นายกฯ เผยทราบผู้เกี่ยวข้องเรือน้ำมันเถื่อนทั้งหมดแล้ว กำชับตร.เร่งสืบสวนปิดคดี

รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่าข้อความที่มีการพูดคุยกันเรื่องการจ่ายเงิน และทวงถามเรื่องความรับผิดชอบที่ตำรวจน้ำไปจับเรือน้ำมันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ขณะที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าได้รับรายงานจากจเรตำรวจแห่งชาติแล้วและทราบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภาหลังพลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตํารวจแเห่งชาติ เข้าพบเพื่อรายงานกรณียาเสพติด และความคืบหน้ากรณีเรือน้ำมันเถื่อน ว่าทราบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว



นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า เจ้าของเรือเก่าเกี่ยวข้องกับการขโมยเรือครั้งนี้ด้วย และเกี่ยวโยงกับต่างประเทศและยอมรับว่าเรื่องนี้มีความยาก แต่ทั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนรายละเอียดยังไม่อยากเปิดเผยในตอนนี้



ส่วนจะใช้ระยะเวลาในการสืบสวนนานหรือไม่ เพราะประชาชนก็มีความคาใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เร่งไปที่พลตำรวจเอกไกรบุญแล้ว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะมีส่วนร่วมในการเจรจา



ด้านพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงความคืบหน้าเรื่องนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีเรื่องแชตหลุด ที่มีการเจรจาเรื่องการจ่ายเงิน และทวงถามเรื่องความรับผิดชอบ

ที่ตำรวจน้ำไปจับเรือน้ำมันทั้งที่มีการดูแลกันอยู่ ตรวจสอบแล้วเชื่อได้ว่า แชทดังกล่าวเป็นแชตจริง มีตำรวจเกี่ยวข้อง 4-6 นาย



หนึ่งในนั้นเป็นทหารเรือ เพื่อนร่วมรุ่น จปร. กับพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ก่อนที่จะโอนย้ายไปเป็นตำรวจน้ำ อีก 5 คน เป็น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 2 คน รองผู้บังคับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 2 คน ผู้กำกับการ อักษรย่อ "น." 1 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่อยากเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอหน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ ประชาชน และตำรวจที่ถูกกล่าวหาเพื่อพิสูจน์ความจริง



ด้านพลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยเรื่องโพยส่วย ที่สื่อออกมาเปิดเผยว่ามีการจ่ายเงินให้กับ 10 หน่วยงาน ซึ่ง 1 ในนั้นมีการจ่ายเงินให้กับผู้บังคับการตำรวจน้ำ 1 ล้านบาท ว่าเป็นเอกสารเก่าที่เคยตรวจยึดได้ตั้งแต่ปี 2555 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้



ส่วนจะจริงหรือไม่ ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่ยินดีให้หน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ สำหรับกรณีตำรวจน้ำปล่อยให้เรือของกลางหาย จากการตรวจสอบพบว่ามี 3 นาย หลังจากนี้จะส่งผลสรุปให้ ขณะที่น้ำมันของกลางที่ตรวจพบในเรือขณะนี้ พบว่าคงเหลืออยู่ที่ 18,000 ลิตร



ขณะที่วันนี้พนักงานสอบสวนกองปราบคุมตัวลูกเรือ 8 คน ผู้ต้องหาในคดีขโมยเรือน้ำมันเถื่อน 3 ลํา ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงผู้บงการ ผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ตอบคำถาม แต่เมื่อนักข่าวถามว่าผู้สั่งการใช่ชื่อ"เล็ก"หรือไม่ หนึ่งในผู้ต้องหาพยักหน้า ก่อนจะขึ้นรถออกไป



ส่วนการดำเนินคดี พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า คดีที่จับเรือลักลอบบรรทุกน้ำมันเถื่อน 5 ลำ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 อยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และอัยการสูงสุด



เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร กองบังคับการปราบปรามมีหน้าที่ในการสืบสวนขยายผลและนำพยานหลักฐานไป สนับสนุนพยานหลักฐานในคดี ขณะที่คดีเรือของกลาง 3 ลำหาย กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ควบคุม อยู่ระหว่างขยายผลผู้ต้องหาที่นำเรือทั้ง 3 ลำและน้ำมันไปขายเพื่อหาคนที่เกี่ยวข้องว่ามีใครบ้าง เบื้องต้นมีประมาณ 3-4 คน ที่เข้าข่ายกระทำความผิดแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ ส่วนจะมีนาย จ. ด้วยหรือไม่ ยังไม่ขอระบุ