยู่ในน่านน้ำลากลระหว่างไทย-มาเลเซีย ส่วนจุดที่มีการถ่ายน้ำมันยังไม่แน่ชัดว่าเป็นพื้นที่ใด
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำทีมพนักงานสอบสวนและพฐ. นั่งเครื่องบินมาติดตามคดีนี้ที่จังหวัดสงขลา ทันทีที่มาถึงก็ประชุมกับตำรวจที่เกี่ยวข้องทันที พร้อมเปิดเผยรายละเอียดกับทีมข่าวว่า เรือยังอยู่ระหว่างการลากจูงเข้ามาในพื้นที่น่านน้ำไทย แต่เนื่องจากมีเรือ 1 ลำที่เสีย ทำให้การเคลื่อนที่กลับเข้ามายังฝั่งประเทศไทยเป็นไปได้ยาก และช้ากว่ากำหนด คาดว่าอาจจะถึงสงขลาราว 18.00 น. ส่วนของเรื่องรายละเอียดการจับกุม ขณะนี้ยังต้องรอติดต่อกับชุดจับที่อยู่ภายในเรือ เนื่องจากการติดต่อสื่อสารเป็นไปได้ยากลำบาก ต้องใช้เพียงโทรศัพท์ดาวเทียมเท่านั้น ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องของตัวผู้ต้องหาหรือของกลางที่เจอ
หลังจากที่เรือมาถึงฝั่งแล้ว ทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการตรวจเรือและพนักงานสอบสวนก็จะทำหน้าที่สอบปากคำผู้ต้องหาที่อยู่บนเรือหลังจากนั้นจะนำรายละเอียดทั้งหมดมาประชุมหารือและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง
พลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ยอมรับว่า เรื่องนี้มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน อยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีกี่นาย ซึ่งจะสอบสวนให้แล้วเสร็จใน 7 วัน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uGm1ttiOJL4