ปอศ. ถอนสิทธิประกันตัว 17 ลูกเรือ ที่หลบหนี พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา

ขณะที่ตำรวจ ปอศ. เพิกถอนสิทธิ์ประกันตัวลุกเรือทั้ง 17 คน ที่หลบหนี แบ่งเป็น 15 คนที่หลบหนีไปกับเรือ ส่วนอีก 2 คน อยู่บนฝั่งแต่ขาดการติดต่อ


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. เรียกผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวทั้ง 28 คน ให้มารายงานตัว เพื่อตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่หลบหนีไปกับเรือลักลอบบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไป ตั้งแต่คืนวันที่ 11 มิถุนายน 2567


มีลูกเรือเข้ามารายงานตัวทั้งหมด 11 คน ลูกเรือส่วนใหญ่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน มีเพียงรายเดียวที่บอกสั้นๆเพียงว่า "ผมอยู่แต่ในเรืออย่างเดียว ผมไม่ได้ไปด้วย" ก่อนจะเข้าห้องพนักสอบสอบสวน โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง


จากนั้นตัวแทนนายประกันผู้ต้องหา ออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าว ระบุว่า วันนี้แค่พาผู้ต้องหามารายงานตัว ส่วนตัวยังไม่ทราบในรายละเอียดเชิงลึกในการสอบปากคำ ส่วนคนเรืออีก 2 คนที่ไม่มาที่อยู่ อ.สัตหีบ ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อถามว่าทราบไหมว่ากลุ่มผู้ต้องหาชุดที่ไม่หนีได้มีการประสานพูดคุยกับกลุ่มที่หนีไปหรือไม่ ตัวแทนนายประกันบอกว่า ไม่ทราบ ไม่ได้มีการติดต่อกัน รวมถึงเมื่อถามว่าได้ติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาที่หนีไปหรือไม่ บอกว่าบังติดต่อไม่ได้ และถามว่าติดต่อเมื่อไหร่ล่าสุด ก็ไม่ได้ตอบ


ขณะที่พันตำรวจเอก ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการกองบังคับการ 2 บก.ปอศ. ระบุว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ตำรวจน้ำ / ร่วมกับตำรวจ ปอศ. จับกุมเรือลักลอบบรรทุกน้ำมันได้ 5 ลำ ที่บริเวณอ่าวไทย ใกล้เเท่นขุดเจาะน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งในเรือทั้ง 5 ลำมี น้ำมันดีเซลอยู่ในเรือรวม 3 แสน 3 หมื่นลิตร และมีลูกเรือทั้งหมด 28 คน สัญชาติไทย / เมียนมา / สปป.ลาว และกัมพูชา เเต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย ประมาณ 90% ทำหน้าที่เป็นลูกเรือ ควบคุมเรือ


เบื้องต้นตำรวจ ปอศ.เเจ้งข้อหาร่วมกันพยายามนำเข้าหรือส่งออกของที่ยังไม่ผ่านวิธีทางศุลกากร / ร่วมกันซ่อนเร้นพาไปเสียในทรัพย์(น้ำมัน) อันเป็นของเกี่ยวเนื่องในความผิด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ / เเละร่วมกันบรรทุกของลักลอบหนีศุลกากรหรือมีไว้ซึ่งสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษี ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต / ซึ่งทั้ง 28 คน ได้รับการประกันตัวไปรวมวงเงินทั้งหมด 3 ล้าน 1 แสนบาท


ตอนนี้ตำรวจเพิกถอนสิทธิประกันตัวของผู้ต้องหา 17 คน ที่หลบหนีไปแล้ว หลังจากนี้จะออกหมายจับทั้ง 17 คน กลับมาดำเนินคดี ส่วนจะเกี่ยวข้องกับ "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" หรือไม่ อยู่ในสำนวนการสอบสวนไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่การติดตามตัว เสี่ยโจ้ ปัตตานี เป็นหน้าที่ของทางกองปราบปราม


ผู้กำกับบอกด้วยว่า คดีนี้จับเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อนทั้ง 5 ลำ ถือเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพราะจับกุมในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ห่างจากเส้นฐาน 200 ไมล์ทะเล ส่วนเขตราชอาณาจักรไทยอยู่ที่ประมาณ 12 ไมล์ทะเลเท่านั้น ดังนั้นคดีนี้ต้องมีอัยการเข้ามาร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย เบื้องต้น มองว่าน่าจะนำน้ำมันมาจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งพนักงานสอบสวน ปอศ. ต้องสรุปสำนวนภายใน 6 เดือน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vZvP2eE5VE8