อาชญากรรม

เปิดโพสต์สุดท้าย 'น้องนุ่น' ยังอวยพรสามีสุดหวาน - 'ศิริชัย' ตีหน้าเศร้าโพสต์ตามหาเมีย

โดย nattachat_c

21 ก.พ. 2567

321 views

จากกรณี นายศิริชัย รักทอง (สามี) อายุ 33 ปี ทำร้ายร่างกายนางสาวชลลดา หรือ นุ่น (ภรรยา) จนเสียชีวิต แล้วนำศพไปเผาอำพรางคดีที่สวนยางพารา ใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี แล้วเล่นละครตอนที่ไปแจ้งความ 


ซึ่งในวันนั้น แม่ของนุ่น (แม่ยาย) เชื่อว่านายศิริชัยเป็นคนฆ่า โดยขอให้ตำรวจเรียกนายศิริชัยมาสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีคลิปตอนที่แม่ของนุ่นในวันนั้น


แม่ของนุ่น บอกว่า ตั้งแต่นุ่นไปมีครอบครัวก็ไม่ได้ไปยุ่ง เพราะเห็นว่ามีความสุข อยากรู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน มาบอกแม่คนเดียวก็ได้ 


ซึ่งแม่ของนุ่นยังได้บอกอีกว่า ช่วงที่เกิดเหตุนายศิริชัย ไม่ได้บอกเรื่องของน้องนุ่นกับใครเลย ไม่ว่าจะเป็นแม่ หรือญาติ 


แม่มารู้ภายหลังในวันที่ 18 จากเพื่อนของนุ่น ว่านายศิริชัย เคยเอาเท้าเหยียบหน้านุ่น ทั้งที่ มีเพื่อนของนุ่นอยู่ด้วย จึ่งไม่สามารถไว้ใขจนายศิริชัยได้อีก

-------------- 

วันที่ 19 ก.พ. เวลา 9.21 น. นายศิริชัย ไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด ว่าภรรยาหายตัวไป โดยอ้างว่า ขณะขับรถพาภรรยากลับบ้าน ช่วง 03.00 น.ของวันที่ 18 ก.พ. 67 มีปากเสียงกันเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน จนภรรยางอน เปิดประตูลงจากรถ บริเวณถนนเลียบคลองประปา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งตนเดินลงไปง้อ และพาภรรยาขึ้นรถมา แต่ก็ทะเลาะกันอีก


จนคราวนี้ ภรรยาลงจากรถ เดินข้ามถนนไปขึ้นรถแท็กซี่ ส่วนตนเองก็ขับรถกลับมารอที่บ้าน แต่ภรรยาก็ไม่กลับมาอีกเลย


และนายศิริชัยยังบอกกับเพื่อนภรรยา แม่ภรรยา ว่า ช่วง 2 วันที่ภรรยาหายตัวไป ไปตรวจจีพีเอสโทรศัพท์ของนุ่นแล้ว มีการส่งสัญญาณในพื้นที่ 5 จังหวัด และพิกัดสุดท้ายอยู่ที่ อ.แปดริ้ว  จ.ฉะเชิงเทรา


ทำให้แม่และเพื่อนของนุ่น เกิดความคลางแคลงใจ สงสัยในพฤติกรรมของนายศิริชัยอย่างมาก เพราะเคยมีประวัติทำร้ายร่างกายนุ่นมาแล้ว  แม่ของนุ่น จึงสั่งให้ลูกเขยมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ปากเกร็ด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายศิริชัย อุ้มลูกน้อยมาโรงพักด้วย และยังมีการบอกด้วยว่า อยากให้นุ่นกลับมา ขอให้เห็นแก่ลูก


นายศิริชัย ยอมรับว่า ที่ผ่านมาภรรยาเคยมีพฤติกรรมหนีในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยทุกครั้งไม่เคยแจ้งว่าหนีไปที่ใด และแม้ตนจะเคยทะเลาะกับภรรยาหลายครั้ง จนถึงขั้นเอาเท้าเหยียบหน้า น.ส.ชลลดา แต่ทุกครั้งก็จะเป็นฝ่ายง้อ น.ส.ชลลดา เสมอ ยืนยันไม่ได้ฆ่าอำพรางน.ส.ชลลดา และสร้างเรื่องตามหาแฟนตามกระแสข่าว เชื่อปัจจุบัน น.ส.ชลลดา ยังมีชีวิต พร้อมต้องการให้หายงอนและรีบกลับมาหาด่วน

----------------------------------

ช่วงที่นุ่นหายตัวไปและเพื่อนโพสต์ประกาศตามหาในเฟซบุ๊ก นายศิริชัย ได้เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าว โดยบอกว่า


ไปแจ้งความคนหายกับตำรวจแล้ว และพบสัญญาณจีพีเอสที่ฉะเชิงเทรา เมื่อเพื่อนนุ่นเข้ามาคอมเมนต์ว่า  “แล้วทำไมถึงกล้าให้ลงจากรถ ไม่ตามตั้งแต่ตอนนั้น” แต่นายศิริชัยก็ตอบกลับว่า “นุ่นทำแบบนี้ประจำ เวลาไม่พอใจจะเปิดประตูลงรถ พอลงไปตาม ก็มีแต่วิ่งหนี น่าจะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดี ว่าเวลาตัวเองโมโหไม่พอใจใครเป็นแบบนี้  เคยบอกเตือนแล้วหลายครั้ง แต่นุ่นก็ทำแบบนี้เป็นประจำ อคติกับกูอะไรนักหนาว่ะ”
----------------------------------

ญาติของนุ่น ได้เปิดเผยข้อความแชต ที่นายศิริชัย พยายามแก้ต่างให้ตัวเอง หลังภรรยาหายตัวไป โดยบอกกับญาติว่า ภรรยาชอบแอบหนีไปทำงานเอนเตอร์เทนที่ปอยเปต พร้อมยืนยันหนักแน่นว่า บอกตำรวจไปหมดแล้ว


ญาติบอกว่าไม่เชื่อ ถ้าทำแบบนั้นจริงคงรวยนานแล้ว ถ้าไม่เอาเงินมาถวายผัว ถ้ารักกันจริงต้องไม่ปล่อยให้ไป ทั้งยังบอกอีกว่า ถูกผัวบังคับให้ไปทำงาน เงินผัวก็เก็บหมด หลานกูเลี้ยงมาไม่เคยตบตี มึงเป็นใครกล้าตบตีหลานกู สันดาน


ญาติยังได้ด่านายศิริชัยว่าแมงดา ไม่พอใจก็จะฆ่าจะตบตีลูกหลานเขาแบบไม่มีหัวใจ เงินที่มันหามาก็เอามาให้ผัว ถ้าไม่ให้มันจะฆ่า กูอ่านเกมออก


ขณะที่นายศิริชัยได้โต้แย้งว่า ก่อนจะปรักปรำให้ดูดีๆ ก่อน ตำรวจสอบละเอียดทุกอย่าง แสดงความบริสุทธิ์ให้เขาดูทุกอย่าง

----------------------------------

หลังจากที่มีข่าวว่า นายศิริชัย รับสารภาพว่า เป็นคนฆ่านุ่นเองกับมือและนำศพไปเผาอำพรางที่ปราจีนบุรี  ก็มีเพื่อนๆ ของนุ่น รวมทั้งเพื่อนของนายศิริชัยเอง เข้ามาโพสต์ต่อว่า ด่าทอในเฟซบุ๊กนายศิริชัยจำนวนมาก ต่างพากันแสดงความโกธรแค้นไม่อยากจะเชื่อว่านายศิริชัย จะเป็นคนจิตใจโหดร้ายได้ขนาดนี้


หลายคนระบายความโกรธแค้น ว่า


“ทำลงได้ยังไง พี่นุ่นก็ผู้หญิงตัวเล็กๆเอง ต้องทำขนาดนี้เลยหรอ ลูกก็มีแล้วนะ ความเป็นคนรู้จักไหมพี่”


“โรคจิต ตั้งเเต่สมัยเรียนประถมตอนเรียนด้วยกัน ไม่คิดเลยว่าจะทำจริงตอนโต กรีดหน้าตัวเองตอนนั้น ยังติดตาอยู่เลย มีเเต่เลือด”


“ทำไมอ่ะพี่ทอย ทำไมเหี้ยมแบบนี้ ผิดหวังมาก”


"จิตใจมึงนี่เกินคนจริงๆนะ ไม่คิดเลยว่ามึงจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ ทำอะไรไม่คิดถึงลูกมึงเลยสักนิด ไม่รักกันทะเลาะกัน ก็เลิกกัน ให้เขาได้ไปใช้ชีวิตใหม่ จะฆ่าเขาไปทำไมไอ้ทอย ตลอดมากูนึกว่ามึงได้ใช้ชีวิตที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี ยังเคยเอ่ยปากชมมึงกับเฮียมึง ไม่คิดเลยว่ามึงกลับเลวกว่าเฮียมึงอีก ขอให้ตำรวจจับมึงได้ ใครพิมพ์ว่ามึงนั้นแหละทำ กูยังไม่เคยคิดว่ามึงจะทำด้วยซ้ำ เห็นข่าวแฟนมึงตลอดทั้งคืน สงสารลูกมึงจริงๆ ไอ้เวร"


“อย่าว่าแต่เป็นพ่อคนเลย คนอย่างมึง ไม่สมควรเกิดมาเป็นคนเลยด้วยซ้ำ”

------------------

นายจารุพัฒน์ อนันตพิพรรธ หรือ คุณบิว พยานที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ เปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า


ตนเองมีอาชีพขับรถรับส่งลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน วันเกิดเหตุ ขับรถไปส่งลูกค้าที่ซอยแจ้งวัฒนะ 38 หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ก็กำลังจะเดินทางกลับ ระหว่างที่เดินมาที่ริมถนน ได้ยินเสียงคนโดนตบหน้า จึงหันไปดู เห็นผู้ชายคนหนึ่ง อุ้มเด็ก และกำลังตบหน้าผู้หญิงคนหนึ่งที่หมดสติ ตนเห็นลักษณะแบบนั้น ก็เข้าใจว่า สามีอุ้มลูกมาตามภรรยาที่กำลังเมา และกำลังปลุกเรียกสติภรรยา ประกอบกับ จุดที่เกิดเหตุนั้น มืดมาก ไม่ค่อยมีแสงไฟ ทำให้มองไม่เห็นว่า ฝ่ายหญิงมีสภาพเป็นอย่างไร มองไม่เห็นว่าบาดเจ็บหรือมีเลือดหรือไม่  ตนพยายามเดินผ่านเพื่อมองในจุดที่สว่าง แต่ระหว่างนั้นมีงานเข้ามาพอดี จึงต้องกดรับงาน และออกจากจุดเกิดเหตุไป  


จนเช้าวันต่อมา ตนทราบว่า ในโซเชียลมีการตามหาผู้หญิงคนหนึ่งที่หายตัวไป  จึงนึกย้อนไปถึงผู้ชายอุ้มเด็กกับผู้หญิงเมาริมทาง ก็สงสัยว่า จะใช่ผู้หญิงคนเดียวกับที่หายไปหรือไม่  แต่เนื่องจากข่าวที่ออกมาตอนแรก บอกว่า ผู้หญิงหายไปแถวคลองประปา แต่จุดที่ตนพบเหตุการณ์อยู่ที่แจ้งวัฒนะ 38 ตนจึงพยายามหาช่องทางติดต่อกับเพื่อนของคุณนุ่น ผู้สูญหาย เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่ตนเห็น


หลังจากประสานกับเพื่อนของคุณนุ่นได้แล้ว ก็ร่วมกันออกตามหาร่องรอยเบาะแสคุณนุ่น ที่บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 38 ซึ่งตรงจุดนั้น พบว่า มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่   ตน พร้อมกับเพื่อนของคุณนุ่น และคุณแม่ของคุณนุ่น จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดในจุดนั้น


ซึ่งเมื่อได้เห็นภาพในกล้อง ถึงกับช็อก และตกใจมาก เพราะไม่คิดว่า ฝ่ายชายจะโหดเหี้ยมแบบนี้ ทำร้ายภรรยา ทั้งที่ภรรยาไม่มีแรงจะสู้หรือขัดขืนแล้ว มีการเตะเสยหน้า กระทืบที่หัวและหน้าหลายครั้ง และยังก่อเหตุขณะที่อุ้มลูกอยู่ด้วย  ขนาดตนที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ยังรับไม่ได้กับภาพที่ได้เห็น ส่วนคุณแม่ของคุณนุ่น ยิ่งเสียใจที่ได้รับรู้เรื่องราวของลูกสาว

----------------
ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ยังได้ภาพกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่นายศิริชัย ทำร้ายร่างกายคุณนุ่น


โดยเป็นภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 บริเวณหน้าลิฟต์ คาดว่าเป็นในคอนโดมิเนียม หรือโรงแรม นายศิริชัย จิกผมกระชากหัวคุณนุ่น ตบเข้าที่ใบหน้า ต่อย ตีเข่า และถีบคุณนุ่นหลายครั้ง

----------------

 ในขณะที่เฟซบุ๊กของนางสาวชลลดา ผู้เสียชีวิต มีการโพสต์เฟซบุ๊กครั้งสุดท้าย เมื่อเวลา 23.04 น.ของวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของนายศิริชัย สามี เป็นภาพ 3 คนพ่อแม่ลูก และข้อความว่า

“สุขสันต์วันเกิดนะที่รัก เป็นแฟนที่น่ารักของเขาแบบนี้ตลอดไปนะ  ร่ำรวยๆ การงานราบรื่น สมหวังทุกปรารถนาน๊าาา”


นอกจากนี้ เมื่อย้อนไปดูโพสต์ก่อนหน้านี้ ก็จะมีการโพสต์รูปของลูกสาวตัวน้อยและสามี หลากหลายอิริยาบท ดูเหมือนเป็นครอบครัวที่มีความสุข


และโพสต์ที่ถูกปักหมุดไว้ด้านบนสุดของเฟซบุ๊กของนางสาวชลลดา คือภาพสองสามีภรรยา อุ้มลูกสาวตัวน้อยไว้แนบอก พร้อมข้อความที่นางสาวชลลดาโพสต์ไว้ว่า “little thing called love”

--------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/YAfJBAdZW9k




คุณอาจสนใจ

Related News