สังคม

'นายต้น' ฆ่าโหดภรรยา อ้างไม่ได้วางแผนฆ่า - พี่สาวร่ำไห้ เชิญวิญญาณ ไม่ขอให้อภัย ไม่รับคำขอโทษ

โดย parichat_p

7 มี.ค. 2566

239 views

ตำรวจคุมตัวนายต้น ผู้ต้องหาฆ่าภรรยาในซอยนิคมบางปู จากบางปะกงมาสอบสวนที่ สภ.บางปู ลั่นไม่ได้วางแผน อยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย เผยรักภรรยามาก กำลังจะไปกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตาย ด้านตำรวจสอบเข้ม คุมตัวทำแผนพรุ่งนี้


ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางปู คุมตัวนายพิสุทธิ์ศิริ จันทร์โสดา หรือ ต้น อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแทงภรรยาเสียชีวิตเมื่อวานนี้ มาสอบปากคำ หลังจับกุมได้ที่บริเวณคอสะพานแม่น้ำบางปะกง ถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) กม.49 ใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา



ทันทีที่ลงจากรถ ทีมข่าวพยามสอบถามนายต้น ว่าตั้งใจวางแผนก่อเหตุมาเลยหรือไม่ เจ้าตัวร่ำไห้ทั้งน้ำตา บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้วางแผนมาก่อน ยอมรับว่าทะเลาะกันเรื่องหึงหวง และเรื่องเงิน ตนเองอยากฝากขอโทษไปทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยความสำนึกผิด พร้อมบอกว่า ตนรักผู้ตายมาก ทรัพย์สินทุกอย่างเป็นชื่อของผู้ตายหมด ส่วนที่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง เพราะตั้งใจจะไปกระโดดน้ำหวังฆ่าตัวตาย



หลังจากนั้นคุณสนิท บุราณเดช พี่สาวของผู้ตาย (สวมเสื้อคอกลมสีขาว) พร้อมด้วยครอบครัว เดินทางมาที่ สภ.บางปู เพื่อมาเจอหน้าผู้ต้องหา แต่ไม่ทันเพราะผู้ต้องหาอยู่ภายในห้องสืบสวนแล้ว จึงทำได้เพียงตะโกนผ่านประตูกระจกทั้งน้ำตาว่า มึงฆ่าน้องกูทำไม เป็นคนอยู่รึเปล่า ก่อนด่าผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น ก่อนถามย้ำว่าฆ่าทำไม เหตุผลอะไรที่ต้องฆ่ามันด้วย


คุณสนิท เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า วันนี้ตั้งใจมาดูหน้าผู้ต้องหา และบอกว่าดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ในส่วนตัวไม่ขอให้อภัย ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถึงแม้ผู้ต้องหาจะขอโทษทางครอบครัวแล้วแต่ "ไม่รับคำขอโทษ" เพราะฆ่ากันขนาดนี้ไม่ได้ตั้งใจเป็นไปไม่ได้ ทำไมถึงไม่คิดถึงหัวใจของครอบครัวคนสูญเสียบ้าง


ในส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุ อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่านั้น ตนไม่เชื่อ รวมถึงประเด็นที่บอกว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะรักน้องสาวตนมากนั้น ตนอยากถามกลับไปว่า "หากรักน้องสาวตนจริง จะฆ่าน้องสาวตนทำไม?" /พร้อมอยากให้ผู้ก่อเหตุคิดถึงหัวอกแม่ด้วย เพราะตอนนี้แม่ยังไม่ทราบข่าวเท่าไหร่


ขณะที่ประเด็นที่ผู้ก่อเหตุอ้างกับทางเจ้าที่ตำรวจว่า หลังเกิดเหตุตั้งใจจะไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกผิดนั้น ตนมองว่า "ทำไมไม่ตายตามไปเลย จะได้จบๆกัน ถ้าจับไปแล้วปล่อยออกมา ครอบครัวต้องมาระแวงเขาอีกใช่หรือไม่ ยอมรับว่ากลัวการล้างแค้นหลังจากนี้" โดยตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้วางแผนอะไรเกี่ยวกับรถกระบะของน้องสาว ส่วนจากรับศพแล้วจะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดอุดรธานี


ทั้งนี้จากคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อวานนี้(6 มี.ค.66) ผู้ต้องหาไปรับผู้ตายจากหน้าปากซอยรสทิพย์

-10.00 น. ผู้ต้องหาพาผู้ตายไปทำบุญที่วัดน้อยสุวรรณาราม หรือวัดคลองเก้า

-11.00 น. ออกจากวัด ไปจอดรถหน้าร้านอาหารใกล้กับสนามกอล์ฟ อ้างว่าถอนหงอก ให้กันในรถ เเละนอนพักผ่อน

-13.00 น. ฝ่ายชายเห็นเเชทฝ่ายหญิงคุยกับชายอื่น จึงทะเลาะกันในรถ

-ผู้หญิงด่า ผู้ชายบันดาลโทสะ เอาน้ำมันราดตัวทั้งคู่ในรถ เเต่ยังไม่ได้จุดไฟ

-ขับรถออกมาจากร้านอาหาร หน้านิคมอุตสาหกรรมบางปู

-ฝ่ายหญิงรู้สึกคัน จึงขอเปลี่ยนเสื้อผ้า

-พอถึงจุดเกิดเหตุ ซอย 9 A นิคมอุตสาหกรรมบางปู ฝ่ายหญิงถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนชุด เเต่ชุดอยู่หลังรถ ส่วนฝ่ายชายก็มีการถอดเสื้อเเค่ท่อนบน

-14.00น. ฝ่ายหญิงออกอุบายว่าหิวน้ำ ฝ่ายชายจึงลงไปขอน้ำจากนายประภาส เเละเดินไปซื้อไอศกรีมจากรถขายเร่

-ฝ่ายหญิงอาศัยจังหวะ วิ่งลงจากรถไปขอความช่วยเหลือจากลุงคนขับสองแถว


ทางด้าน พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมได้หลักฐานครบทุกอย่างเเล้ว มีทั้งกระป๋องน้ำมัน เเละอาวุธมีด


สาเหตุการลงมือ เกิดจากความหึงหวง โดยมีเรื่องระหองระเเหงกันมา 2 ปีเเล้ว อีกทั้งผู้ต้องหาได้ ไปเจอเเชทผู้ตายคุยกันคนอื่น เเละหาเรื่องทะเลาะมาตลอด ก่อนช่วงเกิดเหตุ ผู้ตายหนีออกจากบ้านไปนานประมาณ 10 กว่าวัน /และมีการนัดกับผู้ตายเมื่อวานนี้เพื่อเคลียร์ปัญหา โดยทำทีขนข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากหอ เพื่อให้ผู้ตายตายใจว่ายอมจะไปอยู่ ก่อนที่ในช่วงเช้าจะไปรับผู้ตายที่บริเวณหน้าปากซอยหอพัก เเละพาไปทำบุญด้วยกันที่วัด ซึ่งเหมือนจะกลับมาคุยกันดีอีกครั้ง แต่ทั้งคู่กลับมีปากเสียงกันในรถผู้ตายด่าทอ ทำให้ผู้ต้องหาโมโหจึงเอาน้ำมันราดตัวเองและผู้ตายในรถ แต่ยังไม่มีการจุดไฟ



จากนั้นฝ่ายหญิงรู้สึกแสบคันจากน้ำมัน จึงมีการถอดเสื้อผ้าเพื่อที่จะเปลี่ยนชุดที่อยู่หลังรถ ส่วนฝ่ายชายก็ถอดเสื้อ ระหว่างนั้นผู้หญิงบอกว่าหิวน้ำ ผู้หญิงอาศัยจังหวะทีเผลอ เปิดประตูรถวิ่งออกมา ร้องขอความช่วยเหลือจากลุงประภาส (คนขับรถสองแถว) ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะมีการวางเเผนไว้เเล้วเพราะมีการซื้อน้ำมันเตรียมไว้แต่ ผู้ต้องหาอ้างว่า จะนำไปใช้ในการเติมรถจักรยานยนต์ ส่วนอาวุธมีดดาบที่พบ อ้างว่ามีการพกติดตัวไว้อยู่แล้ว


ส่วนสาเหตุที่หนีไปบางปะกง เพราะเตรียมตัวจะฆ่าตัวตาย โดยเส้นทางหลังก่อเหตุ วิ่งไปทางเเพรกษา บางนาตราด เเละจอดริมเเม่น้ำ เเต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะถ้าผู้ต้องหาจะฆ่าตัวตาย ก็ตายไปตั้งเเต่เมื่อคืนเเล้ว


วันนี้ยังไม่มีการคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รอสอบปากคำให้ละเอียดอีกครั้ง เเละ คาดว่าน่าจะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนในวันพรุ่งนี้ช่วงเวลาประมาณ 10:00 น. เบื้องต้นได้เเจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาเกี่ยวกับการพกพาอาวุธมีด


ขณะที่รถคันที่ผู้ต้องหาขับหลบหนีไป อีซูซุ ไทรตัน สีขาว ถูกยึดกลับมาให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ โดยทันทีที่เปิดประตูออกมา มีกลิ่นน้ำมันลอยคละคลุ้งออกมา


ส่วนท้ายรถ ก็เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ ทั้งพัดลมตั้งพื้น ที่นอน ผ้าห่ม กล่องลัง และเสื้อผ้าของผู้ต้องหา เช่นเดียวกับมีดดาบพร้อมปอกที่มีความยาวเกือบ 2 ฟุต ก็ถูกนำมาตรวจพิสูจน์ ประกอบในสำนวนคดี


ทั้งนี้ ย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้วเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2557 ในท้อง สภ.วิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ นายต้น ผู้ต้องหา ขณะนั้นอายุ 33 ปี เคยตกเป็นข่าวก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน คือจ้างมอเตอร์ไซค์มาจากขอนแก่น เพื่อมาหาอดีตแฟนอายุ 41 ปีที่บ้าน ก่อนใช้น้ำมันเบนซิน ที่เตรียมมาราดตัวเองหวังจะจุดไฟเผาร่างของตน แต่ไม่เจอแฟนสาวเลยไม่เผาและใช้มีดพยามแทงที่หน้าท้องตัวเอง เพื่อเรียกร้องขอพบอดีตแฟนเป็นครั้งสุดท้าย ขณะนั้นตำรวจจึงใช้ความพยายามเกลี่ยกล่อมอยู่ 2 ชั่วโมง จึงยอมสงบสติอารมณ์ก่อนเชิญตัวไปที่ สภ.วิเชียรบุรี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/K_ew1Bzs5dg

คุณอาจสนใจ

Related News