เปิดนาทีทลายปาร์ตี้ยา รร.กลางกรุง ยึดไอซ์-ปืน พบญาติ 'ชาดา' ร่วมวง จ่อฝากขังพรุ่งนี้

กรณีลูกพี่ลูกน้อง นายชาดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมเพื่อนรวม 4 คน โดนจับพร้อมยาเสพติดและอาวุธปืนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ และตำรวจไม่ให้ประกัน ดังนั้นคืนนี้นอนห้องขังโรงพัก ก่อนจะไปฝากขังพรุ่งนี้



นี่เป็นภาพขณะที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 บุกเข้าจับกุมนาย นรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย / นาย กิจจา / นางสาว วาลิส และนางสาว อัญชลีพร ขณะอยู่ภายในห้องพักเลขที่ 304 ของในโรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยเพชรบุรี 47 พร้อมยึดของกลางยาไอซ์ 6 ถุง / อาวุธปืน 11 มม. จำนวน 1 กระบอก / กระสุนปืน 6 นัด



หลังตำรวจฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลว่า มักจะมีชายหญิงมาเปิดห้องที่โรงแรมดังกล่าวเพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติด จึงเก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา บุคคลกลุ่มนี้ได้มาเปิดห้องพักอีกครั้ง จึงนำกำลังไปดักซุ่มอยู่ที่ด้านล่างของโรงแรม แล้วนางสาว อัญชลีพร ลงมาที่ลอบบี้ของโรงแรมจึงแสดงตัวเข้าจับกุม เธอรับสารภาพว่า นัดเพื่อนชายหญิง มามั่วสุมเสพยาจริง ก่อนจะพาไปที่ห้องพัก



ในห้องตำรวจพบนาย นรเศรษฐ์ / นาย กิจจา และนางสาว วาลิส อยู่ภายในห้อง จึงขอตรวจค้น และพบไอซ์ อยู่ในซองพลาสติก 6 ซองวางอยู่บนโต๊ะ ส่วนอาวุธปืนค้นได้จากตัวของนายนรเศรษฐ์  ประกอบกับนาย กิจจา / นางสาว วาลิส และนางสาว อัญชลีพร ยอมรับว่ามามั่วสุมเสพยาจริง และไอซ์ ที่พบเป็นของนาย นรเศรษฐ์ แต่นาย นรเศรษฐ์ ปฏิเสธ จึงคุมตัวทั้งหมดมาที่ สน.มักกะสัน



ทีมข่าวลงพื้นที่โรงแรมที่เกิดเหตุตั้งอยู่ภายในซอยเพชรบุรี 47 ทะลุซอยพระรามเก้า 18 หรือซอยโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งซอยนี้สามารถทะลุออกถนนใหญ่ได้หลายทาง และมีซอยย่อยเยอะ ลักษณะเป็นโรงแรมหรู โดยทางโรงแรมไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้านใน



ทีมข่าวสอบถามพ่อค้าที่อยู่ใกล้กับโรงแรมนี้ บอกว่า เมื่อเช้ามาขายของตั้งแต่ตี 5 แต่ก็ไม่เห็นว่ามีตำรวจมาบุกจับที่โรงแรมนี้ตอนไหน ทั้งนี้ โรงแรมนี้แขกที่มาพัก ส่วนใหญ่จะมีแต่ชาวต่างชาติที่มารักษาที่โรงพยาบาล และต้องรักษาระยะยาว เช่นต้องทำกายภาพ ก็จะมาเช่าโรงแรมนี้เป็นรายเดือนอยู่ แต่เท่าที่สังเกต จะไม่ค่อยมีคนไทยมาเช่า และไม่ใช่ลักษณะโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวมาเปิดห้องไม่กี่วัน



ส่วนบรรยากาศที่ สน.มักกะสัน ตั้งแต่ช่วงสายผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามี ทนายและเพื่อนของผู้ต้องหามาเยี่ยมตั้งแต่เช้า โดยเพื่อนของผู้ต้องหาบอกว่า นาย นรเศรษฐ์ เป็นญาติของ นาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย / นาย กิจจา เป็นคนขับรถของนาย นรเศรษฐ์ / นางสวา วาลิส และนางสาว อัญชลีพร เป็นคนรู้จักของทั้งคู่ที่รู้จักกันมานาน ไม่ใช่เด็กเอ็นเตอร์เทน



หลังการสอบปากคำราว 6 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนนำตัวทั้ง 4 คน ออกมาจากห้องสืบสวน เพื่อนำสอบปากคำต่อที่ห้องสอบสวนชั้น 1 ภายในโรงพัก ทีมข่าวสอบถามนาย นรเศรษฐ์ ว่ากังวลใจในคดีหรือไม่ และมั่วสุมยาเสพติดหรือไม่ รวมถึงได้ติดต่อนายชาดาหรือยัง เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใด ๆ เพียงแต่พูดทิ้งท้ายก่อนเข้าห้องสอบสวนว่า "ไม่มีอะไรต้องกังวล"



จากนั้นประมาณ 10 นาที พนักงานสอบสวนได้นำตัวทั้ง 4 คน มายังห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อให้ทั้งหมดถอดอุปกรณ์ในตัว ทั้งกระเป๋า และเสื้อผ้า รวมถึงทรัพย์สินมีค่าออกจากตัว ก่อนจะนำตัวเข้าไปในห้องขังที่อยู่ชั้น 2 ของ สน. พื่อรอส่งศาลในวันพรุ่งนี้ โดยผู้ต้องหาทั้งหมด ยังไม่ตอบคำถามใดๆ และอยู่ในอาการเคร่งเครียด



นาย เกริกเกียรติ กิ่งแก้ว ทนายของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทุกคนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยวันพรุ่งนี้ (12มิ.ย.) ญาติได้เตรียม หลักทรัพย์เป็นเงินสด 4 หมื่นบาทไปยื่นประกันตัวในชั้นศาล เท่าที่ดูตอนนี้ทุกคนไม่เครียด ส่วนข้อเท็จจริงต่างๆ นาย นรเศรษฐ์ เล่าให้ฟังแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้





เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์)โดยผิดกฎหมาย





และแจ้งข้อหาเพิ่ม นายนรเศรษฐ์ ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรฯ





และพรุ่งนี้ (12มิ.ย.) 10 โมงเช้า พนักงานสอบสวนจะคุมตัวทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดา ฝากขังผัดแรก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DcyKRS-T_1k